ลองตัวแรง 350 ม้า! GWM POER SAHAR HEV กระบะไฮบริดรุ่นแรกของไทย
หลังจากเปิดตัวอวดโฉมในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 เมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ถือว่าสร้างกระแสให้กับรถกระบะขุมพลังไฮบริดได้อย่างมากมาย พร้อมที่มีความสงสัยและความอยากรู้หลายเรื่องว่า ตลาดรถกระบะถึงเวลาที่จะเป็นขุมพลังไฮบริดหรือไฟฟ้าล้วนๆ ได้หรือยัง รวมทั้งราคาค่าตัวควรจะอยู่ที่เท่าไหร่ จะแข่งขันในตลาดได้หรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้เร็วๆ นี้ในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ที่ใกล้เข้ามาถึงนี้ จะได้รู้กันอย่างแน่นอน
สำหรับรถกระบะภายใต้แบรนด์ GWM POER (โพเออร์) ถือเป็นอีกหนึ่งแบรนด์เรือธงที่ เกรท วอลล์ มอเตอร์ มีความเชี่ยวชาญมากที่สุด และมีประวัติมาอย่างยาวนาน มียอดขายในจีนนานถึง 26 ปี (1998-2023) มีส่วนแบ่งตลาดในจีนถึง 50% มียอดขายสะสมใน 4 ทวีป กว่า 50 ประเทศ มากกว่า 2.54 ล้านคัน และยังได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาว จากการทดสอบการชนตามมาตรฐานออสตราเลเซีย หรือ ANCAP อีกด้วย
GWM POER SAHAR HEV กระบะไฮบริดที่เน้นความแรงที่พร้อมขับเคี่ยวสมรรถนะให้เร้าใจ มาพร้อมขุมพลังไฮบริด ขนาด 2.0 ลิตร 244 แรงม้า แรงบิด 380 นิวตันเมตร ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า 106 แรงม้า แรงบิด 268 นิวตันเมตร ทำให้มีแรงม้ารวมถึง 350 แรงม้า แรงบิด 648 นิวตันเมตร มาพร้อมโหมดขับขี่ 5 รูปแบบ คือ Normal, Eco, Sport, 4L และ 4H (4L, 4H มีเฉพาะในรุ่น 2.0 HEV Ultra Double Cab Auto AWD) มีตัวเลือก 2 รุ่น คือ รุ่น 2.0 HEV Pro Double Cab Auto และ รุ่น 2.0 HEV Ultra Double Cab Auto AWD มีสีตัวถังให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีขาว Hamilton White, สีดำ Sun Black และ สีเทา Ayers Gray ส่วนสีภายในมีสีเดียวคือ สีดำ Jade Black
มิติตัวถัง ยาว 5,445 มม. กว้าง 1,991 มม. สูง 1,924 มม. ระยะฐานล้อ 3,350 มม. ยาวที่สุดในตลาดรถกระบะในปัจจุบัน มีดีไซน์ด้านหน้าที่ตกแต่งด้วยกระจังหน้าโครเมียมดีไซน์เรียบหรู, ไฟหน้า Intelligent LED พร้อมระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ, ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ, ฟังก์ชั่นหน่วงเวลาไฟส่องทางหลังดับเครื่อง พร้อม Daytime Running Light ไฟตัดหมอกแบบ LED รวมทั้งเพิ่มจุดเด่นด้วยโลโก้ POER ที่สะท้อนตัวตนของการเป็นรถกระบะระดับพรีเมียม
มีจุดโดดเด่นที่ฝาท้ายด้านหลัง ที่ถูกออกแบบให้แตกต่างจากรถกระบะทั่วไป ด้วยฝาท้ายอัจฉริยะที่เปิด-ปิด ได้ 2 รูปแบบ ควบคุมผ่านปุ่มกดที่อยู่กลางโลโก้ POER ด้วยการกดปุ่ม 2 จังหวะ และมาพร้อมล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว ยางขนาด 265/60
ด้านภายในห้องโดยสารติดตั้งระบบความบันเทิงพร้อมลำโพง Infinity จำนวน 10 ตำแหน่ง หน้าจอทัชสกรีน ขนาด 12.3 นิ้ว, เบาะนั่งหนังแท้, เบาะนั่งไฟฟ้าคู่หน้า พร้อมระบบเบาะนวดไฟฟ้า ระบบระบายอากาศ และเบาะคนขับยังปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง มีระบบดันหลังปรับไฟฟ้า ส่วนเบาะนั่งฝั่งผู้โดยสารปรับไฟฟ้าได้ 4 ทิศทาง ในภาพรวมนี้ถือว่า GWM POER SAHAR HEV จัดออปชั่นให้ครบและไม่น้อยหน้าใครในตลาดด้วยเหมือนกัน
ในส่วนของการทดลองขับ เป็นเส้นทางจากกรุงเทพไปยังประจวบคีรีขันธ์ ด้วยขนาดตัวถังที่ค่อนข้างใหญ่ และหน้าตาที่แปลกตาคนไทย ทำให้กลายเป็นจุดสนใจได้อย่างง่ายดาย มีความดุดันและให้ความแข็งแกร่งอย่างชัดเจน ซึ่งไปกันได้ดีกับอัตราเร่งที่ถือว่าจัดจ้าน แรงจัด ในช่วงออกตัวจะให้อารมณ์คล้ายๆ การออกตัวด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า แต่ไม่ได้ว่องไวมาก มีการหน่วงเล็กน้อย ทำให้รู้สึกว่าออกตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป และไม่ได้อืด แต่พอขยับความเร็วขึ้นในช่วง 60 กม./ชม. ขึ้นไป จะรู้สึกได้ทันทีว่ารถมีแรงบิดที่พร้อมส่งตัวถังที่หนัก 2.06 ตัน พุ่งไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว อัตราเร่งในแต่ละช่วงความเร็วทำได้ถึงใจมากๆ แรงแบบเอาจริงเอาจัง พละกำลัง 350 แรงม้า ทำมาได้จัดจ้าน รอบเครื่องมาเร็ว ซึ่งอารมณ์ในการขับคล้ายๆ กับการขับรถในแบบเอสยูวี พวงมาลัยแม่นยำสูง ช่วงล่างด้านหน้าปรับเซ็ตมาให้มีความนุ่มนวล ด้านหลังค่อนข้างแข็งพอประมาณ ขับบนทางเรียบถือว่าทำได้ดี อาการท้ายโยนเวลาเข้าโค้งด้วยความเร็วถือว่ามีอยู่ให้สัมผัสได้ การขับด้วยตัวถังที่ไม่ได้มีน้ำหนักบรรทุกด้านท้ายจะรู้สึกว่าช่วงล่างด้านหลังค่อนข้างแข็งและกระเด้งพอสมควรถ้าเจอพื้นถนนที่ไม่เรียบ ซึ่งถือว่าปกติสำหรับรถกระบะ และหากมีน้ำหนักถ่วงที่กระบะท้ายสัก 100-200 กิโลกรัม น่าจะทำให้ช่วงล่างด้านหลังทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งการใช้ช่วงล่างด้านหลังแบบแหนบซ้อน ไม่ใช่คอยล์สปริงกึ่งอิสระ ถือว่าทำมาได้ดี ทำให้ภาพรวมมีความนุ่มนวลและเกาะถนนได้ดี
เรื่องของภายในห้องโดยสาร ถือว่าออกแบบมาให้ห้องโดยสารกว้างแบบสะใจ เบาะนั่งรอบรับสรีระได้ดี เนื้อของฟองน้ำทำได้นุ่มพอประมาณ ทำให้ขับทางไกลได้สบายมากขึ้น และด้วยกระจกบังลมหน้าที่มีขนาดใหญ่ทำให้ทัศนวิสัยในการขับทำได้ดีมาก เรื่องของการออกแบบภายในสไตล์นี้ทำให้ความรู้สึกของการขับรถกระบะเปลี่ยนไปมาก ให้ความรู้สึกเหมือนกับการขับรถเอสยูวีมากกว่า เหมาะกับการขับทางไกลโดยเฉพาะ
ยังมีอีกหนึ่งจุดเด่นที่น่าสนใจ นั่นคือ กระบะฝาท้ายอัจฉริยะที่เปิด-ปิด ได้ 2 รูปแบบ ควบคุมผ่านปุ่มกดที่อยู่กลางโลโก้ POER ด้วยการกดปุ่ม 2 จังหวะ กดปุ่มค้างจะเปิดฝาท้ายลงมาทั้งชิ้น และกดปุ่มครั้งเดียวจะเป็นการเปิดแบบ 60:40 หรือแบบตู้กับข้าว ซึ่งทำให้การใช้งานพื้นที่ของกระบะทำได้สะดวกยิ่งขึ้นกว่าการเปิดแบบเดิมๆ แต่จุดนี้ยังมีความเสี่ยงด้วยเช่นกัน เพราะหากเกิดการชนด้านท้ายถึงตัวฝาท้าย การซ่อมแซมคงต้องเปลี่ยนทั้งฝาท้าย เพราะรายละเอียดของฝาท้ายแบบนี้มีหลายจุดที่สำคัญมากเนื่องจากมีชิ้นส่วนภายในค่อนข้างเยอะ การซ่อมแซมให้กลับมาสมบูรณ์จะทำได้ยากหน่อย
ในภาพรวมของการขับ GWM POER SAHAR HEV เป็นกระบะไฮบริดที่ตัวถังขนาดใหญ่ แต่มีความคล่องตัวสูง พวงมาลัยน้ำหนักกำลังดี มีความแม่นยำสูง ช่วงล่างเน้นความนุ่มนวล ช่วงล่างด้านหลังจะกระด้างหน่อย อัตราเร่งทำได้น่าประทับใจ การออกตัวทำได้ไม่เร็วมาก แต่ไม่อืด ความเร็วช่วงกลางถึงปลายทำได้น่าตื่นเต้น เมื่อความเร็วเกิน 60 กม./ชม. ขึ้นไป ทำได้ลื่นไหลดีมาก การเร่งแซงกดคันเร่งเติมลงไป 50% จะรู้สึกได้เลยว่าแรงบิดพร้อมส่งตัวรถให้เร่งแซงได้ทันใจ แต่หากเป็นตัวถังเปล่าไม่มีการบรรทุกจะรู้สึกท้ายหวิวๆ ได้บ้าง เมื่อความเร็วทะลุ 120 กม./ชม. ซึ่งเมื่อลองท๊อปสปีดแล้วทำได้ร่วม 170 กม./ชม. แต่ยังสามารถไปต่อได้อีก เป็นกระบะไฮบริดที่ถือว่าเรี่ยวแรงมากพอตัว พละกำลังรวม 350 แรงม้า แรงบิด 648 นิวตันเมตร ขนาดนี้ ถ้ามีโอกาสจะขอลองบรรทุกสัมภาระสัก 500 กิโลกรัม จะได้รู้ว่าการขับจะเปลี่ยนไปขนาดไหน
ส่วนเรื่องที่หลายคนอยากรู้ที่สุดคือเรื่องของอัตราสิ้นเปลือง GWM POER SAHAR HEV เป็นกระบะเบนซินไฮบริด เติมแก๊สโซฮอลล์ 95 ทำอัตราสิ้นเปลืองเอาไว้คร่าวๆ อยู่ที่ 11-12 กม./ลิตร (ในการทดลองขับมีการสลับผู้ขับขี่) แต่ปีหน้าได้ข่าวมาว่าจะมีรุ่นที่เป็นเครื่องยนต์ดีเซลเข้ามาทำตลาดด้วยอีก 1 รุ่น เอาเป็นว่าใครที่อยากลองของใหม่ อยากมีความแตกต่าง ต้องลองขับดู อาจจะถูกจริตก็เป็นได้
ส่วนการประกาศราคาขายพร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ GWM POER SAHAR HEV รถกระบะขุมพลังไฮบริดรุ่นแรกในประเทศไทย ที่จะเปลี่ยนนิยามของรถกระบะให้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป มาพร้อมกับแพลตฟอร์ม TANK พร้อมให้จับจองและเป็นเจ้าของภายในงาน Motor Expo 2024 รวมทั้ง พาร์ทเนอร์ สโตร์ ทั่วประเทศ และพร้อมส่งมอบทันทีอีกด้วย
เรื่อง : พุทธิ ผาสุข
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th