ตลาดรถยนต์ประเทศไทย เดือนกันยายน เติบโตสวนกระแสราคาน้ำมัน โดยมีตัวเลขยอดขายรวม 74,150 คัน เพิ่มขึ้น 15.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และตัวเลขยอดขายรวมเดือนมกราคม-กันยายน 2565 ทะลุหลัก 6 แสนคัน เพิ่มขึ้น 19.1% หากเทียบกับ 9 เดือนแรกของปี 2564

สุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนกันยายน 2565 มีตัวเลขการขายรวมทั้งสิ้น 74,150 คัน เพิ่มขึ้น 15.6% ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 23,074 คัน ลดลง 8.6% รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 51,076 คัน เพิ่มขึ้น 31.4% และรถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ มีจำนวน 41,396 คัน เพิ่มขึ้น 37.2%

ตลาดรถยนต์เดือนกันยายนมีปริมาณการขาย 74,150 คัน เพิ่มขึ้น 15.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตลดลง 8.6% ส่วนตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเจริญเติบโตที่ 31.4% เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตในการประกอบอาชีพ และกิจกรรมทางเศรษฐกิจจนเกือบเป็นปกติ แม้จะมีปัจจัยลบที่สำคัญคือสถานการณ์ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีความต้องการใช้รถยนต์ของผู้บริโภคที่สูงอย่างต่อเนื่อง

ตลาดรถยนต์ในเดือนกันยายนมีแนวโน้มการเจริญเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง จากความมั่นใจของผู้บริโภคที่สามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 ได้เป็นอย่างดี ส่งผลดีต่อสภาพเศรษฐกิจโดยรวม และสะท้อนไปยังตลาดรถยนต์ด้วยเช่นกัน

โดยสถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซลที่ส่วนใหญ่ใช้ในภาคขนส่งจะส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมทั้งราคาน้ำมันเบนซินที่ส่วนใหญ่ใช้ในรถยนต์ส่วนบุคคล ส่งผลให้ต้นทุนในการเดินทางของประชาชนสูงขึ้น แต่ก็ไม่อาจหยุดความต้องการใช้รถยนต์ของผู้บริโภค ภายใต้ปัจจัยเสริมที่สำคัญคือข้อเสนอพิเศษที่ทำให้การเป็นเจ้าของรถยนต์ในปัจจุบันเป็นเรื่องง่าย เป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้ตลาดรถยนต์ในเดือนมิถุนายนยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง

ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนกันยายน 2565

1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 74,150 คัน เพิ่มขึ้น 15.6%

อันดับที่1 โตโยต้า 22,954 คัน            เพิ่มขึ้น    14.9%    ส่วนแบ่งตลาด       31%

อันดับที่ 2 อีซูซุ      21,598 คัน            เพิ่มขึ้น    58.2%    ส่วนแบ่งตลาด       29.1%

อันดับที่3 ฮอนด้า  6,793 คัน              เพิ่มขึ้น    7.6%      ส่วนแบ่งตลาด       9.2%

2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 23,074 คัน ลดลง 8.6%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 7,382 คัน              เพิ่มขึ้น    41%       ส่วนแบ่งตลาด       32%

อันดับที่2 ฮอนด้า  5,961 คัน              เพิ่มขึ้น    1.9%      ส่วนแบ่งตลาด       25.8%

อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 1,793 คัน              เพิ่มขึ้น    26.6%    ส่วนแบ่งตลาด       7.8%

3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 51,076 คัน เพิ่มขึ้น 31.4%

อันดับที่1 อีซูซุ      21,598 คัน            เพิ่มขึ้น    58.2%    ส่วนแบ่งตลาด       42.3%

อันดับที่ 2 โตโยต้า 15,572 คัน            เพิ่มขึ้น    5.7%      ส่วนแบ่งตลาด       30.5%

อันดับที่3 ฟอร์ด    5,007 คัน              เพิ่มขึ้น    138.3%  ส่วนแบ่งตลาด       9.8%

4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)

ปริมาณการขาย 41,396 คัน เพิ่มขึ้น 37.2%

อันดับที่ 1 อีซูซุ      20,226 คัน            เพิ่มขึ้น    65.1%    ส่วนแบ่งตลาด       48.9%

อันดับที่2 โตโยต้า 13,234 คัน            เพิ่มขึ้น    5.8%      ส่วนแบ่งตลาด       32%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด    5,007 คัน              เพิ่มขึ้น    138.3%  ส่วนแบ่งตลาด       12.1%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 6,647 คัน: โตโยต้า 2,844 คัน, อีซูซุ 1,769 คัน, ฟอร์ด 1,407 คัน, มิตซูบิชิ 506 คัน, นิสสัน 121 คัน

5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 34,749 คัน เพิ่มขึ้น 28.1%

อันดับที่ 1 อีซูซุ      18,457 คัน            เพิ่มขึ้น    61.2%    ส่วนแบ่งตลาด       53.1%

อันดับที่2 โตโยต้า 10,390 คัน            ลดลง      5.9%      ส่วนแบ่งตลาด       29.9%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด    3,600 คัน              เพิ่มขึ้น    103.2%  ส่วนแบ่งตลาด       10.4%

สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม–กันยายน 2565

1.ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 633,687 คัน เพิ่มขึ้น 19.1%

อันดับที่1 โตโยต้า 208,619 คัน          เพิ่มขึ้น    25.3%    ส่วนแบ่งตลาด       32.9%

อันดับที่ 2 อีซูซุ      163,627 คัน          เพิ่มขึ้น    24.4%    ส่วนแบ่งตลาด       25.8%

อันดับที่3 ฮอนด้า  61,281 คัน            ลดลง      0.1%      ส่วนแบ่งตลาด       9.7%

2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 200,691 คัน เพิ่มขึ้น 13.9%

อันดับที่1 โตโยต้า 58,777 คัน            เพิ่มขึ้น    36.4%    ส่วนแบ่งตลาด 29.3%

อันดับที่2 ฮอนด้า  45,987 คัน            ลดลง      13.9%    ส่วนแบ่งตลาด 22.9%

อันดับที่ 3 มาสด้า  16,632 คัน            เพิ่มขึ้น    9.7%      ส่วนแบ่งตลาด  8.3%

3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 432,996 คัน เพิ่มขึ้น 21.7%

อันดับที่1 อีซูซุ      163,627 คัน          เพิ่มขึ้น    24.4%    ส่วนแบ่งตลาด       37.8%

อันดับที่ 2 โตโยต้า 149,842 คัน          เพิ่มขึ้น    21.4%    ส่วนแบ่งตลาด       34.6%

อันดับที่3 ฟอร์ด    28,191 คัน            เพิ่มขึ้น    25.1%    ส่วนแบ่งตลาด       6.5%

4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)

ปริมาณการขาย 339,820 คัน เพิ่มขึ้น 22.8%

อันดับที่ 1 อีซูซุ      151,130 คัน      เพิ่มขึ้น     26.7% ส่วนแบ่งตลาด 44.5%

อันดับที่2 โตโยต้า     129,048 คัน      เพิ่มขึ้น     22.9% ส่วนแบ่งตลาด   38%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด        28,191 คัน       เพิ่มขึ้น     25.1% ส่วนแบ่งตลาด  8.3%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 46,281 คัน: โตโยต้า 20,011 คัน, อีซูซุ 14,097 คัน, มิตซูบิชิ 5,739 คัน, ฟอร์ด 5,504 คัน, นิสสัน 930 คัน

5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 293,539 คัน เพิ่มขึ้น 22%

อันดับที่1 อีซูซุ      137,033 คัน          เพิ่มขึ้น    27.5 %   ส่วนแบ่งตลาด       46.7%

อันดับที่ 2 โตโยต้า 109,037 คัน          เพิ่มขึ้น    22.5%    ส่วนแบ่งตลาด       37.1%

อันดับที่3 ฟอร์ด    22,687 คัน            เพิ่มขึ้น    18.2%    ส่วนแบ่งตลาด       7.7%

เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล

ขอบคุณข้อมูล: โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th