ตอกย้ำความเป็น็ผู้นำในการผลิตรถยนต์พลังงานทางเลือกอีกครั้ง หลังจากรถยนต์ไฮบริดของ Toyota ทำยอดขายรวมทั่วโลกทะลุ 9 ล้านคัน (รวมรถยนต์แบบปลั๊กอิน-ไฮบริด) เป็นที่เรียบร้อย โดยยอดขาย 1 ล้านคันล่าสุดเกิดขึ้นภายในเวลาเพียง 9 เดือนเท่านั้น

เมื่อเดือนตุลาคม 2015 ผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่รายนี้ได้ประกาศแผน Toyota Environmental Challenge 2050 โดยมีเป้าหมายเพื่อลดมลพิษจากรถยนต์ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโลกให้ลดลงมาใกล้เคียงตัวเลขศูนย์มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และการเสียสละเพื่อสร้างสังคมที่ยั่งยืน เพื่อบรรลุเป้าหมาย Toyota พยายามทำงานเพื่อขยายตัวเลือกรถยนต์ในกลุ่มไฮบริดให้มากขึ้น และช่วยลดมลภาวะด้วยการสร้างยอดขายให้ได้ 1.5 ล้านคันต่อปี เพื่อก้าวสู่เป้าหมายทำยอดขายรวมของรถยนต์ไฮบริดทั่วโลก 15 ล้านคันภายในปี 2020

ความพยายามในการลดมลพิษจากรถยนต์ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นภารกิจหลักของ Toyota มาตลอด บนพื้นฐานของจุดยืนที่รถยนต์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเป็นหนทางเดียวที่สามารถสร้างประโยชน์ต่อสังคมในวงกว้างหากมีการใช้งานอย่างแพร่หลาย ทำให้พวกเขาพยายามสนับสนุนอย่างจริงจังให้อุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลกเปลี่ยนแปลงมาสู่การใช้เครื่องยนต์ระบบไฮบริด

ในปีที่แล้ว Toyota เพิ่มทางเลือกให้ชาวญี่ปุ่นที่ชอบรถสไตล์มินิแวนด้วยการเปิดตัว Sienta Hybrid และเริ่มต้นการขายรถไฮบริดที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของพวกเขา Prius เจนเนอร์เรชั่นที่ 4 ส่วนในตลาดต่างประเทศมีการส่งรุ่นไฮบริดของ Corolla และ Levin ออกขายในประเทศจีน โดยระบบไฮบริดทั้งหมดได้รับการผลิตในแดนมังกร รวมทั้งรถยนต์สำหรับครอบครัว RAV4 ไฮบริด

นับตั้งแต่ Toyota เปิดตัว Coaster Hybrid EV ในเดือนสิงหาคม 1997 และ Prius รถยนต์นั่งไฮบริดที่ผลิตเพื่อการจำหน่ายรุ่นแรกของโลก ในเดือนธันวาคมปีเดียวกัน ยักษ์ใหญ่แห่งวงการรถยนต์แดนอาทิตย์อุทัยได้รับการสนับสนุนมากมายจากลูกค้าทั่วโลก โดยปัจจุบัน Prius เป็นรถไฮบริดที่มียอดขายสะสมเป็นอันดับ 1 ด้วยจำนวน 3.7 ล้านคัน

เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล

ภาพ: Toyota Media

เรียบเรียงข้อมูลโดย กรังด์ปรีซ์ออนไลน์ GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th