นับจากเริ่มต้นการแข่งขันรายการแรกเมื่อ 91 ปีก่อน เส้นทางลัดเลาะป่ากลางภูเขา และโค้งที่สลับซับซ้อน ท้าทายทักษะของนักแข่งระดับโลก ทำให้ “นูร์เบอร์กริง” กลายเป็นหนึ่งในสนามแข่งระดับตำนานของวงการความเร็ว พร้อมได้รับการขนานนามให้เป็น “The Green Hell- หุบเขานรกสีเขียว”

สนามแห่งนี้ถือกำเนิดขึ้นเพื่อใช้จัดเทศกาลประลองความเร็วประจำปี Eifelrennen ที่มีทั้งรถยนต์ และมอเตอร์ไซค์เข้าร่วมแข่งขัน โดยใช้เวลาก่อสร้าง 2 ปี และเปิดใช้ครั้งแรกเมื่อปี 1927 โดย Gustav Eichler หัวหน้าทีมสถาปนิกวางรูปแบบเส้นทางลัดเลาะป่ากลางภูเขาเหมือนกับ Targa Florio รายการแข่งขันรถที่มีชื่อเสียงของประเทศอิตาลี ในช่วงเวลานั้น

ในยุคแรกสนามนูร์เบอร์กริง สามารถปรับเปลี่ยนได้ 4 รูปแบบ มีระยะทางรวม 28.2.65 กิโลเมตร เป็นสังเวียนแข่งขันรถยนต์หลายรายการ รวมถึงเยอรมัน กรังด์ปรีซ์ ที่เริ่มต้นครั้งแรก เมื่อปี 1931 ก่อนจะเข้าเป็นส่วนหนึ่งของศึกชิงแชมป์โลก ฟอร์มูล่าวัน ในเวลาต่อมา

แต่ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ทำให้ต้องมีการปรับรูปแบบสนามใหม่สำหรับการแข่งขันฟอร์มูล่าวัน มีระยะทางต่อรอบ 5.148 กิโลเมตร โดยทีมแข่ง Williams-BMW ประสบความสำเร็จ คว้าแชมป์เยอรมัน กรังด์ปรีซ์ 2 สมัย ในปี 2001 และ 2003

ในขณะที่สนามฝั่งเหนือหรือ Nordschleife ที่มีระยะทางต่อรอบ 20.8 กิโลเมตร ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสนามแข่งรถที่มีความท้าทายมากที่สุดของโลก ทั้งการวางเส้นทางที่หลอกสายตา จำนวนโค้งที่มากถึง 73 จุด (ซ้าย 33, ขวา 40) และระดับความลาดชันที่มีจุดสูงสุด-ต่ำสุดจากระดับทะเลที่แตกต่างกันเกือบ 300 เมตร

ในช่วงทศวรรษ 1960 Jackie Stewart ตำนานนักแข่งรถชาวอังกฤษ เจ้าของแชมป์เยอรมัน กรังด์ปรีซ์ 3 สมัย ยกย่องความโหดของสนามแห่งนี้ว่าเป็นเหมือน “หุบเขานรกสีเขียว- The Green Hell” ก่อนจะกลายเป็นชื่อที่แฟนมอเตอร์สปอร์ตเรียกติดปากจนถึงปัจจุบัน

ตลอดระยะเวลาหลายทศวรรษ BMW ที่มีทีมรถแข่งที่ประสบความสำเร็จ คว้าแชมป์หลายรายการที่นูร์เบอร์กริง เลือกสนามแห่งนี้เป็นสถานที่ทดสอบรถยนต์สมรรถนะสูงในตระกูล M จนถึงรถยนต์แห่งอนาคต i8 โดยเมื่อกลางปีที่ผ่านมา BMW M235i ที่มีการโมดิฟายจาก AC Schnitzer สร้างสถิติใหม่ให้พวกเขา ด้วยการทำเวลาต่อรอบ 7 นาที 25.8 วินาที ในการขับที่ฝั่ง Nordschleife  

ล่าสุด BMW Thailand จัดทริป  International Experience พาสัมผัสประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต กับการขับรถยนต์สปอร์ตคูเป้ BMW M4 เวอร์ชันล่าสุดในสนามนูร์เบอร์กริงแห่งนี้ เพื่อให้ลูกค้าในโปรแกรม The Ultimate JOY Experience จากประเทศไทยได้ร่วมสนุก ไม่น่าเชื่อว่าตั๋วที่จะใช้เดินทางไปเยือนสนามนี้ถูกจองเต็มในเวลาอันรวดเร็ว หลังจากเปิดให้จองผ่านเว็บไซต์เมื่อต้นเดือนมิถุนายน ช่างน่าอิจฉาเจ้าของรถ BMW ไปตามๆ กัน เพราะค่ายนี้มักออกโปรแกรมที่ไม่ธรรมดาให้ลูกค้าได้มาท้าทายตัวเอง สร้างประสบการณ์ใหม่อยู่เสมอ ไม่เว้นแม้แต่การขับรถเท่านั้น ซึ่งความพิเศษของแต่ละทริปอย่างที่รู้…มีเงินซื้อไม่ได้ ต้องเป็นเจ้าของรถ BMW คุณจะได้รับประสบการณ์อันเหลือเชื่อจนแทบสำลักความสุข ใครล่ะจะมีโอกาสไปขับรถเจ๋งๆ อย่าง BMW M4 ชื่อนี้การันตีมาพร้อมดีเอ็นเอมอเตอร์สปอร์ตอันเร้าใจ พร้อมให้คุณได้พุ่งทะยานในสนามนูร์เบอร์กริง แค่คิดก็ตื่นเต้นจนขนลุก ต้องขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้ไปต่อในโปรแกรมนี้

เจ้าของรถยนต์ BMW ทุกคนสามารถสมัครสมาชิก The Ultimate JOY Experience ได้ฟรีที่ www.BMWUltimateJOY.com เพื่อจองและกดรับสิทธ์ในกิจกรรมพิเศษต่างๆ รวมทั้งติดตามข่าวสารได้ที่ Facebook.com/bmwultimatejoy

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th