Toyota Motor Corporation และ Suzuki Motor Corporation ได้เริ่มต้นการพิจารณาถึงความร่วมมือกันมาตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2016 โดยที่มีการพิจารณาถึงรายละเอียดต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุด 2 ผู้ผลิตรถยนต์จากญี่ปุ่นได้ออกมาประกาศถึงความร่วมมือกันด้วยการสร้างกลุ่มพันธมิตรที่เรียกว่า Capital Alliance จากการแถลงร่วมกันของทั้ง 2 บริษัท โดยที่แต่ละบริษัทจะเข้าไปถือหุ้นของอีกฝ่ายจำนวนหนึ่ง ในขณะที่เป้าหมายการร่วมมือครั้งนี้มุ่งไปที่เทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติ รวมทั้งการใช้เครื่องยนต์และระบบต่างๆ ร่วมกัน

รายละเอียดการร่วมเป็นพันธมิตรของทั้ง 2 ผู้ผลิตรถยนต์จะรวมไปถึงการที่ Toyota ใช้เงินประมาณ 96 พันล้านเยนเพื่อซื้อหุ้นจำนวน 24,000,000 หุ้นหรือ 4.94 เปอร์เซ็นต์ใน Suzuki ในขณะที่ทาง Suzuki จะใช้เงินประมาณ 48 พันล้านเยนเพื่อซื้อหุ้นของ Toyota ซึ่งเป็นจำนวน 0.2 เปอร์เซ็นต์ โดยทั้ง 2 บริษัทได้ระบุในแถลงการณ์ความร่วมมือนี้ว่า “ตั้งเป้าไปสู่การเติบโตอย่างมั่นคง ด้วยการก้าวข้ามความท้าทายใหม่ๆ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์โดยการสร้างและมีความร่วมมือที่มากขึ้นในสาขาใหม่ๆ ขณะที่ยังคงเป็นคู่แข่งทางการตลาดต่อไป”

เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาทั้ง 2 บริษัทได้ออกมาบอกว่า Toyota จะสนับสนุนในเรื่องความเชี่ยวชาญด้านการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ในขณะที่ Suzuki จะแบ่งปันเครื่องยนต์รุ่นล่าสุดที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อรถขนาดคอมแพกต์และขนาดเล็ก โดยผลิตภัณฑ์แรกของกลุ่มพันธมิตรนี้จะเป็นรถยนต์ 2 รุ่นของ Suzuki สำหรับตลาดยุโรปซึ่งใช้พื้นฐานจาก RAV4 และ Corolla Wagon นอกจากนี้ทาง Toyota จะมีการผลิตเครื่องยนต์ที่ทาง Suzuki ออกแบบที่โรงงานในโปแลนด์ รวมทั้ง 2 ผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นจะมีการทำงานร่วมกันโดยมีเป้าหมายในการพัฒนารถยนต์ไฮบริดที่ตลาดในอินเดีย โดยที่ทาง Suzuki จะมีการผลิตรถขนาดคอมแพกต์ 2 รุ่นให้ Toyota โดยใช้พื้นฐานจาก Ciaz และ Ertiga รวมทั้งรุ่นอื่นอีก 4 รุ่นสำหรับตลาดแอฟริกาด้วย

นอกจากการเข้าไปถือหุ้น 4.94 เปอร์เซ็นต์ใน Suzuki แล้ว ปัจจุบัน Toyota ยังเป็นเจ้าของ Daihatsu และ Hino รวมทั้งมีหุ้น 16 เปอร์เซ็นต์ใน Subaru และ 5 เปอร์เซ็นต์ใน Mazda ด้วย

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th