Volvo EX90 เปิดตัวที่ไทยเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยราคาค่าตัว ระดับ 4,290,000 ไปถึง 4,890,000 บาท มีตัวเลือกทั้งแบบ 6 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง ชูความเป็นรถยนต์ไฟฟ้าพรีเมี่ยมสไตล์เอสยูวีขนาดใหญ่ ที่ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยที่สุด เทคโนโลยีเหนือชั้น การออกแบบภายในห้องโดยสารที่เป็นมิตรกับทุกคน ใช้งานสะดวกสบาย และยังคงเอกลักษณ์การออกแบบสไตล์สแกนดิเนเวียนเอาไว้อย่างเต็มเปี่ยม

จุดเด่นที่น่าสนใจของ EX90 นอกจากเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเอสยูวีขนาดใหญ่ ที่มีตัวเลือกแบบ 6 และ 7 ที่นั่ง ยังมีการออกแบบที่ทันสมัยด้วยดีไซน์แบบฟรัช (Flush) ที่ทำให้มีค่าความต้านทานลมที่ Cd 0.29 ซึ่งถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับขนาดของตัวถัง มีหน้าจอกลางแนวตั้งขนาด 14.5 นิ้ว พร้อม User Interface ที่ออกแบบให้มีความเรียบง่าย ใช้งานสะดวก เข้าถึงฟังก์ชั่นต่างๆ ได้ง่าย

ออกแบบห้องโดยสารให้มีความรู้สึกผ่อนคลาย เลือกใช้พลาสติกรีไซเคิลและพลาสติกชีวภาพมาใช้ 13% ใช้เหล็กรีไซเคิล 23% และยังใช้ไม้จริงทั้งหมดในการตกแต่งแผงแดชบอร์ด และแผงประตู โดยเป็นไม้แอช (Light Ash) และไม้เบิร์ช (Birch) ที่ได้รับการรับรองว่าเป็นไม้ที่ได้มาจากแหล่งป่าไม้ที่ถูกต้องตามหลักการทางสิ่งแวดล้อม ซึ่งน่าจะโดนใจคนรักสิ่งแวดล้อมที่ชื่นชอบความเรียบง่ายแต่มีเรื่องราวมากๆ

ส่วนขุมพลังของ EX90 มีทั้งรุ่น Twin Motor และ Twin Motor Performance แบตเตอรี่ ขนาด 111 กิโลวัตต์ชั่วโมง มอเตอร์แม่เหล็กไฟฟ้าอีก 2 ตัว มีระยะทางการขับสูงสุด 745 กม. ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง โดยในรุ่น Twin Motor มีพละกำลัง 408 แรงม้า แรงบิด 770 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 5.9 วินาที ส่วนรุ่น Twin Motor Performance พละกำลังสูงสุด 517 แรงม้า แรงบิด 910 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 4.9 วินาที

โดยรุ่นที่ได้ขับครั้งนี้เป็น Twin Motor Performance ขับแบบใช้งานจริงจากแถวตลิ่งชันไปราชบุรี ระยะทางไป-กลับ เกือบ 400 กม. ตอนเริ่มออกเดินทางแบตเตอรี่มีอยู่ 95% ระยะทางขับแจ้งไว้ที่ 580 กม. ใช้ความเร็วตามการใช้งานจริง มีเร่งแซงบ่อยๆ เมื่อขับไปถึงจุดหมายปลายทางเป็นระยะทาง 153 กม. แบตเตอรี่เหลืออยู่ 62% คิดเป็นระยะทางที่ขับได้อีก 360 กม. คิดเป็นการใช้พลังงานตามหน้าจอแจ้งไว้อยู่ที่ 24 กิโลวัตต์ชั่วโมง ต่อ 100 กิโลเมตร ถือว่าใช้พลังงานเยอะพอสมควร แต่ถ้าคิดง่ายๆ รถคันใหญ่ น้ำหนัก 2.8 ตัน ไม่มีทางที่จะใช้พลังงานได้ในระดับ 12-14 กิโลวัตต์ชั่วโมง ต่อ 100 กิโลเมตร เหมือนกับรถยนต์ไฟฟ้าที่มีขนาดเล็กกว่าอย่างแน่นอน แลกกับพละกำลังที่ได้แล้วถือว่าโอเค

ในเรื่องของอัตราเร่งถือว่ามาแรง และเร็วมากๆ ตามสเปคอยู่แล้ว การเร่งแซง หรือการเปลี่ยนเลนในช่วงที่รถติด ถึงตัวรถจะมีขนาดใหญ่แต่มีความคล่องตัวสูงมาก น้ำหนักพวงมาลัยไม่เบาเกินไป ให้อารมณ์ในการควบคุมที่ตึงมือกำลังดี เสริมด้วยแรงบิดที่สูงทำให้การควบคุมมีความกระฉับกระเฉงมาก ระบบช่วงล่างที่เป็นแบบถุงลม ทำให้การขับขี่มีความนุ่มนวลมาก เข้าโค้งได้เนียนและนิ่ง แม้จะใช้ความเร็วสูง สไตล์ของการขับยังคงเป็นคาแรกเตอร์ของวอลโว่อย่างชัดเจน นั่นคือ นุ่ม นิ่ง และหนึบ ในทุกย่านความเร็ว

แต่ในการใช้งานอาจจะรู้สึกไม่สะดวกอยู่บ้าง สำหรับคนที่ไม่คุ้นเคย เพราะฟังก์ชั่นสั่งการทำงานส่วนใหญ่อยู่ในหน้าจอทัชสกรีนแนวตั้งขนาด 14.5 นิ้ว ทั้งหมด รวมถึงการปรับกระจกมองข้าง และปรับระดับพวงมาลัย ต้องเข้าเมนูในหน้าจอเช่นกัน ซึ่งต้องปรับตัวกับการใช้งานกันพอสมควร ถึงอย่างนั้นในเรื่องของระบบความบันเทิงถือว่าทำได้ประทับใจสุดๆ ด้วยชุดเครื่องเสียงระดับ Hi-Fi คุณภาพสูงจาก Bowers & Wilkins พร้อมระบบเสียง Dolby Atmos (มีในรุ่น Ultra Twin Performance) ที่ให้เสียงที่เก็บในทุกรายละเอียด ยิ่งเตรียมไฟล์เพลงคุณภาพสูงเอาไว้ ยิ่งทำให้ห้องโดยสารกลายเป็นเวทีคอนเสิร์ตไปเลย

อีกหนึ่งเรื่องที่น่าสนใจ คือ การใช้งาน Google Built-in มีทั้ง Google Maps, Google Assistant และ Google Play ที่อัพเดทซอฟต์แวร์ผ่าน over-the-air ปกติแล้วหากใครใช้ Google Maps เชื่อมต่อกับระบบของรถยนต์จะรู้สึกถึงความแตกต่าง เพราะเมื่อใช้ Google Map ที่ Built-in จะมีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับปริมาณแบตเตอรี่ที่เหลือเมื่อไปถึงจุดหมายปลายทาง แจ้งเอาไว้ด้วย ซึ่งการใช้ Google Map เชื่อมต่อปกติจะไม่มีข้อมูลส่วนนี้แจ้งขึ้นมา ทำให้สามารถประเมินการขับใช้งานได้แม่นยำมากขึ้น ซึ่งเมื่อตั้งการเดินทางจากกรุงเทพไปราชบุรี ในหน้าจอ Google Map แจ้งขึ้นมาเลยว่า ระยะทางที่ขับนี้ เมื่อขับถึงจุดหมายปลายทางจะมีระยะเหลืออยู่ที่เท่าไหร่ อย่างการขับครั้งนี้ ระบบแจ้งไว้ว่าเมื่อไปถึงปลายทางจะมีแบตเตอรี่เหลืออยู่ 62% ซึ่งเมื่อขับไปถึงปลายทาง ตัวเลขผิดกันนิดหน่อย ตามหน้าจอแจ้งเหลืออยู่ที่ 63% ยังถือว่าเป็นตัวเลขที่เชื่อถือได้ แม่นยำพอสมควร ช่วยให้ประเมินระยะทางและการเตรียมพร้อมสำหรับการชาร์จไฟฟ้าได้ดีกว่าเดิม

แม้ว่าจะเป็นการขับระยะสั้นๆ แต่พอทำให้รู้ว่าคาแรกเตอร์ของ Volvo EX90 นั้นเป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบเอสยูวีขนาดใหญ่ ที่ลุคมาพร้อมกับความพรีเมียม เรียบหรู ภายในห้องโดยสารละเมียดละมัย วัสดุเกรดพรีเมียม เครื่องเสียงระดับสุดยอด เบาะนั่งนุ่มนั่งสบายในทุกตำแหน่ง สไตล์การขับให้ความนุ่มนวลมาก ช่วงล่างนิ่ง แน่น หนึบ อัตราเร่งจัดจ้าน ครบเครื่องในแบบรถยนต์ไฟฟ้า แต่อาจจะใช้พลังงานมากไปหน่อย รวมทั้งราคาค่าตัวที่แตะหลัก 4 ล้านบาท ส่วนถ้าใครเป็นแฟนวอลโว่อยู่แล้ว บอกเลยว่า คุณไม่ได้ซื้อแค่รถยนต์ไฟฟ้า แต่คุณซื้อสไตล์ของวอลโว่ที่ยังคงมีความชัดเจนทั้งรูปลักษณ์และสไตล์การขับขี่ สมกับความเป็น Premium SUV จริงๆ

เรื่อง : พุทธิ  ผาสุข

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th