โตโยต้า เตรียมดัน All New Yaris ATIV แทนที่ Vios ลุยตลาดคอมแพ็กต์ซีดาน
โตโยต้า มั่นใจ All New Yaris ATIV ยึดแชมป์อีโค-ซีดานของประเทศไทย ตั้งเป้ายอดขาย 3,500 คันต่อเดือน วางกลยุทธ์ขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ พร้อมคอนเฟิร์มเลิกผลิต Vios หลังจากครองความสำเร็จในกลุ่มคอมแพ็กต์ซีดานของประเทศไทยมานานเกือบ 2 ทศวรรษ
โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จัดงานเปิดตัว All New Toyota Yaris ATIV เจเนอเรชั่นที่ 2 ของซับคอมแพ็กต์ซีดานยอดนิยมเป็นครั้งแรกของโลก เมื่อวันอังคารที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยมาพร้อมคอนเซ็ปต์ “Our Beloved นี่แหละ…รถของเรา” ด้วยดีไซน์ตัวถังสไตล์ Fastback พัฒนาบนแพลตฟอร์มใหม่ DNGA เครื่องยนต์ Dual VVT-iE 1.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 94 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 110 นิวตัน-เมตร ติดตั้งฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย พร้อมระบบความปลอดภัยที่ครบครัน ในราคาระหว่าง 539,000-689,000 บาท
กลยุทธ์สร้างความเป็น ‘People Beloved Car’
โตโยต้า คาดหวังว่า All New Yaris ATIV จะเป็นรถยนต์ที่ได้รับความรักจากทุกคนในประเทศไทย ตามคอนเซ็ปต์ “Our Beloved นี่แหละ…รถของเรา” โดยเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ ผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่วางกลยุทธ์ที่เป็น 3 เสาหลักสำคัญคือ The Best Product—ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด, The Best Experience—ประสบการณ์ที่ดีที่สุด และ The Best Mobility—การขับเคลื่อนที่ดีที่สุด
ในช่วงตอบคำถามสื่อมวลชน ผู้บริหาร Toyota อธิบายเพิ่มเติมว่า The Best Product: คือการที่ All New Yaris ATIV ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิดในการพัฒนา: ความภาคภูมิใจ (Proudful) ด้วยการออกแบบภายนอกสไตล์ Fastback พร้อมการออกแบบภายในที่หรูหรา, ความสะดวกสบาย (Comfortable) ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางพร้อมสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม และราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่าย (Affordable) องค์ประกอบที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีขั้นสูงเหนือระดับ แต่ให้ความคุ้มค่า
The Best Experience: ด้วยแพ็คเกจสินเชื่อรถยนต์รูปแบบใหม่ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น เช่น แพ็คเกจประกันภัย Pay How Your Drive (PHYD) ที่ลดอัตราดอกเบี้ยประกันภัยสำหรับลูกค้าที่ขับขี่อย่างปลอดภัย และ Toyota Connected Frequent Service Reward (TFSR) เพื่อตอบแทนลูกค้าที่นำรถเข้าศูนย์เพื่อรับบริการตรงตามเวลาที่กำหนด
The Best Mobility: การขับเคลื่อนที่ดีที่สุดด้วยบริการ T-Connect ที่จะคอยดูแลผู้ขับขี่ทุกที่ทุกเวลาผ่านระบบต่างๆ เช่น ระบบติดตามรถหาย (Theft Track), การแจ้งเตือนการบำรุงรักษาผ่านระบบดิจิทัล (Digital Maintenance Reminder), การจองผ่านระบบดิจิทัล (Digital Booking), ระบบช่วยเหลือฉุกเฉิน SOS และบริการผู้ช่วยส่วนตัว (Concierge Service)
ตั้งเป้ายึดแชมป์อีโค-ซีดาน สานต่อความสำเร็จ Vios
ในตลาดรถยนต์ประเทศไทยปัจจุบัน รถยนต์อีโคคาร์มียอดขายประมาณ 100,000 คันต่อปี คิดเป็น 50 เปอร์เซ็นต์ของตลาดรถยนต์นั่ง (Passenger Car Segment) โดยสัดส่วนยอดขายอีโคคาร์ 4 ประตู และอีโคคาร์แฮตช์แบ็ก 5 ประตูจะเท่ากันที่ 25 เปอร์เซ็นต์
ระหว่างการแถลงข่าวผู้บริหารโตโยต้า ประกาศเป้าหมายยอดขายของยาริส เอทีฟ เจเนอเรชั่นใหม่ ไว้ที่ 3,500 คันต่อเดือน เพื่อรักษาตำแหน่งอันดับ 1 หลังจากเจเนอเรชั่นแรกที่เปิดตัวเมื่อปี 2560 มียอดขายสะสม 133,000 คัน
ข๊ณะที่ปัจจุบัน Toyota ครองส่วนแบ่ง 53 เปอร์เซ็นต์ในตลาดอีโคคาร์ซีดาน ถึงจะประสบปัญหาขาดแคลนชิ้นส่วนในการผลิตเช่นเดียวกับค่ายรถยนต์รายอื่น แต่โตโยต้า แสดงความมั่นใจว่าจะทำยอดขายได้ตามเป้าหมาย และ All New Yaris ATIV มีรถพร้อมส่งมอบให้ลูกค้าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า “ด้วยคุณค่าที่เหนือระดับทั้งหมดนี้ ผมเชื่อว่ายาริส เอทีฟ ใหม่ จะขึ้นเป็นรถยนต์ที่ชื่นชอบของคนไทยได้ไม่ยาก และผมเชื่อมั่นว่ารถยนต์รุ่นนี้จะเป็นผู้นำในตลาดคอมแพ็กต์ซีดาน ด้วยเป้าหมายการขายที่ 3,500 คันต่อเดือน”
นอกจากนี้ผู้บริหารโตโยต้า ยืนยันว่า Vios รถยนต์คอมแพ็กต์ซีดานที่ทำตลาดในประเทศไทยมายาวนานถึง 19 ปี และมียอดขายสะสมทั่วโลกมากกว่า 3.5 ล้านคัน ได้ยุติการผลิตมาระยะหนึ่งแล้ว โดยหลังจากนี้ Yaris ATIV จะเป็นโมเดลที่ถูกใช้ทำตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็กสี่ประตูในประเทศไทยแทน
ทุ่มงบประมาณพัฒนา 5,200 ล้านบาท–ส่งออก 35 ประเทศทั่วโลก
โตโยต้า เปิดเผยข้อมูลการพัฒนา All New Yaris ATIV ใช้งบประมาณราว 5,200 ล้านบาท โดยรวมการลงทุนในส่วนของซัพพลายเออร์ มีการใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศไทย (Local Content) ประมาณ 88 เปอร์เซ็นต์ และชิ้นส่วนนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน 6 เปอร์เซ็นต์
ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า “เราภูมิใจที่จะประกาศว่าได้ทุ่มเงินลงทุนถึง 5.2 พันล้านบาทเพื่อโครงการนี้ โดยรถรุ่นนี้จะทำการประกอบที่โรงงานผลิตรถยนต์โตโยต้า เกตเวย์ จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยใช้ระบบการผลิตแบบควบ 2 กะ พร้อมพนักงานกว่า 10,000 คน ที่จะมีส่วนร่วมในกระบวนการที่เกี่ยวข้องทั้งหมด”
“ยิ่งไปกว่านั้นยังทำการผลิตเพื่อส่งออกไปจำหน่ายยังกว่า 35 ประเทศทั่วโลก นี่ไม่ใช่เพียงแค่รถยนต์ที่ดีกว่าที่เราเคยมีมาเท่านั้น แต่ยังมอบคุณค่าที่เหนือกว่าให้กับลูกค้าคนสำคัญของเรา”
อย่างไรก็ตามรถยนต์อีโคคาร์ขุมกำลังไฮบริดจาก Toyota ที่มีกระแสข่าวลือมายาวนาน ทางผู้บริหารโตโยต้า ประเทศไทย ไม่มีการให้ข้อมูลใดๆ โดยระบุเพียงว่าเงินลงทุน 5,200 ล้านบาทเป็นในส่วนของ Yaris ATIV 2022 เท่านั้น และหากจะเปิดตัวรุ่นไฮบริดในอนาคตจะเป็นการลงทุนที่แยกจากกัน
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล: โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th