Test Drive Nissan Terra Sport รถนอกกระแส ยังน่าใช้อยู่หรือไม่
Test Drive Nissan Terra Sport รถนอกกระแส ยังน่าใช้อยู่หรือไม่ ในยุคปัจจุบันตลาดรถยนต์ในประเทศไทยกำลังตื่นตัวตื่นเต้นไปกับรถยนต์ไฟฟ้า 100% แน่นอน มันมีการออกแบบที่หวือหวา ทันสมัย ประหยัด และราคาถูก แต่ครั้งนี้เราไม่มาทดสอบรถยนต์ไฟฟ้า แต่ผมจะพาเพื่อนๆมาทดลองขับรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน (Internal Combustion Engine: ICE) 1 รุ่นที่เพื่อนๆอาจจะหลงลืมกันไปอย่าง Nissan Terra รถยนต์อเนกประสงค์ PPV เรามาดูกันว่ารถPPVคันนี้ยังน่าใช้อยู่หรือไม่
นิสสัน เทอร์ร่า รถอเนกประสงค์แบบ 7 ที่นั่ง ที่ได้มีการปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ให้ดูสปอร์ตพรีเมียม และทันสมัยภถูกที่สุดในบรรดารถ PPV เครื่องยนต์สันดาปตัวท็อปที่ทำตลาดในประเทศไทย ณ เวลานั้น
การออกแบบภายนอก
มีการปรับลุคใหม่ให้ดุดัน สปอร์ต และพรีเมียมมากขึ้นด้วย กระจังหน้าสีดำเงา รับกับชุดตกแต่งกันชนหน้าสีดำเงาได้อย่างลงตัว ไฟหน้า Quad LED 4 ดวง ประสิทธิภาพสูงให้ความสว่างมากขึ้นถึง 34% ตัวโคมไฟถูกดีไซน์ให้เพรียวบาง ดูปราดเปรียว ไฟ Daytime Running Light และไฟตัดหมอกแบบ LED
พร้อมฝาครอบไฟตัดหมอกสีดำ กระจกมองข้างสีดำเช่นกัน แผงกันกระแทกด้านหน้า คิ้วตกแต่งซุ้มล้อ มือจับประตูภายนอก บันไดข้าง ติดตั้งราวหลังคามาให้เรียบร้อยพร้อมใช้งาน
เสาอากาศครีบฉลาม ด้านท้ายมีสปอยเลอร์หลังคาเสริมความสปอร์ต ทั้งหมดเป็นสีดำทำให้รถดูดุดันมากขึ้น ไฟท้าย LED แบบ Light Guide เส้นคู่ ให้ความรู้สึกล้ำสมัย ไฟเบรกแบบ LED คิ้ว ชุดตกแต่งกันชนหลังสีดำเงาพร้อมสัญลักษณ์ Sport ด้านหลัง ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 18 นิ้ว ออกแบบให้สอดคล้องกับดีไซน์ภายนอก เพิ่มความสปอร์ต ด้วยการใช้สีทูโทน
ด้านมิติตัวถัง
ยาว 4,890 มม. กว้าง 1,865 มม. และสูง 1,865 มม. ระยะฐานล้อ 2,850 มม. ระยะความสูงใต้ท้องรถ 225 มม. รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.7 เมตร ระยะมุมเงย Approach Angle : 33 องศา ระยะมุมจาก Departure Angle : 26 องศา
การออกแบบภายใน
ภายในเน้นกว้างขวางนั่งสบาย ตำแหน่งเบาะนั่งแถว 2 และ 3 ออกมาในรูปแบบ Theatre Style Seating เพื่อให้ผู้โดยสารตอนหลังรู้สึกโปร่งโล่งสบาย ไม่อึดอัดแม้นั่งในแถวที่ 3 ก็สามารถมองเห็นทัศนวิสัยด้านหน้าได้อย่างชัดเจน แถมยังมีระบบ Auto Tumble Seat ที่คอนโซลกลางสามารถพับเบาะนั่งแถวที่ 2 อัตโนมัติแค่กดปุ่มเพียงจากสวิตช์แบบ 1-Touch Remote Fold & Tumble เพื่อความสะดวกในการขึ้นลงของผู้โดยสารแถวที่ 3
ระบบความบันเทิงจัดเต็ม
หน้าจออินโฟเทนเมนท์ขนาด 9 นิ้ว ที่รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto พร้อมระบบเสียงรอบทิศทางจาก BOSE ลำโพง 8 ตำแหน่ง พร้อมแอมพลิฟายเออร์ ด้านบนเพดานมาพร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่ 11 นิ้ว ที่สามารถดูได้ทั้ง NetFlix และ Youtube ผ่านช่อง HDMI
เพื่อมอบความบันเทิงให้กับผู้โดยสารตอนหลังได้ตลอดเส้นทาง และเย็นสบายตลอดการเดินทางเพราะมีช่องแอร์ครอบคลุมครบทั้ง 7 ที่นั่ง รวมถึงจุดเสียบชาร์จไฟที่มีให้ทั้งแบบ USB-A 3 ตำแหน่ง และ USB-C อีก 2 ตำแหน่ง รวมไปถึงแท่นชาร์จแบบไร้สาย (Wireless Charger) ที่ด้านหน้า
ระบบขับเคลื่อน
ดีเซล 2.3 ลิตร 4 สูบ DOHC Twin-Turbo Intercooler (เทอร์โบคู่) กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ที่ 1,500 – 2,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Part-time Shift-on-fly มีระบบเฟืองท้าย B-LSD (Electronic Limited Silp) และระบบล็อคเฟืองท้าย Rear Diff-lock มาให้
ระบบช่วงล่าง และระบบเบรก
ระบบช่วงล่าง ด้านหน้าเป็นอิสระปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริง และ เหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังเป็นแบบ Five-Link Suspension พร้อมคอยล์สปริง และ เหล็กกันโคลง
ระบบเบรก คู่หน้า ดิสก์เบรก แบบมีช่องระบายความร้อน และคู่หลัง ดิสก์เบรก แบบมีช่องระบายความร้อน
การทดลองขับ Test Drive Nissan Terra Sport
เราเริ่มต้นจากการขับขี่ในตัวเมืองที่มีสภาพการจราจรที่ค่อนข้างหนาแน่น ถนนแคบเล็ก กันก่อนเลย NISSAN TERRA SPORT 2.3 VL 4WD คันนี้ ด้วยรูปทรงของตัวรถที่คันใหญ่หลายท่านคงคิดว่ามันต้องขับยากไม่คล่องตัว แต่เมื่อขึ้นไปนั่งหลังพวงมาลัยแล้วบอกเลยว่าทัศนวิสัยดีมากทีเดียว เพราะด้วยตัวรถที่สูงทำให้เรามองเห็นได้รอบ และไกล ขับง่ายสบายเลยครับ มีความคล่องตัวดีครับ ลัดเลาะสบาย อัตราเร่งช่วงออกตัวดูจะหนืดๆไปนิด แต่ก็ไม่ได้อืดจนน่าเกลียด พวงมาลัยน้ำหนักกำลังดี
ออกมาหาถนนโล่งๆลองอัตราเร่งกันซะหน่อยว่าเครื่องยนต์ดีเซล 2.3 พลัง 190 แรงม้า มันจะดีแค่ไหน กดคันเร่งลงไปรถค่อยๆเคลื่อนตัวออกไปแบบไม่กระโชกโฮกฮาก มีจังหวะหน่วงๆในช่วงออกตัว ช่วงกลางความเร็วเพิ่มขึ้นต่อเนื่องและนุ่มนวลดี จนไปแตะที่ประมาณ 170 กม./ชม. ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก การเร่งแซงไม่มีปัญหา แต่ในบางจังหวะอาจจะต้องมีการคิกดาวน์ช่วยหน่อยก็แค่นั้น
การขึ้นลงเขาไม่มีปัญหาพละกำลังเหลือๆขึ้นเขาชันๆสบาย ระบบช่วงล่างถูกปรับเซ็ทมาเพื่อความนุ่มนวลเป็นหลัก วิ่งทางตรงยาวด้วยความเร็วที่ค่อนข้างสูงตัวรถยังคงนิ่งไม่มีอาการโคลง ขับผ่านหลุม หรือคอสะพาน ก็สามารถดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้ดี แต่การเข้าโค้งด้วยความเร็วตัวรถจะมีอาการโคลงให้ได้สัมผัสบ้าง ต้องบอกว่าระบบช่วงล่างที่ปรับเซ็ทมาแบบนี้ขับบนเส้นทางออฟโรดสบายครับเพราะมันจะดูดซับแรงจากผิวทางที่ขรุขระได้ดี
ระบบความปลอดภัย และ สิ่งอำนวยความสะดวก
ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบเสริมแรงเบรก BA ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (VDC) ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill Start Assist (HSA) ระบบช่วยลงทางลาดชัน Hill Descent Control (HDC) ระบบตรวจจับวัตถุและบุคคลรอบคัน Moving Object Detection (MOD) ระบบเตือนการชนด้านหน้า (IFCW) ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน (IEB) ระบบเตือนเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (IDA) ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา Blind Spot Warning (BSW)
ระบบเตือนเมื่อมีรถตัดผ่านด้านหลัง (RCTA) ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง Lane Departure Warning (LDW) กระจกมองหลังแบบใช้กล้องแสดงภาพ Intelligent Rear View Mirror (i-RVM) ระบบเตือนแรงดันลมยาง กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา Around View Monitor (AVM)
เซนเซอร์กะระยะช่วยจอดด้านหน้า 4 ตำแหน่ง เซนเซอร์กะระยะช่วยจอดด้านหลัง 4 ตำแหน่ง ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง (คู่หน้า-ด้านข้าง-ม่านนิรภัย) ระบบกุญแจ Immobilizer ระบบสัญญาณกันขโมย และจุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX จะขาดไปก็แค่ Adaptive Cruse Control เท่านั้น
สรุป
NISSAN TERRA SPORT 2.3 VL 4WD คันนี้ ด้วยรูปทรงของตัวรถก็ยังคงเท่ สวยงาม ถึงแม้ยุคนี้จะเป็นยุครถยนต์ไฟฟ้า แต่เครื่องยนต์สันดาปภายในก็ยังคงน่าสนใจอยู่ เพราะอย่าลืมครับว่าถ้าเราใช่ไปนานๆเวลาซ่อมผมว่า
เครื่องสันดาปภายในมันหาอู่ซ่อมได้ง่ายกว่า อะไหล่ก็มีพร้อมเพียงพอไม่ต้องรถนาน แถมประกันภัยก็ไม่แพง ถึงแม้มันจะประหยัด และแรง สู้รถยนต์ไฟฟ้าไม่ได้ แต่เรื่องความคุ้มค่าสู้ได้แน่นอน แถมช่วงนี้เป็นช่วงฤดูกาลน้ำท่วมซะด้วยผมว่า TERRA SPORT คันนี้ก็ยังคงให้ความเชื่อมั่น และมั่นใจได้ กับราคา 1,555,000 บาท
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th