TestDrive Toyota Corolla Cross2024 ปรับโฉม เติมออฟชั่น ทำไมขับดีขึ้น
TestDrive Toyota Corolla Cross2024 ปรับโฉม เติมออฟชั่น ทำไมขับดีขึ้น มาดูกัน หลังจากการเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อยด้วยการเติมออฟชั่นให้มาแบบไม่มีกั๊ก หลังจากโดนลูกค้าบ่นว่าชอบกั๊กออฟชั่นมานาน มาใหม่ในปี 2024 นี้ จัดเต็มให้เลยจ้า แถมยังขายราคาเดิมไม่บวกเพิ่มแม้แต่บาทเดียว เรียกได้ว่างานนี้ลูกค้าได้ประโยชน์ไปเต็มๆ แต่ก็ยังมีข้อให้คิดอยู่เพราะว่าไอ้เจ้า Corolla Cross รุ่นก่อนหน้ามันดันมีส่วนลดตั้ง 100,000 บาท เลยนะซิ แล้วแบบนี้จะซื้อรุ่นใหม่ หรือรุ่นเก่าดีละ มาลองอ่านกันว่ารุ่นใหม่เป็นอย่างไร คุ้มค่าเงินหรือไม่ TestDrive Toyota Corolla Cross2024
เพราะในครั้งนี้เรามีโอกาศได้เข้าร่วมทดลองขับเจ้า New Toyota Corolla Cross 2024 กันบนเส้นทางกรุงเทพ –หัวหิน ซึ่งหลายคนคงสงสัย เพราะอย่างที่ทุกท่านทราบกันว่ามันก็แค่เปลี่ยนหน้าตาใหม่ เติมออฟชั่น เสริมฟรังชั่น ก็แค่นั้นไม่ได้เปลี่ยนระบบขับเคลื่อนซะหน่อย ทดสอบไปมันก็สมรรถนะเหมือนเดิมนั้นละ แต่เดี๋ยวก่อนผมไม่สืบทราบมาว่าถึงแม้มันจะใช้เครื่องลูกเดิม แต่ทางโตโยต้ามันการปรับจูนกล่อง ECU ใหม่ , ปรับองศาการจุดระเบิดเครื่องยนต์ใหม่ จูนECUของเบรกใหม่ ทำให้การขับขี่สมูทและเนียนขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าแบบสัมผัสได้
การปรับภายนอก
เรามาดูภายนอกกันก่อนว่าเจ้า New Corolla Cross คันนี้ให้อะไรเรามาบ้าง โดยรวมดูทันสมัยขึ้น เพราะด้วย กระจังหน้าและกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ มองไปมองมาคล้าย Lexus หรือมองอีกอย่างที่หลายคนแซวกันมันดันไปคล้ายกับ MG VS ซะนี่ ฮาฮา อันนี้ก็แล้วแต่มุมมอง แต่ผมมองว่ามันดูดีสวยขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า ไฟหน้าโคมทรงเดิมเปลี่ยนดีเทลภายในใหม่ LED Crystalized Head Lamp พร้อมไฟเลี้ยวด้านหน้า LED แบบ Sequential ด้านข้างทรงเดิมเปลี่ยนล้ออัลลอยลายใหม่ปัดเงาสีทูโทน 18 นิ้ว ด้านท้าบมีการปรับไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่
ตอบคำถามที่หลายท่านสงสัยว่ารุ่นเก่ามันสามารถเปลี่ยนใส่ ไฟหน้า ไฟท้าย กระจังหน้า และกันชนหน้า ของรุ่นใหม่นี้ได้หรือไม่ ตอบเลยว่าได้ 100% ครับ จุดยึดเดียวกันทั้งหมด แต่ไฟหน้าอาจจะต้องมีการแปลงขั้วหลอดหน่อยก็แค่นั้นครับ
ภายในห้องโดยสาร
เข้ามาที่ภายในห้องโดยสารที่เห็นได้ชัดว่าให้มาใหม่คือ จอแสดงผลข้อมูลผู้ขับขี่แบบ Full Digitalขนาด 12.3 นิ้ว ทันทันเท่กว่ารุ่นก่อนหน้า ขยับมาตรงจอกลางใหญ่ขึ้นจากเดิม 9 นิ้ว เป็นหน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว แบบ HD รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สายได้อีกต่างหาก อีกหนึ่งสิ่งสำคุญที่หลายท่านเรียกร้องคันนี้มี ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB และระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ ABH มาให้แล้วเลิกใช่เบรกมือแบบโบราณเรียบร้อย มีกล้องมองรอบคัน Panoramic View Monitor (PVM) 360° view แถมให้กล้องวิดีโอบันทึกภาพติดรถยนต์ ด้านหน้า และด้านหลัง มาให้อีกต่างหาก มองขึ้นไปตรงหลังคาอ้าวพี่เค้าให้ Panoramic Roof แบบ Frameless ไว้ให้นอนดูดาว แถมมีม่านบังแดดปรับไฟฟ้าให้ไว้ปิดกันแดดด้วย
การทดลองขับ
เอาละเรามาทดลองขับดีกว่า คันที่เราได้ทดลองขับคือรุ่น รุ่น HEV Premium Luxury เรามาดูกันว่าไอ้ที่เค้าว่าปรับจูน ECU ใหม่ จูนมอเตอร์ใหม่จากออก 3 แกน เป็น 4 แกน และเปลี่ยนหัวฉีดและคอยล์จุดระเบิดใหม่ เนี่ยมันจะขับดีขึ้น และประหยัดขึ้นจริงหรือไม่ จากการที่ผมได้ทดลองขับ บนเส้นทาง กรุงเทพ – หัวหิน ที่เราเจอสภาพถนนทั้งในเมืองที่การจารจรหนาแน่น ทางไฮเวย์ และการเร่งแซง ต้องบอกว่ามันดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าแบบสัมผัสได้ครับ อัตราเร่งช่วงออกตัวทำได้ดี มีความคล่องตัวลัดเลาะในช่วงที่การจราจรหนาแน่นแถวพระราม 2 ได้ดังใจ แถมยังมีระบบอย่าง Dynamic Radar Cruise Control แบบ All-Speed บวกกับ Auto Brake Hold ทำให้การขับขี่ในช่วงที่รถติดสบายกว่าเดิม หลุดออกมาถนนโล่งเพื่อนร่วมทางน้อยลง ขอลองกดคันเร่งซะหน่อย ต้องบอกว่าเครื่องไฮบริดรหัส 2ZR-FXE ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 1.8 ลิตร กำลังสูงสุด 98 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 142 นิวตัน-เมตร และมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 53 kW แรงบิดสูงสุด 163 นิวตัน-เมตร กำลังสูงสุดรวมทั้งระบบ 122 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ E-CVT ที่มีการปรับจูนใหม่นี้ มันมีอัตราเร่งที่มีความสมูทนุ่มนวล ลื่นไหล กว่ารุ่นก่อนหน้าแบบสัมผัสได้ กดคันเร่งลงไปความเร็วเพิ่มขึ้นแบบต่อเนื่องละลื่นไหลจนความเร็วไปแตะที่ 160 กม./ชม. ได้อย่างง่ายดาย การเร่งแซงต้องบอกว่าสบายไม่ต้องลุ้นให้เหนื่อย
ระบบช่วงล่างหน้าช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบอิสระแม็กเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีมพร้อมเหล็กกันโคลง ที่บอกเลยว่ามันขับดีนิ่ง นุ่ม หนึบกว่ารุ่นก่อนหน้า เยอะเลย ผมก็ไม่สอบถามทางโตโยต้ามาว่า เอาจริงๆปรับจูนช่วงล่างมั้ย เราได้คำตอบว่าไหนๆ ก็จูนกล่อง จูนมอเตอร์ไปแล้ว ก็ปรับจูนช่วงล่างไปเลยให้มันสัมพันธ์กันเลย มิน่าละมันถึงรู้สึกว่ามันนิ่ง และหนึบกว่ารุ่นก่อนหน้า ต้องบอกว่ามันสามารถดูดซับแรงสั่นสะเทือนของพื้นผิวถนนได้ดี กระโดดคอสะพานตัวรถยังนิ่งควบคุมง่าย วิ่งด้วยความเร็วตัวรถไม่มีอาการโคลงเหมือนรุ่นก่อนหน้า ขับง่ายและสนุกขึ้นครับ การเค้าโค้งด้วยความเร็วทำได้แบบเนียนๆ พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS น้ำหนักกำลังดี แม่นยำ ควบคุมง่าย ระบบเบรกมีการปรับจูนกล่อง ECU ใหม่เช่นกันส่งผลให้ระยยะเบรกสั้นลง และนุ่มนวลขึ้น
ทั้งหมดนี้มากับราคาจำหน่ายเท่ากับรุ่นเดิม
ราคาจำหน่าย สำหรับรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด เกียร์อัตโนมัติ
- H EV GR-Sport ราคา 1,254,000 บาท**
- HE V Premium Luxury ราคา 1,204,000 บาท**
- HE V Premium ราคา 1,094,000 บาท**
ราคาจำหน่าย สำหรับรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน เกียร์อัตโนมัติ
- 1.8 Sport Plus ราคา 999,000 บาท**
ซึ่งหลายคนมีคำถามว่าราคานี้ไปรถยนต์ไฟฟ้าดีกว่ามั้ย ข้อดีมันมีอะไร
ข้อดี
- ไม่ต้องไปนั่งรอชาร์จ
- ราคาขายต่อดีกว่า
- อะไหล่รอไม่นาน
ข้อเสีย
- ประหยัดไม่เท่ารถยนต์ไฟฟ้า
- ขับไม่สนุกเท่ารถยนต์ไฟฟ้า
- ออฟชั่นน้อยกว่ารถยนต์ไฟฟ้า
สรุป
Toyota Corolla Cross 2024 คันนี้มีการปรับลุคให้ให้ดูทันสมัยขึ้น เติมออฟชั่น ฟีเจอร์ใหม่ เข้ามาให้แบบเต็มๆ มีการปรับจูนทั้งระบบขับเคลื่อน ระบบเบรก และช่วงล่าง ทำให้โดยรวมสมรรถนะการขับขี่ดีขึ้น ขับสนุกขึ้น และประหยัดขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า ขนาดผมซัดๆมายังได้ตัวเลขที่ 21 กม./ลิตร ถือว่ารับได้กับอัตราสิ้นเปลืองระดับนี้ ถามว่ามันสู้รถไฟฟ้าได้มั้ย ผมว่ามันอยู่ที่ไลฟ์สไตล์การใช้รถยนต์ของแต่ละคน ถ้าส่วนมาขับในเมืองไม่ค่อยเที่ยวต่างจังหวัด ชอบลองเทคโนโลยีใหม่ๆ ไม่สนราคาขายต่อ ผมว่าคุณเหมาะกับรถยนต์ไฟฟ้า แต่ถ้าคุณขับใช้งานในเมือง ชอบออกเดินทางท่องเที่ยว ไม่อยากเสียว่าจอดชาร์จไฟนานๆ อยากได้ราคาขายต่อดีๆราคาตกไม่เยอะ ผมว่ารถไฮบริดตอบโจยท์คุณมากกว่า และผมว่าเจ้า New Toyota Corolla Cross คันนี้มันกลมกล่อมคุ้มค่าคุ้มราคาเลยทีเดียว สุดท้ายไปทดลองขับก่อนตัดสินใจซื้อนะครับ
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th