Toyota 4Runner TRD Sport เกรดแต่งเพิ่มสมรรถนะบนถนน
ขณะที่ในบ้านเรารวมทั้งเพื่อนบ้านแถบอาเซียนพากันปลดเกรดที่ใช้ชื่อ TRD ออกแล้วแทนที่ด้วย GR Sport แต่ที่สหรัฐอเมริกายังคงใช้ชื่อ TRD กับเกรดแต่งพิเศษอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดยังมีการเพิ่มเกรด TRD Sport ให้กับรถเอสยูวีขนาดกลาง 4Runner จากที่มีเกรดแต่งในชื่อ TRD ให้เลือกอยู่แล้ว 2 เกรดคือ TRD Off-Road และ TRD Pro ที่มาพร้อมกับอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับการลุยเส้นทางทางวิบาก
Toyota 4Runner TRD Sport แตกต่างจาก TRD Off-Road และ TRD Pro เพราะจะเน้นไปที่สมรรถนะในการใช้งานบนถนนมากกว่า จึงทำให้รถมาพร้อมกับช่วงล่าง Cross-Linked Relative Absorber System เพื่อเพิ่มการควบคุมรถบนถนน โดยระบบช่วงล่างจะปรับกำลังในการหน่วงของช็อกแอบซอร์เบอร์อัตโนมัติเมื่อขับรถในถนนที่มีพื้นผิวไม่เรียบหรือเมื่อเข้าโค้ง
ผู้ซื้อ 4Runner TRD Sport จะเลือกการขับเคลื่อนของรถได้ระหว่าง 2 ล้อหรือ 4 ล้อพาร์ทไทม์พร้อม Transfer Case 2 สปีด ซึ่งนอกจากการขับเคลื่อนแล้วยังมีความแตกต่างกันในเรื่องความสูงของรถ เพราะรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อจะมีความสูงของใต้ท้องรถจากพื้น 9 นิ้ว ขณะที่รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อมีความสูง 9.6 นิ้วจากพื้น
นอกจากเรื่องระบบช่วงล่างแล้ว 4Runner TRD Sport ยังมีความแตกต่างจากเกรดอื่นที่การใช้สีตัวรถแต่งที่กระจังหน้า กาบข้าง และซุ้มล้อของรถ รวมไปถึงมีสคูป TRD-Style บนฝากระโปรง ติดราวหลังคาและแผ่นกันกระแทกด้านหน้าสีดำ และมาพร้อมกับล้อ 20 นิ้วสี Dark Gray
ส่วนในห้องโดยสารใช้วัสดุ SofTex สีดำหุ้มเบาะและเดินด้ายสีเทา โดยที่เบาะหน้ามีฟังก์ชั่นปรับความอุ่นได้และปักโลโก้ TRD สีเทาที่พนักพิงศรีษะ นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์มาตรฐานเพื่อบ่งบอกความเป็นเกรดแต่ง TRD ทั้งพรมปูพื้นและหัวเกียร์ TRD ในขณะที่อุปกรณ์มาตรฐานอื่นในห้องโดยสารมีเบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง จอระบบ Infotainment ขนาด 8 นิ้วพร้อม Apple CarPlay, Android Auto และ Amazon Alexa
ในส่วนขุมกำลังของ 4Runner TRD Sport ไม่ต่างกับ 4Runner เกรดอื่นที่เป็นเครื่องยนต์ V6 4.0 ลิตร 270 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 377 นิวตัน-เมตร ขณะที่ราคาขายของรถทาง Toyota ไม่ได้ระบุออกมา
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th