ลองขับ TOYOTA REVO ROCCO 2020 ปรับช่วงล่างใหม่ เปลี่ยนเทอร์โบใหญ่ ดีขึ้นจริงหรือไม่
หลังจากการเปิดตัว TOYOTA HILUX REVO 2020 ที่เรียกความสนใจของลูกค้าชาวไทยได้ดีเยี่ยม จนกลายเป็นทอร์คออฟเดอะทาวน์ ล่าสุดทางโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ได้จัดการทดลองขับ TOYOTA HILUX REVO ROCCO 2020 ซึ่งมีเครื่องยนต์ 2.8 ลิตร 204 แรงม้า แรงบิดที่ 500 นิวตันเมตร พร้อมช่วงล่างที่มีการปรับเซ็ทใหม่ เราไปดูกันว่ามันจะดีขึ้นจริงหรือไม่
ครั้งนี้เราจะพูดถึง TOYOTA HILUX REVO ROCCO 2020 รุ่นเดียวนะครับ เพราะเราได้ลองขับรุ่นเดียว โดยการทดลองขับนี้เป็นแบบสั้นๆมีสเตชั่นต่างๆให้ได้ทดลองภายใน Toyota Driving Experience Park แถวย่านบางนาตราด เรื่องการดีไซน์ภายนอกภายในเราจะไม่พูดถึงแล้วกันนะครับ เพราะภายคนก็มองว่าสวย บางคนก็ว่าเฉยๆ เอาเป็นว่าเรื่องการดีไซน์เราตอบไม่ได้จริงๆ แต่ถ้าถามผมว่า TOYOTA HILUX REVO ROCCO 2020 ดูสวย ดูเท่ห์ หรือไม่ “ผมตอบได้เลยว่าส่วนตัวผมว่ามันก็ดูดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าเยอะอยู่นะครับ” เพราะหน้าตาภายนอกของ Revo Rocco ได้กระจังหน้าทรงเหลี่ยมเข้มคล้ายกับปิกอัพฟูลไซส์จากอเมริกาเช่น Tacoma นอกจากนี้ มีโคมไฟโปรเจคเตอร์ Bi-LED กับไฟส่องสว่างเวลากลางวัน LED วางอยู่ในโคมเดียวกัน และไฟท้ายเปลี่ยนมาใช้แบบ LED Light Guiding ล้ออัลลอยสีดำลายใหม่ให้มาขนาด 18 นิ้ว รัดด้วยยาง 265/60R18 อักษรข้างยางสีขาว จากนั้นจึงติดตั้งชุดแต่งพิเศษที่มีตั้งแต่สปอร์ตบาร์สีดำ กันชนหน้า ซุ้มล้อ กันชนหลังอันเป็นสไตล์เฉพาะรุ่น Rocco และให้ระบบช่วยผ่อนแรงเปิดปิดฝาท้ายกระบะมาด้วย
“แอบบอกนิดนึงครับเอาเป็นว่าถ้าเพื่อนๆเพิ่งซื้อรุ่นก่อนหน้ามา หรือยังไม่พร้อมีที่จะออกรถใหม่ตอนนี้ ผมจะบอกว่าสามารถนำรถกระบะ REVO รุ่นก่อนหน้าไปแปลงใส่หน้าใหม่ได้โดยถ้าจะแปลงเป็นรุ่นใหม่พรีรันเนอร์งบประมาณน่าจะอยู่ที่ 50,000 ++ บาท แต่ถ้าจะแปลงเป็นหน้าเท่ห์ๆแบบ ROCCO ทั้งชุดงบน่าจะอยู่ที่ประมาณ 1 แสนบาทครับ”
ภายในห้องโดยสารมีโทนสีดำมอบอารมณ์สปอร์ตดุดัน เบาะนั่งฝั่งคนขับหุ้มหนังปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง ตรงกลางติดตั้งหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay / Android Auto สามารถเชื่อมต่อช่อง USB / Bluetooth เพื่อฟังเพลงหรือโทรศัพท์ได้ ด้านลำโพงใส่มา 6 ตำแหน่ง และปิดท้ายด้วยระบบ T-Connect ทุกรุ่นย่อย แต่ผมติดใจจุดเล็กๆอยู่หนึ่งคือราวมือจับหลังคาภายในรถยนต์ที่มันใหญ่และผับไม่ได้ ซึ่งเวลาขึ้นรถแบบรีบๆไม่ระวังหัวกระแทกแน่นอน แต่ผมก็เข้าใจนะครับเค้าคงออกแบบมาให้เพื่อเอาไว้ลุย
เอาละเพื่อไม่เสียเวลา เรามาลองสมรรถนะของเครื่องยนต์กันก่อนเลยดีกว่ากับเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.8 ลิตร 4 สูบแถวเรียง ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า ที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 2,800 รอบต่อนาที ที่โตโยต้าได้ปรับเปลี่ยนใหม่ โดยลูกสูบจะเคลือบสาร Daimond-liked ที่แหวนรองลูกสูบ เพื่อลดแรงเสียดทาน เพื่อประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมัน ใส่หัวฉีดน้ำมันอัจฉริยะ i-Art ควบคุมการจ่ายน้ำมันในแต่ละหัวฉีดให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญเปลี่ยน เทอร์โบชาร์จเพิ่มขนาดใหญ่ขึ้นพร้อมเพิ่มตลับลูกปืน (Ball bearing) ในแกนเทอร์โบเพื่อลดแรงเสียดทานเพิ่มประสิทธิภาพของเทอร์โบให้มีพละกำลังดีขึ้น
เริ่มขับสัมผัสแรกที่รู้สึกได้ออกตัวดีครับความเร็วเพิ่มขึ้นแบบต่อเนื่องและนุ่มนวล ที่ออกตัวดีเพราะเกียร์ของเจ้า TOYOTA HILUX REVO ROCCO 2020 เพิ่มช่วง Lock Up ของเกียร์อัตโนมัติ 4-5-6 ทำให้การตอบสนองในช่วงเร่งแซงรวดเร็ว และต่อเนื่อง (กดคันเร่งล้อหมุนทันที) ในระยะทางตรงของสนามที่ทดสอบประมาณ 300 เมตร ความเร็วไปแตะที่ 120 กิโลเมตร/ชั่วโมงได้อย่างไม่ยากเย็นนัก บอกเลยว่าน่าจะแรงและขับสนุกแน่นอนถ้าได้ขับถนนจริง แต่ก็มีเรื่องที่ต้องบอกเลยว่าเครื่องยนต์ที่มีการปรับใหม่ของเจ้า TOYOTA HILUX REVO ROCCO 2020 มันจะขึ้นแบบนุ่มนวลและต่อเนื่อง ไม่พุ่งกระชากเหมือนรุ่นก่อนหน้านะครับ ถ้าใครชอบฟิลลิ่งออกตัวพุ่งหลังติดเบาะรุ่นที่ต้องทำใจนิดนึงนะครับเครื่องยนต์ของรุ่นใหม่มันไม่ใช่แนวนั้นครับ นอกจากนี้เครื่องยนต์ลูกนี้ยังมีการปรับรอบเดินเบาให้ลดลงเพื่อให้การขับขี่ในเส้นทางออฟโรดได้ง่ายดายยิ่งขึ้นอีกด้วย เรียกได้ว่าตอบรับทุกการขับขี่ได้อย่างเต็มสมรรถนะ แถมยังประหยัดน้ำมันมากขึ้นถึง 7 % พวงมาลัยพาวเวอร์แบบไฮโดรลิกที่เสริมระบบช่วยผ่อนแรงแบบ VFC (Variable Flow Control) ช่วงความเร็วต่ำน้ำหนักเบาขึ้นคล่องมือดีครับไม่รู้สึกถึงแรงต้านจนต้องเพิ่มน้ำหนักเหมือนกับรุ่นก่อน อีกทั้งยังคงความคมกำลังดีระหว่างหักเลี้ยวเปลี่ยนทิศทางด้วย เรามาลองต่อที่ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ LDA ที่ให้ขับความเร็วเกิน 50 กม./ชม. แล้วปล่อยให้รถเบี่ยงออกข้างทาง ซึ่งตัวระบบสามารถหักพวงมาลัยกลับให้วิ่งตรงตามเดิมได้นุ่มนวล
มาถึงระบบช่วงล่างกันบ้างมีการขับแบบสลาลม เลนเชนจ์ วิ่งกระโดดคอสะพาน วิ่งผ่านเนินลูกระนาด และถนนขรุขระ ช่วงขับเข้าสเตชั่นสลาลม ต่อด้วยเลนเชนจ์ เห็นชัดเลยครับว่าช่วงล่างที่ปรับเซ็ทและจูนใหม่ ให้ความนุ่มนวล แน่น หนึบ และเฟริ์มกว่ารุ่นก่อนหน้าพอสมควร ตัวรถไม่มีอาการโคลงควบคุมง่าย กระโดดคอสะพานด้วยความเร็ว 30 กิโลเมตร/ชั่วโมง ตัวรถยังคงนิ่งไม่มีเด้งแถม นั่งเบาะหลังหัวไม่กระแทกหลังคา เฮ้ย !!มันดีงามมากครับ วิ่งผ่านเนินลูกระนาดรูดไปเลยไม่มีปัญหา อาการเด้งดีดน้อยมาก ดูดซับแรงสั่นสะเทือนของพื้นผิวถนนที่ขรุขระได้ดีอีกด้วย
โดย TOYOTA HILUX REVO ROCCO 2020 เปลี่ยนช่วงล่างมาเป็นแบบ Super Flex Suspension จัดการปรับโช๊คให้เข้ากับแหนบหลังที่เหลือ 3 แผ่น จากเดิม 5 แผ่น และเปลี่ยนวัสดุแหนบแผ่นกลางเป็น High Tensile Steel ที่มีน้ำหนักเบาลง และแข็งแรงมากขึ้น แต่ไม่ต้องกังวลทางโตโยต้าคอนเฟริ์มว่าถึงแม้จะลดแหนบลงเหลือแค่ 3 แผ่น แต่ยังสามารถลองรับน้ำหนักได้เท่ากับรุ่นก่อนหน้าแน่นอน แถม TOYOTA HILUX REVO ROCCO 2020 คันนี้ยังเพิ่มเพลาปรับสมดุล (Balance Shaft) ช่วยลดเสียงและแรงสั่นสะเทือนที่ส่งเข้าสู่ห้องโดยสาร เพิ่มความเงียบและความนุ่มนวลในการขับขี่มากยิ่งขึ้นอีกด้วย
ความปลอดภัยมีการจัดเต็มด้วยระบบ Toyota Safety Sense ที่มาพร้อมระบบแจ้งเตือนการชนพร้อมเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน และระบบเตือนรถออกนอกเลนพร้อมหน่วงพวงมาลัยกลับอัตโนมัติ ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง และระบบเบรกกับช่วยเหลืออื่นๆ ก็มีให้ครบถ้วน
นับว่าเป็นรถกระบะที่น่าสนใจอีกหนึ่งรุ่นเลยทีเดียวครับสำหรับ TOYOTA HILUX REVO ROCCO 2020 เพราะเราจะได้เทคโนโลยีใหม่ ระบบเพื่อความปลอดภัยต่างๆที่จัดหนักจัดเต็ม เครื่องยนต์ปรับจูนใหม่ขับดีและประหยัดขึ้น และช่วงล่างที่นุ่มนวล ขับสบาย กับราคา TOYOTA HILUX REVO ROCCO 2.8 Double Cab 4×4 Rocco AT ราคา 1,239,000 บาท ผมว่ามันน่าใช้ไม่น้อยเลยครับ
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th