Absolutely The Best : MG รถยอดเยี่ยมแห่งปี 2024

THE BEST SEDAN UNDER 1,500 c.c.
NEW MG5 10TH ANNIVERSARY SPECIAL EDITION

เวลาผ่านไปไวราวกับโกหก เพราะเผลอแวบเดียว บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิต และผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจี ในประเทศไทย ก็ทำตลาดมาแล้วถึง 10 ปี กระทั่งมีเวอร์ชันพิเศษ NEW MG5 10TH ANNIVERSARY SPECIAL EDITION ออกมาให้เป็นเจ้าของ ภายใต้การนำเสนอความสปอร์ตและความคุ้มค่าในแบบที่ปฏิเสธไม่ได้

NEW MG5 10TH ANNIVERSARY SPECIAL EDITION มีพื้นฐานมาจาก MG5 สปอร์ตคูเป้ซีดาน รูปลักษณ์โดดเด่น ที่คว้ารางวัลการออกแบบระดับโลกอย่าง “Good Design Award 2021” สาขา “Compact Sport Cars” จากประเทศญี่ปุ่น มาทำการตกแต่งพิเศษ

เริ่มจากเพิ่มความสะดุดตาด้วยตัวถังโทนสีเทา เฉดใหม่ Crayon Grey พร้อมคุมโทนการตกแต่งทั้งภายนอกและภายใน ด้วยสไตล์ “โมโนโครม” เช่น การเลือกใช้สีดำ Glossy Black ในหลายตำแหน่งการตกแต่ง ทั้งในส่วนของตราสัญลักษณ์ MG และสัญลักษณ์ 10TH ANNIVERSARY เช่นเดียวกับล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ที่ไม่ใช่เพียงดีไซน์ใหม่ แต่ยังประทับสัญลักษณ์ 10TH ANNIVERSARY เพื่อบ่งบอกความเป็นเวอร์ชันพิเศษเอาไว้อย่างชัดเจนอีกด้วย

ห้องโดยสารให้อารมณ์ความสปอร์ต ผสมผสานเข้ากับความพรีเมียม พร้อมออปชันที่ยังคงติดตั้งมาให้อย่างครบครัน เช่น หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิทัลขนาด 7 นิ้ว, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน พร้อมหน้าจอ Infotainment แบบ Touch screen ขนาด 10 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อมัลติมีเดีย เพื่อตอบโจทย์การขับขี่ในชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวกสบาย

รวมไปถึงในส่วนของระบบความปลอดภัยที่แน่นหนา นับจากระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย (Full Space Frame), ระบบเบรกมือ ไฟฟ้า (Electronic Parking Brake) และระบบ Auto Vehicle Hold, ระบบป้องกันล้อล็อก (Anti-lock Braking System​) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (Electronic Brake Force Distribution), ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Brake Assist), ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้งด้วยความเร็ว (Electronic Differential System), ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล (Traction Control System), ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Start Assist System), ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือนเมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน (Emergency Stop Signal), ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์ (Follow Me Home Light), ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control), ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ (Speed Sensing Door Lock) ไปจนถึงถุงลมนิรภัยคู่หน้า และด้านข้าง, กล้องมองภาพรอบทิศทาง 3 มิติ, สัญญาณเตือนระยะถอยหลัง และระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer

ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมา อยู่ภายใต้ราคาที่ต้องบอกว่า “เซอร์ไพรส์” จนเป็นผลให้คณะกรรมการ Thailand Car of The Year 2024 ลงมติเป็นเอกฉันท์ มอบรางวัล THE BEST SEDAN UNDER 1,500 c.c. ให้แก่ NEW MG5 10TH ANNIVERSARY SPECIAL EDITION อย่างไม่มีข้อสงสัยใด

THE BEST EV STATION WAGON
NEW MG ES

NEW MG ES คืออีกหนึ่งความยอดเยี่ยมในรูปแบบของยนตรกรรมอเนกประสงค์ สเตชันแวกอนไฟฟ้า 100% รุ่นใหม่ ที่มาพร้อมการอัปเกรดทั้งสไตล์, ดีไซน์ และความสะดวกสบายที่ครบครัน ภายใต้แนวคิด “Comfortable…เป็นทุกอย่าง เพื่อทุกโมเมนต์” เพื่อนำเสนอยนตรกรรมคุณภาพอย่างแท้จริง จนได้มาครองซึ่งรางวัล THE BEST EV STATION WAGON

จุดเด่นของ NEW MG ES เริ่มต้นจากงานดีไซน์อันเรียบหรูดูล้ำสมัยในแบบฉบับ New Era Design ประกอบด้วย ชุดกันชนหน้า และไฟหน้าดีไซน์ใหม่แบบ Light Curtain Design เสริมการใช้งานมากขึ้นด้วยชุดราวหลังคา Roof Rail ที่รองรับน้ำหนักได้ถึง 75 กิโลกรัม

ตามมาด้วยห้องโดยสารที่กว้างขวาง นั่งสบาย ตกแต่งด้วยเส้นสายโทนสีฟ้า Energetic Blue strap มาพร้อมเบาะนั่งดีไซน์ใหม่ เทคโนโลยี Zero-G Seats ช่วยกระจายน้ำหนัก และรองรับสรีระ ตลอดจนเลือกใช้วัสดุหุ้มเป็นหนังสังเคราะห์ Denim Texture Design ให้ผิวสัมผัสคล้ายยีนส์ เพื่อปรับลุคให้ดูทันสมัย และดูแลรักษาง่าย ปิดท้ายด้วยความสะดวกสบายจากพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง ซึ่งสามารถจุสูงสุดได้ถึง 1,367 ลิตร

NEW MG ES มอบประสบการณ์ขับขี่ ด้วย e-PERFORMANCE นวัตกรรมรถไฟฟ้าใหม่ มาพร้อมแพลตฟอร์มระบบส่งกำลังใหม่ล่าสุด ที่มีขนาดและน้ำหนักลดลง แต่ประสิทธิภาพสูงขึ้นถึง 53% ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า เจเนอเรชันใหม่ แบบ 8-Layer Hair Pin Permanent Magnetic Synchronous Motor (PMSM) ให้กำลังสูงสุดที่ 177 แรงม้า กับแรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 185 กิโลเมตร/ชั่วโมง โดยติดตั้งระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน สามารถปรับได้ถึง 3 ระดับ คือ ต่ำ, กลาง และสูง

แหล่งพลังงานของ NEW MG ES คือแบตเตอรี่ลิเธียมไอรอนฟอสเฟต (LFP) ความจุ 51 กิโลวัตต์ ซึ่งปรับปรุงให้มีน้ำหนักเบาลงถึง 22% เสริมด้วยระบบ Liquid Cooling System ช่วยระบายความร้อนให้มอเตอร์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยสามารถขับเคลื่อนได้ไกลถึง 412 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC)

ทั้งยังมั่นใจทุกการขับขี่ด้วยระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย Full Space Frame ที่มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยมาตรฐาน Advanced Synchronised Protection System และระบบ Advanced Driver Assistance System (ADAS) รวมกว่า 20 ระบบ รวมไปถึงการมาพร้อมกับระบบสั่งการอัจฉริยะ i-SMART ในรูปแบบ Lite Version ให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุม และรับการแจ้งเตือนสำคัญจากรถของตัวเองได้เพียงปลายนิ้วสัมผัสอีกด้วย

THE BEST EV MPV
NEW MG MAXUS 9

เรียกได้ว่าเป็นหัวหอกในกลุ่มยนตรกรรมอเนกประสงค์พลังไฟฟ้า 100% อย่างแท้จริงเลยทีเดียว กับ NEW MG MAXUS 9 ที่นำเสนอความเป็น Luxury MPV แบบ 7 ที่นั่ง ผ่านงานดีไซน์สะดุดตา ซึ่งมาพร้อมกับออปชันอำนวยความสะดวกระดับไฮไลต์

ประกอบด้วยความโดดเด่นจากหลังคา Dual Panoramic Sunroof ขนาดใหญ่ ที่มาพร้อมกระจกด้านข้างบานใหญ่ในทุกตําแหน่งแถวที่นั่ง เพื่อสร้างความโปร่ง โล่งสบายให้กับห้องโดยสาร ส่วนเบาะนั่งคนขับ ปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมโปรแกรมบันทึกตำแหน่ง ตลอดจนสามารถนวดหรือปรับอุณหภูมิได้เช่นเดียวกับเบาะนั่งผู้โดยสารปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง

ส่วนเบาะนั่งแถว 2 แบบ VIP Captain Seat มาแบบครบครัน เช่น ระบบปรับไฟฟ้า 12 ทิศทาง, พนักพิงศีรษะปรับไฟฟ้า พร้อมที่พักน่อง และการปรับเอนนอนได้อัตโนมัติ ซึ่งควบคุมได้ง่ายดายผ่านหน้าจอทัชสกรีนส่วนตัว ทั้งยังมีระบบบันทึก, ระบบนวดถึง 8 โปรแกรม และปรับระดับอุณหภูมิได้ตามต้องการ รวมถึงระบบปรับอากาศแยกโซน ทั้งเบาะนั่งแถวที่ 2 และ 3

จุดไฮไลต์ของ NEW MG MAXUS 9 คือประสบการณ์การขับขี่ MPV พลังไฟฟ้า 100% ที่เหนือชั้น ด้วยมอเตอร์ขับเคลื่อน ซึ่งมีกำลังสูงสุด 180 กิโลวัตต์ หรือ 245 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุดที่ 350 นิวตันเมตร จากแบตเตอรี่ความจุขนาด 90 กิโลวัตต์ ที่สามารถทำระยะทางวิ่งสูงสุดได้ถึง 540 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC)

ทั้งยังมอบความมั่นใจทุกการขับขี่ ด้วยระบบความปลอดภัยรอบคัน Advanced Synchronised Protection System ที่มากถึง 25 ระบบ เสริมความอุ่นใจด้วยระบบ Semi-Autonomous Driving Assistance Systems ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานการคุ้มครองความปลอดภัยระดับโลก Euro NCAP และ ANCAP รวมถึงเทคโนโลยีกล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3D ช่วยให้มองเห็นในทุกรายละเอียด จนนำไปสู่ความยอดเยี่ยมที่เหมาะสมที่สุดกับรางวัล  THE BEST EV MPV

THE BEST CKD EV
NEW MG4 ELECTRIC

เป็นอีกครั้งที่ NEW MG4 ELECTRIC จากบริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด คว้ารางวัลจากงาน Thailand Car of The Year 2024 ไปครอง และชนะใจคณะกรรมการไปในสาขา THE BEST CKD EV ผลตอบแทนความมุ่งมั่นในการพัฒนายกระดับ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค ท่ามกลางแบรนด์ผู้เล่นหน้าใหม่ที่เกิดขึ้น และก้าวเข้ามาสร้างสีสันในตลาดเมืองไทย ผ่านการนำเข้า “ยนตรกรรมพลังไฟฟ้า 100%” รุ่นใหม่ๆ มากมาย

NEW MG4 ELECTRIC คือ “ยนตรกรรมพลังไฟฟ้า 100%” เวอร์ชันผลิตในเมืองไทย (CKD) ที่มีคุณภาพไม่ด้อยไปกว่าเวอร์ชันนำเข้า (CBU) ซึ่งยังคงมาพร้อมกับจุดเด่นหลักๆ ตั้งแต่ Nebula Pure Electric Platform โครงสร้างตัวถังที่พัฒนาขึ้นมาสำหรับยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าโดยเฉพาะ ที่นอกจากสามารถนำไปปรับใช้ ให้รองรับความจุแบตเตอรี่ได้หลากหลายแล้ว ยังมาพร้อมกับตำแหน่งการจัดวางที่ช่วยกระจายน้ำหนักอย่างสมดุล 50:50 เพื่อสร้างจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำอีกด้วย

แบตเตอรี่มากับขนาดความจุ 51 กิโลวัตต์ และเทคโนโลยี Rubik’s Cube การจัดเรียงเซลล์แบบแนวนอน โดยมีระบบระบายความร้อนแบบ Liquid Cooling System พร้อมการติดตั้งระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) เพื่อช่วยในการชาร์จพลังงานกลับ โดยเลือกปรับได้ถึง 4 ระดับ เช่น ต่ำ, กลาง, สูง และแบบแปรผัน (Adaptive)

NEW MG4 ELECTRIC ยังคงมอบความสนุกสนานในการขับขี่ ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 170 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ถ่ายทอดลงสู่ล้อหลัง ที่มาพร้อมโหมดการขับขี่ที่เลือกได้ 5 รูปแบบ คือ Eco, Normal, Sport, Custom และ Snow

ตลอดจนการสัมผัสความเฉียบคม ผ่านระบบพวงมาลัย Dual Pinion (DP-EPS) ควบคุมด้วยไฟฟ้า และระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ แมคเฟอร์สัน สตรัท พร้อมด้านหลังแบบอิสระ 5 ลิงก์ ผสมผสานเป็นการขับขี่สไตล์สปอร์ตที่โดดเด่น ภายใต้ความมั่นใจจากระบบเบรกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง แบบดิสก์เบรก

NEW MG4 ELECTRIC มากับระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป Advanced Synchronized Protection System พร้อมโปรแกรม Semi-Autonomous Driving Assistance System เพื่อช่วยเตือนอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากมุมอับสายตา ทั้งยังรวมไปถึง การติดตั้งระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i–Smart สำหรับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า MG มาให้โดยเฉพาะ เพื่อช่วยยกระดับความปลอดภัย และความมั่นใจใน NEW MG4 ELECTRIC สูงสุด