Toyota 4Runner รุ่นใหม่พร้อมลุยตลาดอเมริกาด้วย 2 ระบบขับเคลื่อน
Toyota เผยโฉมเจเนเรชันใหม่ของ 4Runner รถเอสยูวีที่เน้นทำตลาดในอเมริกาเหนือรวมทั้งบางประเทศออกมาหลังจากที่รุ่นก่อนหน้าทำตลาดมานาน 15 ปี โดยมีหลากหลายเกรดแต่งให้เลือกรวมทั้งเกรดที่เน้นลุยออฟโรดเป็นพิเศษ พร้อม 2 ทางเลือกของระบบขับเคลื่อนทั้งเครื่องยนต์สันดาปธรรมดาและไฮบริด
Toyota 4Runner เจเนเรชันใหม่ไม่เพียงอยู่บนแพลตฟอร์ม GA-F เหมือนกับที่อยู่ในรถปิกอัพ Tacoma ที่ขายในอเมริกาเหนือเท่านั้น แต่ยังใช้หลายชิ้นส่วนของรถรวมทั้งการออกแบบบางส่วนของรถร่วมกันด้วย อย่างเส้น Beltline ด้านข้างที่ต่ำซึ่งยาวจากหลังล้อหน้าไปจนถึงด้านหลังของห้องโดยสาร อย่างไรก็ตามรถเอสยูวีรุ่นใหม่จะถูกออกแบบภายนอกโดยเน้นความแกร่งมากกว่ารถปิกอัพ Tacoma เพื่อให้ความมั่นใจในการลุย ส่วนขนาดของรถมีความยาว 4,950 มม.กว้าง 1,976 มม. สูง 1,798 มม. ขณะที่ระยะฐานล้อของรถมีความยาว 2,844 มม.
ห้องโดยสารของรถเอสยูวีรุ่นใหม่เหมือนถูกยกมาจาก Tacoma ทั้งรูปแบบการจัดวางสิ่งต่างๆ ที่อุโมงค์กลาง ระบบ Infotainment ช่องวางแก้วน้ำ และช่องเก็บสัมภาระ อย่างไรก็ตามรถมาพร้อมกับเบาะแถวที่ 3 รวมทั้งมีกระจกหลังไฟฟ้า ส่วนจอมัลติมีเดียของรถมีขนาด 8 นิ้วหรือ 14 นิ้วพร้อมรองรับ Apple CarPlay ไร้สายและ Android Auto ขณะที่การแสดงข้อมูลการขับของรถมีทั้งเรือนไมล์ขนาด 7 นิ้วหรือจอดิจิตอลขนาด 12.3 นิ้วในเกรดสูง นอกจากนี้ยังมีช่องชาร์จยูเอสบีมาให้ใช้ทั้งที่เบาะหน้าและเบาะหลัง
4Runnerรุ่นใหม่มาพร้อมกับความสามารถในการลุยด้วยมุมไต่ 32 องศา มุมจาก 24 องศา และมีความสูงของใต้ท้องรถจากพื้น 233 มม. พร้อมกับมีระบบ Multi-Terrain Select ที่ได้รับการอัปเกรดให้สามารถทำงานได้ในโหมด 4WD-High และ 4WD-Low โดยมีโหมดการลุยมาให้เลือกทั้ง Mud, Dirt และ Sand รวมทั้งมีฟังก์ชัน Crawl Control ซึ่งเป็นระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำเมื่อขับออฟโรด และการทำงาน Downhill Assist Control ที่ช่วยควบคุมความเร็วของรถเมื่อขับลงทางลาดชันมาให้ใช้
ระบบขับเคลื่อนของรถมีทั้งเครื่องยนต์สันดาปล้วน 2.4 ลิตร เทอร์โบที่ถูกเรียกว่า i-Force มีกำลัง 278 แรงม้า แรงบิด 429 นิวตัน-เมตร หรือ i-Force Max ซึ่งเป็นระบบไฮบริดใช้เครื่องยนต์ 2.4 ลิตร เทอร์โบทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี 1.87 kWh มีกำลัง 326 แรงม้า แรงบิด 629 นิวตัน-เมตร ซึ่งทั้งสองเครื่องยนต์ใช้ระบบส่งกำลังอัตโนมัติ 8 สปีดเหมือนกัน โดยหากเป็นรถรุ่นขับเคลื่อนด้วยล้อหลังจะมาพร้อมกับ Limited Slip Differential อัตโนมัติเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ส่วนรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อมาพร้อมกับ Transfer Case 2 สปีดและ Limited Slip Differential อัตโนมัติ
รถเอสยูวีรุ่นใหม่มีหลากหลายเกรดแต่งให่เลือกในสหรัฐอเมริการวมทั้งเกรดเน้นความหรูและเกรดเน้นการลุย ส่วนการขายรถจะเริ่มในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ ขณะที่ราคารถยังไม่มีการเปิดเผยออกมา
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th