ไทยฮอนด้า ประกาศผลิต Honda Benly e มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในไทย ไตรมาส 4
ไทยฮอนด้า แถลงยอดจดทะเบียนครึ่งปี 65 ทะลุ 7.05 แสนคัน เติบโต 3% พร้อมลุยประกอบมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าไตรมาส 4 ปีนี้
หลังจากเริ่มโครงการศึกษารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยในเชิง ecosystem ร่วมกับพันธมิตรทั้งสถาบันการศึกษา และทดลองใช้งานร่วมกับทางดีเคเอสเอช ประเทศไทย เพื่อนำรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าของฮอนด้ามาลองใช้ขนส่งสินค้า 2 รุ่น คือ PCX Electric กับ Benly-e รวมถึงการร่วมกับกลุ่มธุรกิจเดลิเวอรี่ในการใช้เพื่อขนส่งสินค้าในช่วงที่ผ่านมา
ล่าสุด นายชิเกโตะ คิมูระ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด กล่าวว่า สำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเรายังคงเดินหน้าพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปัจจุบันฮอนด้ายังคงมุ่งเน้นการทำธุรกิจแบบ B2B และ B2C For B ออกมาในรูปแบบของโครงการปล่อยเช่ารถให้กับกลุ่มธุรกิจเดลิเวอรี่ ตอนนี้มีรถอยู่ประมาณ 116 คัน ที่กระจายให้บริการอยู่ตามจุดต่าง ๆ
ส่วนความคืบหน้าเรื่องของการเซ็น MOU เข้าร่วมโครงการสนับสนุนรถไฟฟ้า100% นั้น ในอนาคตอันใกล้จะมีการเซ็นเพื่อเข้าร่วมโครงการอย่างแน่นอน แต่ยังคงรอศึกษารายละเอียดด้านต่าง ๆ อีกเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการสนับสนุนจากภาครัฐออกมาด้านภาษีสรรพสามิตสำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ที่มีราคาขายไม่ถึง 150,000 บาท มีสิทธิ์ได้รับเงินอุดหนุน 18,000 บาท นั้น เป็นเรื่องที่ดี แต่รถไฟฟ้าส่วนใหญ่ที่จำหน่ายในเมืองไทยยังคงเป็นการนำเข้าจากต่างประเทศ จึงยังมีเรื่องของภาษีศุลกากรเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งต้องรอดูว่ามาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐในช่วงต้น จะยกเว้นหรือช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการอย่างไร
ทั้งในเรื่องภาษีการนำรถเข้ามาจำหน่ายนำร่องให้เกิดการใช้งานในประเทศไทย รวมถึงการนำเข้าชิ้นส่วนเพื่อมาประกอบรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า เพราะปัจจุบันมีหลายเจ้าเริ่มศึกษาในการนำชิ้นส่วนเข้ามาเพื่อผลิตก่อนจะตัดสินใจลงทุนอย่างจริงจัง ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ภาครัฐวางไว้ว่าต้องการให้มีตัวเลขการจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าประมาณ 40,000 คัน แต่ในช่วงระยะเวลา 7 เดือนที่ผ่านมา มียอดจดทะเบียนอยู่เพียงแค่ 5,000 คันเท่านั้น
สำหรับ ไทย ฮอนด้า ในช่วงก่อนหน้ามีการนำเข้ารถจักรยานยนต์ Honda Benly e ทั้งคัน เพื่อทำการศึกษาและริเริ่มให้เกิดการใช้งานในหลายโครงการ แต่นับจากช่วงไตรมาส 4 เป็นต้นไป บริษัทเตรียมที่จะเริ่มการประกอบรถจักรยานยนต์รุ่นนี้ในประเทศไทย โดย การจำหน่ายคาดว่าจะเป็นแบบองค์กรต่อองค์กร(B2B)ในช่วงแรก และตั้งเป้าว่ารถรุ่นที่ผลิตออกมาดังกล่าวจะถูกนำไปอยู่ในโครงการเช่ารถประมาณ 300 คัน ส่วนในปีหน้าคาดว่าจะเพิ่มเป็นหลักพันคัน ส่วนรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ จะมีเข้ามาในประเทศไทยอย่างแน่นอน
ด้านของทิศทางตลาดรถจักรยานยนต์ไทยครึ่งปีแรกมียอดจดทะเบียนอยู่ที่ 911,162 คัน เติบโตขึ้น 4% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวของปีก่อนหน้า ในขณะที่ฮอนด้ามีตัวเลขอยู่ที่ 705,487 คัน เติบโตขึ้น 3% ใกล้เคียงกับตลาดรวม เซกเมนท์ที่มีแนวโน้มเติบโตมากที่สุดคือกลุ่มรถ เอ.ที. ซึ่งมียอดรวมอยู่ที่ 397,733 คัน เติบโตขึ้น 6% สิ่งที่น่าสนใจก็คือฮอนด้ามีการเติบโตในกลุ่มนี้มากถึง 12% ด้วยตัวเลข 279,207 คัน เป็นอัตราการเติบโตที่สูงกว่าตลาดรวมค่อนข้างมาก
ขณะที่สัดส่วนยอดจดทะเบียนของ Scoopy มียอด 96,679 คัน สูงเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มแฟชั่น เอ.ที. Click Series มียอด 64,732 คัน สูงที่สุดในกลุ่มสปอร์ต เอ.ที. PCX160 มียอด 77,708 คันสูงสุดในกลุ่มพรีเมียม เอ.ที. และ Forza350 มียอดจดทะเบียนถึง 10,988 คัน
นายชิเกโตะ กล่าวว่า “ตลาดโดยรวมของปีนี้จะสูงขึ้นมาอยู่ที่ 1,740,000 คัน เติบโต 8% ส่วนฮอนด้าตั้งเป้าหมายที่ 1,359,000 คัน เติบโต 10% มากกว่าตลาดรวม เนื่องจากมีการเตรียมความพร้อมในการผลิตที่เพียงพอต่อความต้องการ สามารถจัดการกับปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนได้เรียบร้อยแล้ว ขณะที่สงครามรัสเซีย-ยูเครนและปัญหาระหว่างจีนกับไต้หวัน ยังไม่ส่งผลกระทบแต่อย่างใด”
นอกจากกลยุทธ์ด้านบริหารการผลิตและการขายแล้ว ในครึ่งปีหลังไทยฮอนด้ายังเดินหน้ายกระดับมาตรฐานของศูนย์บริการ Honda Wing Center ด้วยการปรับรูปแบบหน้าร้านครั้งใหญ่ด้วยดีไซน์ที่ทันสมัย โดยวางเป้าหมายไว้ที่ 100 สาขาภายในปีนี้ และเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในกลุ่ม Iconic Bike ที่มีการขยายตัว ไทยฮอนด้าเตรียมรุกตลาดเพื่อตอบสนองงานขายและบริการด้วยแผนเปิด CUB House Corner ในร้าน Honda Wing Center ถึง 22 แห่งทั่วประเทศภายในปี 2022
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ได้ที่ www.grandprix.co.th