10 คืนติดต่อกันที่ณัฐยศ ศิริกายะ ทุ่มเทควบคุมพวงมาลัยของเครื่องซีมูเลเตอร์ในเกมแข่งรถ Gran Turismo Sport จนกลายเป็น 1 ใน 4 ตัวแทนของเอเชียเข้าร่วมชิงชัยกับเกมเมอร์สายรถแข่งชั้นนำของโลกอีก 12 คนในรอบสุดท้ายศึก Olympic Virtual Series ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

“พอประกาศผลเวลาออกมาผมดีใจมากๆ เลยครับ” ณัฐยศ หรือเจ้าของฉายา “เดอะ เมี่ยง—The Miang” ในวงการแข่งขัน Digital Motorsport เผยความรู้สึกด้วยน้ำเสียงที่ยังคงตื่นเต้น ระหว่างการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ “จริงๆ แล้วระหว่างการแข่งรอบคัดเลือกมีอยู่ช่วงหนึ่งเวลาของผมหล่นลงไปอยู่อันดับ 5 กว่าที่ผมจะขับทำเวลากลับมาอยู่อันดับ 3 ต้องใช้เวลาเกือบๆ 2 วัน ตอนทำเวลากลับเข้ามาอยู่ในอันดับที่จะผ่านเข้ารอบสุดท้ายน่าจะเป็นความรู้สึกดีใจมากกว่าตอนจบ เพราะช่วงใกล้จบรอบคัดเลือกเวลาของนักแข่งหลายคนเริ่มนิ่งแล้ว ช่วงที่ผมคิดว่ากดดันมากๆ เป็นช่วงกลางของการแข่งขันมากกว่า แต่สุดท้ายถามว่าดีใจไหม แน่นอนครับว่าผมดีใจมาก”

ในรอบคัดเลือกของการแข่งขัน Motorsport 1 ใน 5 ประเภทกีฬา Esports ที่ได้รับการบรรจุเข้าสู่ศึก Olympic Virtual Series ครั้งแรก (ร่วมกับเบสบอล, จักรยาน, พายเรือ, เรือใบ) บรรดาเกมเมอร์นักซิ่งจากทั่วโลกต้องประลองความเร็วออนไลน์ใน Gran Turismo Sport ที่รับรองโดยสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ (เอฟไอเอ) หลังจากลงทะเบียนร่วมการแข่งขันทุกคนจะได้รับรถ Toyota GR Supra Racing Concept ติดตั้งยาง Racing Hard แข่งขันใน Sport Mode แบบจับเวลา Time Trial ในสนาม Tokyo Expressway–South Inner Loop ให้เวลาทั้งหมด 10 วัน ระหว่างวันที่ 13-23 พฤษภาคมที่ผ่านมา

ด้วยภารกิจหน้าทำให้ณัฐยศ ต้องใช้เวลาช่วงกลางคืนตั้งแต่ 3 ทุ่มยาวไปจนถึงตี 5 ของเช้าอีกวัน ทำผลงานเก็บเวลาในรอบคัดเลือก Global Online Qualification ก่อนจบการแข่งขันด้วยเวลา 1 นาที 55.419 วินาที รั้งอันดับ 3 ของนักแข่งโซนเอเชียที่มีโควตาทั้งหมด 4 คน เพื่อเข้าไปชิงชัยกับอีก 12 นักแข่งรถเวอร์ช่วลจากทั่วโลกในรอบสุดท้าย World Final ของศึก Olympic Virtual Series ที่จะมีขึ้นในวันที่ 6 มิถุนายนนี้

นับจากวันประกาศผลรอบคัดเลือก ณัฐยศ จะมีเวลาเตรียมตัวอีกเพียง 11 วันเพื่อเป็นตัวแทนของประเทศไทยลงแข่งรอบสุดท้าย Olympic Virtual Series โดยเขาพูดถึงแผนการฝึกซ้อมว่า “คงจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเท่าไร หลักๆ ผมจะใช้เวลาฝึกซ้อมในช่วงกลางคืน เพราะตามปกติทุกวันตั้งแต่ 8 โมงเช้าจนถึง 2 ทุ่ม ผมจะต้องไปช่วยคุมทีมสอนนักแข่ง eRacing ของทาง B-Quik เพื่อลงแข่งขันในรายการของ GP e Racing และตัวผมเองก็จะต้องลงแข่งขันสนามสุดท้ายของ GP e Racing Pro Series ด้วยตารางที่ค่อนข้างแน่นช่วงนี้ผมก็ต้องพยายามแบ่งเวลาให้ดีที่สุดครับ”

การที่เวลาในรอบคัดเลือก OVS ของนักแข่งทั้ง 16 คนจาก 5 โซนทั่วโลกเรียกว่าสูสีกันมาก โดย “เดอะ เมี่ยง” ทำเวลาช้ากว่าวาเลริโอ กัลโล่ นักแข่งดาวรุ่งชาวอิตาเลี่ยนสังกัดทีม Williams_BRacer อันดับ 1 ของโซนยุโรปที่ทำเวลาได้ดีที่สุดในรอบคัดเลือกเพียงแค่ 0.373 วินาทีเท่านั้น ทำให้โอกาสเปิดกว้างสำหรับทุกคนที่จะได้รับชัยชนะ

การแข่งขัน Olympic Virtual Series จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2021 ด้วยความมุ่งมั่นของคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) เพื่อสนับสนุนการพัฒนากีฬาทั้งในรูปแบบกายภาพ Physical (กีฬาที่แข่งขันในสนามปกติ) และ Non-physical (การแข่งขัน Esports) ตามโร้ดแม็ป Olympic Agenda 2020+5 ที่เพิ่งประกาศออกมาเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดย Digitalisation นับเป็น 1 ใน 5 เทรนด์หลักจากผลสำรวจที่เชื่อว่าจะมีความสำคัญกับโลกในยุคหลังโควิด-19 โดยข้อเสนอแนะ 1 ใน 15 ข้อระบุว่า  Grow Digital Engagement with People—สร้างการรับรู้ของกีฬาดิจิทัลสู่ผู้คน 

“ในการแข่งขันรอบสุดท้ายจะต้องเปลี่ยนรถ 3 คันในวันเดียวกัน อาจจะมีปัญหาในเรื่องความคุ้นเคย ความแตกต่างคงจะเป็นที่ใครสามารถปรับตัวเข้ากับรถแข่งที่ใช้ในแต่ละสนามได้ดีกว่า และผมมองว่าผลงานรอบควอลิฟายด์จะมีส่วนสำคัญมาก ใครที่ได้ออกสตาร์ทในอันดับต้นๆ น่าจะได้เปรียบ” ณัฐยศ ให้ความเห็นถึงโอกาสจะเป็นผู้ชนะ ก่อนจะตอบถึงความมั่นใจกับการลงแข่งขันในฐานะตัวแทนของประเทศ “ถ้าจะบอกว่ามั่นใจ ผมมั่นใจว่าตัวเองจะทำให้ดีที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ครับ นักแข่งทุกคนคงจะต้องช่วงชิงจังหวะความได้เปรียบกัน และต้องคอยดูว่าจากทั้ง 16 คนใครจะผิดพลาดน้อยที่สุด”

ศึก Olympic Virtual Series รอบสุดท้าย World Final จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 6 มิถุนายนนี้ ใช้กติกาแข่งขันขันแบบ One Make Race เหมือนในรอบคัดเลือก แต่จะเปลี่ยนเป็นการเก็บคะแนนสะสมจาก 3 สนามที่แข่งขันต่อเนื่องแบบรวดเดียวจบ โดยเริ่มต้น–สนามที่ 1 Tokyo Expressway East Outer Loop รถแข่ง Toyota 86 Gr.4, สนามที่ 2 Sardegna Road Track B รถแข่ง Toyota GR Yaris และสนามที่ 3 Dragon Trail Seaside รถแข่ง Toyota GR Supra Racing Concept Gr.3

ณัฐยศ อธิบายรูปแบบการแข่งขันรอบสุดท้ายเพิ่มเติมว่าหลังจากแข่งขันครบทั้ง 3 สนาม นักแข่งทั้ง 16 คนจะไม่ได้เห็นเวลาหรือคะแนนสะสมว่าใครคือผู้ชนะ ทางฝ่ายจัดการแข่งขันจะนำภาพการแข่งขันไปตัดต่อเพื่อออกอากาศพร้อมกันทั่วโลกในวันพุธที่ 23 มิถุนายนนี้ เช่นเดียวกับการแข่งขัน Esports 4 รายการที่เหลือในศึก Olympic Virtual Series

เมื่อความฝันถึงจุดหมาย…เป้าหมายต่อไปของ ‘เดอะ เมี่ยง’

หลายคนที่สนใจการแข่งขันรถคงจะเคยได้ยินชื่อของณัฐยศ ตั้งแต่ตอนที่คว้าแชมป์ประเทศไทย Nissan GT Academy ซีซั่น 2 เมื่อปี 2015 ก่อนที่เขาจะเบรกตัวเองจากวงการแข่งรถออนไลน์ไประยะหนึ่ง และกลับมาสร้างชื่ออีกครั้งในรายการ GP e Racing ที่จัดการแข่งขันครั้งแรกในปี 2019 จนก้าวขึ้นมาครองแชมป์ประเทศไทยคนแรกในกีฬาประเภท Digital Motorsport และได้รับถ้วยพระราชทานสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ์ พระบรมราชินี เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

“หากเล่าย้อนกลับไปการแข่งขัน Nissan GT Academy คือจุดเริ่มต้นการเล่นเกมของผม หลังจากนั้นผมก็หยุดไประยะหนึ่งเพื่อเริ่มต้นชีวิตครอบครัว ก่อนที่จะตัดสินใจกลับมาอีกครั้งในการแข่งขัน GP e Racing ของบริษัทกรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล โดยคุณเอก-อโณทัย เอี่ยมลำเนา เป็นผู้จัดซึ่งเป็นรายการแข่งขันระดับสูงที่ได้รับการรับรองจากเอฟไอเอ และเป็นแข่งขันระดับอาชีพอย่างเต็มรูปแบบ ทำให้ผมได้รับเงินเดือนประจำเหมือนนักกีฬาอาชีพจริงๆ ก่อนที่ผมจะตัดสินใจกลับมามุ่งมั่นกับเกม Gran Turismo อย่างเต็มตัวอีกครั้ง”

“แต่การกลับมาลงแข่งขันในปัจจุบันผมต้องพยายามพัฒนาฝีมือเพื่อให้ทันเด็กรุ่นใหม่ที่มีความเร็วมาก จนทำให้บางครั้งผมรู้สึกว่าตัวเองเหมือนไดโนเสาร์ เหมือนคนแก่ไปเลย ตอนนี้การยกระดับฝีมือขึ้นมาไม่ใช่เรื่องง่ายเลยครับ” เกมเมอร์วัย 30 ปี พูดแบบทีเล่นทีจริงกับการประลองฝีมือกับเด็กรุ่นใหม่ในตอนนี้

ขณะเดียวกันการกลับมาประสบความสำเร็จในฐานะนักกีฬา Digital Motorsport ณัฐยศ ยอมรับว่าเป็นเพราะการสนับสนุนจากหลายฝ่ายที่ทำให้เขามุ่งมั่นกับการฝึกซ้อม และแข่งขันได้อย่างเต็มที่ “ผมขอกล่าวขอบคุณการสนับสนุนจากคุณสรัญ เสรีธรณกุล แห่งบริษัท P1Composites​ และ Amber Farm ผู้สนับสนุน​หลักที่ทำให้ผมมีอุปกรณ์​คุณภาพสูงใช้งานจนได้เข้าร่วมการแข่งขันระดับโลกครับ รวมถึงขอบคุณทางคุณอโณทัย เอี่ยมลำเนา ที่ทำให้เกม Gran Turismo Sport สามารถสร้างอาชีพ และฝันของผมไปพร้อมกันได้ครับ”

กระแสความนิยมของกีฬา Esports ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นสูงในหลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย ในฐานะรุ่นพี่ของการแข่งขัน  Digital Motorsport ณัฐยศ ฝากข้อความถึงบรรดาเกมเมอร์สายรถแข่งรุ่นใหม่ที่อยากจะประสบความสำเร็จได้อย่างน่าสนใจ

“สำหรับเด็กรุ่นใหม่ทุกๆ คนที่มีความฝันหรือรักการแข่งขันรถ ชอบกีฬาประเภทแข่งรถอยู่แล้ว ผมอยากจะบอกว่าพวกเขาต้องมีความมุ่งมั่น, ทุ่มเทฝึกฝน และต้องเข้าใจว่าความสำเร็จอาจจะไม่เกิดขึ้นทันที การแข่งขันกีฬาต้องใช้เวลา บางทีอาจจะรู้สึกท้อแท้ แต่ถ้าเราสู้ และตั้งใจมุ่งมั่น ผมเชื่อว่าไม่มีอะไรที่คนไทยทำไม่ได้ครับ”

และหลังจบภารกิจในรายการ Olympic Virtual Series ณัฐยศ มีเป้าหมายกับการแข่งขันดิจิตัลมอเตอร์สปอร์ตต่อไปอย่างไร “ความจริงแล้วผมก็ยังไม่ได้กำหนดเป้าหมายต่อไปหลังจาก Olympic Virtual Series แต่ผมอยากจะลองทดสอบฝีมือในการแข่งขัน FIA Nation Cup สักครั้ง แต่ตอนนี้ตารางเวลาไม่ค่อยเอื้ออำนวยเท่าไร เพราะเป็นรายการที่ต้องลงแข่งต่อเนื่องทั้งซีซั่นใช้เวลาราว 3 เดือน แตกต่างจากรอบคัดเลือก Olympic Virtual Series ที่ใช้เวลาแข่งขันเพียง 10 วันเท่านั้น”

แต่ไม่ว่าเป้าหมายต่อไปของเขาจะเป็นรายการใด ตอนนี้ ‘เดอะ เมี่ยง’ ณัฐยศ ศิริกายะ คือนักแข่ง Digital Motorsport ชาวไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ที่จะนำธงชาติไทยเข้าร่วมศึก Olympic Virtual Series

เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล

ขอบคุณข้อมูล: Facebook Themiang

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th