‘The New Isuzu MU-X Privileged Press Trip’—สนุกสุขสันต์แบบไทยสไตล์
อีซูซุ ชวนสื่อมวลชนขับรถเที่ยวแบบวัน เดย์ ทริป ในแบบฉบับ “The New Isuzu MU-X Privileged Press Trip” เพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่เหนือชั้นของอีซูซุมิว-เอ็กซ์ ใหม่ รถยนต์นั่งอเนกประสงค์สุดหรู และรุ่นพิเศษ อีซูซุมิว-เอ็กซ์ The Iconic ที่มาพร้อมชุดแต่งพิเศษสปอร์ตเท่รอบคัน พร้อมกับความงามสง่าหรูหราภายใต้นิยาม “Signature of Privilege-เอกลักษณ์แห่งเอกสิทธิ์” ร่วมสนุกในกิจกรรมแบบไทยสไตล์ อิ่มอร่อยกับอาหารไทยดั้งเดิม, เวิร์คช็อปทำขนมไทย, เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์อัญมณีไทย และร่วมอิ่มบุญเติมเต็มความสุขให้เด็กด้อยโอกาส
เริ่มต้นออกสตาร์ทที่บริษัทตรีเพชร อีซูซุ เซลส์ ถนนวิภาวดีรังสิต โดยทริปนี้ผู้เขียนมีโอกาสสัมผัสความพิเศษของ อีซูซุมิว-เอ็กซ์ The Iconic ที่เพิ่มเติมความโฉบเฉี่ยวหรูหรางดงามทุกรายละเอียด ด้วยความสปอร์ตเท่รอบคันกับชุดแต่ง Iconic Style ห้องโดยสารโทนเข้ม Lava Black เพิ่มอารมณ์สปอร์ต และล้ออัลลอย Iconic Cross ขนาด 18 นิ้ว
อีซูซุ มิว-เอ็กซ์ The Iconic: มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ 1.9 และ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ที่ให้การตอบสนองการขับขี่ที่ดี, ประหยัดน้ำมัน และรักษาสิ่งแวดล้อม ชุดเกียร์อัตโนมัติขับเคลื่อนสองล้อ พร้อมช่วงล่างที่นุ่มนวล รวมถึงเทคโนโลยี และฟังก์ชั่นต่างๆ ที่ตอบสนองการใช้ชีวิตยุคใหม่ให้ผู้ใช้รถได้สูงสุดในทุกด้าน โดยมีให้เลือก 2 สี ขาวมุกเอเวอร์เรสต์ (Everest Pearl White) และดำออสเตรเลียนโคล (Australian Coal Black)
ความพิเศษอีกอย่างของมิว-เอ็กซ์ The Iconic และน่าจะถูกใจคนกรุงเทพฯ ที่ช่วงนี้ถนนหลักหลายสายกำลังก่อสร้างรถไฟฟ้าจนจราจรติดขัดแทบจะตลอด 24 ชั่วโมง คงเป็นระบบความบันเทิงที่ติดตั้งตัวรับสัญญาณ Digital TV Tuner พร้อมจอขนาดกะทัดรัดสำหรับผู้โดยสารแถวหลังได้นั่งดูทีวีเพลินๆ ไม่ต้องเปลืองค่าเน็ตโทรศัพท์มือถือ รวมทั้งระบบ Built-in Navigator ช่วยนำทางคุณสู่จุดหมายอย่างแม่นยำ และรวดเร็วที่สุด เรียกว่าเป็นยนตรกรรมไลฟ์สไตล์ที่ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้ใช้รถที่มีสไตล์อันโดดเด่นไม่ซ้ำใคร
นั่งเบาะหลังดูทีวีสบายๆ เผลอแป๊ปเดียวก็ฝ่ารถติดบนทางพิเศษมาถึงจุดหมายแรกในซอยสุขุมวิท 32 ร้านอำแดงไต้ฝุ่น ร้านอาหารไทยดั้งเดิมผสานเมนูจีนฮ่องกงสูตรต้นฉบับใช้วัตถุดิบพื้นบ้านจากทั่วประเทศไทยมาอนุรักษ์ให้คนรุ่นใหม่ได้ทานอาหารไทย และอาหารจีนแท้ๆ เหมือนได้ทานอาหารรสมือคุณย่าคุณยาย
แน่นอนว่าทริปนี้เราไม่พลาดเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้าน ปูทะเลยักษ์ผัดไต้ฝุ่น (Spicy Crab) สูตรต้นตำหรับจากเกาะฮ่องกงที่ใครได้ลองก็ติดใจความเผ็ดร้อนผสานกลิ่นหอมจากเคล็ดลับการผัดพริก และกระเทียมเคล้าปูทะเลสด ๆ รสชาติเข้มข้นในสัดส่วนที่พอดี
ก่อนที่อาหารหลากหลายเมนูจะทยอยขึ้นโต๊ะไม่ว่าจะเป็น ปูไข่ดองรสแซ่บ ที่นำปูไข่ดองไซส์ใหญ่ มาเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดรสจัดจ้านแบบไทยๆ, น้ำพริกโจร ซึ่งจะเป็นการใช้การยำแทนการตำตามสไตล์โจรเวลาออกเดินป่า และเมี่ยงปลาช่อนทอด ที่นำปลาช่อนมาทอดจนเหลืองกรอบ รับประทานกับเครื่องเคียง และน้ำเมี่ยง ปิดท้ายด้วยเมนูอาหารหวานชื่อเดียวกับร้าน “อำแดงไต้ฝุ่น” สุดยอดความอร่อยที่ผสมผสานวัตถุดิบไทย-จีน โดยนำเต้าหู้โฮมเมดคลุกกับงาบด ก่อนนำไปทอดโรยด้วยน้ำตาล และเกลือเล็กน้อยอร่อยละมุนลิ้น
อิ่มอร่อยในมื้อกลางวันเสร็จเรียบร้อย คณะสื่อมวลชน เดินทางต่อไปยังโรงเรียนบ้านเด็กรามอินทรา สังกัดมูลนิธิธรรมิกชนเพื่อคนตาบอดในประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สาขากรุงเทพฯ บริเวณซอยรามอินทรา 34 โดยโรงเรียนแห่งนี้ ได้เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2529 และได้เปลี่ยนเป็นโรงเรียนบ้านเด็กรามอินทรา เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 นับเป็นสถานศึกษาสำหรับเด็กตาบอดพิการซ้ำซ้อนแห่งที่ 2 ของมูลนิธิธรรมิกชนเพื่อคนตาบอดในประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ดำเนินการในรูปแบบโรงเรียนประจำ รับนักเรียนตั้งแต่เตรียมอนุบาล–ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 อายุระหว่าง 2 ขวบถึง 16 ปี
คณะสื่อมวลชนได้ร่วมมอบเงิน และสิ่งของเครื่องใช้จำเป็น โดยนางสาวดวงหฤษฎ์ ภูแพง ผู้อำนวยการโรงเรียนเป็นผู้รับมอบ จากนั้นจึงนำสื่อมวลชนเยี่ยมชมการเรียนการสอน และเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากฝีมือน้องๆ เด็กนักเรียนโรงเรียนบ้านเด็กรามอินทรา
อีซูซุมิว-เอ็กซ์ ใหม่: โดดเด่นด้วยนวัตกรรมขุมพลัง 1.9 และ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ เทคโนโลยีดีเซลยุคใหม่ กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ Sport 3D, ไฟหน้า Bi-LED ปรับระดับสูง-ต่ำอัตโนมัติพร้อมไฟ Daylight อยู่ในโคมเดียวกันพร้อมเส้นนำแสง LED Guiding Light โฉบเฉี่ยวทันสมัยแบบรถยนต์นั่งระดับหรู กันชนหน้า–หลังดีไซน์ใหม่ พร้อมไฟท้าย LED ดีไซน์ Sharp Horizon ลงตัวกับห้องโดยสารใหม่สีทูโทน Sandstone Beige เบาะนั่งกึ่งหนังแท้ดีไซน์ใหม่ Sport Cut โอบกระชับรับกับสรีระ การออกแบบภายในด้วยแนวคิด Isuzu Universal Design ระบบความบันเทิง iConnect พร้อม Built-in Navigator หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายกับ Smartphone หรือเชื่อมต่อผ่าน USB ที่สามารถรองรับเครื่องเล่น MP3 และ Flash Drive ให้ความเพลิดเพลินตลอดเส้นทาง ตอบโจทย์ทุกด้านของความต้องการในชีวิต
จากนั้นคณะสื่อมวลชนเดินทางต่อไปที่สยามเจมส์ เฮอริเทจ พิพิธภัณฑ์แหล่งเรียนรู้อัญมณีไทย ที่คณะสื่อมวลชนจะได้พบกับคุณทับทิม และคุณพลายน้อย ซึ่งเป็นประติมากรรมช้างทองคำรูปทรงงามสง่า หุ้มด้วยทองคำ 99.99% ที่เป็นแลนด์มาร์คสำคัญของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ก่อนจะตื่นตาตื่นใจกับภาพยนตร์กำเนิดอัญมณีภายในสยามเจมส์ สเฟียร์ที่เป็นโดมภาพยนตร์ขนาดใหญ่เส้นผ่านศูนย์กลาง 15 เมตร มีมุมมองแบบ 360 องศา ด้วยเทคนิคการฉายภาพยนตร์ระบบ 4K จากเครื่องฉาย 8 ตัว พร้อมแสงสีเสียงที่ได้รับการออกแบบโดยทีมงานด้านเทคนิคจากเยอรมนี จนรู้สึกเหมือนเข้าไปมีส่วนร่วมในเรื่องราว
เมื่อออกจากโดมภาพยนตร์ขนาดใหญ่จะเข้าไปสู่ส่วนพิพิธภัณฑ์ ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 5 โซนย่อย เริ่มต้นจาก “ห้องมณีนิรันดร์” เป็นส่วนที่ให้ความรู้เรื่องประวัติศาสตร์เครื่องประดับของโลก, “ห้องมณีประกาย” ที่จัดแสดง และให้ความรู้เรื่องการเจียระไนอัญมณีในแบบต่างๆ พร้อมตื่นตาตื่นใจกับการใช้เทคโนโลยีมิราสโคป (Mira Scope) ที่จะสะท้อนรูปทรงการเจียระไนของอัญมณีในรูปทรงต่างๆ ให้เห็นรอบด้านแบบ 3 มิติ
โซนจัดแสดงที่ 3 “ห้องมณีมงคล” จัดแสดงอัญมณีที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อของคนไทย 9 ชนิดหรือนพเก้า ได้แก่ เพชร, ทับทิม, มรกต, บุษราคัม, โกเมน, ไพลิน, มุกดา, เพทาย และไพฑูรย์ โซนที่ 4 จัดว่าเป็นที่สุดคือ “ห้องปัทมราณี” จัดแสดงผลงานชิ้นเอก “สยามเจมส์ เทียร่า” มงกุฎประดับยอดด้วยทับทิมสยามขนาด 21.09 กะรัต ถือเป็นราชาแห่งอัญมณีทั้งปวง มีทับทิมสีแดงเป็นบริวารอีก 24 เม็ด และรายล้อมมงกุฎด้วยเพชรแท้กว่า 1,946 เม็ด โซนสุดท้ายคือ “ห้องมณีวิทยา” นิทรรศการที่ให้ความรู้ฉบับย่อในเรื่องการออกแบบการขึ้นตัวเรือนของเครื่องประดับ ที่ทุกคนยังได้ลองออกแบบอัญมณีบนจอทัชสกรีนด้วยตัวเองผ่านโปรแกรมพิเศษอีกด้วย
ปิดท้ายทริปกับการเวิร์คช็อปทำขนมเสน่ห์จันทร์ ขนมไทยชื่อไพเราะ ณ ร้านบ้านดอกพุด คาเฟ่ขนมไทยโบราณสูตรต้นตำรับที่มีสโลแกนน่ารักๆ “หวานกำลังดี มีรอยยิ้ม” ในซอยลาดพร้าว 48 ที่ต้องผ่านตรอกซอกซอยลึกลับ ก่อนจะมาเจอร้านน่ารักที่เงียบสงบที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติให้สื่อมวลชนได้ร่วมแรงร่วมใจลองทำกันเป็นครั้งแรกกันอย่างสนุกสนาน
ส่วนผสมในการทำขนมเสน่ห์จันทร์ประกอบด้วย แป้งข้าวเจ้า, แป้งข้าวเหนียว, ผงจันทน์เทศป่น, กะทิ และน้ำตาลทราย นำมาผสมให้เข้ากัน กวนบนไฟอ่อนๆ จนจับตัวเป็นก้อน ใส่สีผสมอาหารสีเหลืองเพื่อให้ขนมมีสีเหลืองสวยน่ารับประทานเหมือนกับลูกจันทร์ตามชื่อขนม เมื่อได้สีตามที่ต้องการจึงปั้นให้เป็นก้อนกลมขนาดกำลังดี พร้อมแบ่งส่วนผสมแป้งมาเล็กน้อย เพื่อผสมสีน้ำตาลติดด้านบนลูกจันทร์ ให้เหมือนเป็นขั้วของลูกจันทร์ เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ก่อนจะให้สื่อมวลชนนำขนมเสน่ห์จันทร์ติดมือไปฝากให้คนที่บ้านได้ชิมความอร่อย
“The New Isuzu MU-X Privileged Press Trip” จบลงด้วยความประทับใจผ่านกิจกรรมสุดพิเศษที่อีซูซุได้คัดสรรมามอบให้สื่อมวลชน พร้อมสัมผัสกับสมรรถนะรุ่นพิเศษ! “อีซูซุมิว-เอ็กซ์ The Iconic” และ “ใหม่! อีซูซุมิว-เอ็กซ์” รถยนต์อเนกประสงค์สุดหรู โดดเด่นด้วยนวัตกรรมแห่งขุมพลัง 1.9 และ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ เทคโนโลยีดีเซลยุคใหม่ พลังแห่งความแรงเต็มประสิทธิภาพ แต่ประหยัดน้ำมัน ทำงานเงียบ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล: ตรีเพชร อีซูซุ เซลส์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th