Toyota Alphard เจเนเรชันที่ 4 เผยโฉมที่ญี่ปุ่น
Toyota เผยโฉมมินิแวน Alphard รุ่นใหม่ซึ่งเป็นเจเนเรชันที่ 4 ออกมา โดยระบุว่าเป็นรถที่ถูกพัฒนาขึ้นบนแนวคิด “ความเพลิดเพลินของการเดินทางที่สะดวกสบาย” เพื่อให้เป็นพื้นที่สำหรับการเดินทางที่ทุกคนในรถตั้งแต่ผู้ขับไปจนถึงผู้โดยสารที่เบาะหลังสามารถแบ่งปันสิ่งที่ได้รับและคุณค่าในสถานการณ์ต่างๆ ได้
Toyota Alphard ใหม่ซึ่งตัวรถมีความยาว 4,940 มม. กว้าง 1,850 มม. สูง 1,880 มม. และมีระยะฐานล้อยาว 3,010 มม. ถูกระบุว่าได้รับการออกแบบเพื่อให้มีความยาวของรถที่ตอบรับกับระบบจอดรถอัตโนมัติสำหรับรถที่มีความยาวไม่เกิน 5,000 มม. ส่วนการออกแบบภายนอกรถมาในแนวทาง Forceful x Impact Luxury ซึ่งสร้างความรู้สึกหนักแน่นแข็งแกร่งให้รถเหมือนกับวัวชนที่กำลังพุ่งเข้าใส่ ด้วยเส้นสายที่เฉียบคมจากด้านหน้าไปถึงด้านหลัง
สำหรับห้องโดยสารของรถถูกระบุว่ามีพื้นที่ระหว่างเบาะหน้าและเบาะแถวที่ 2 เพิ่มขึ้น 5 มม. ส่วนพื้นที่ระหว่างเบาะแถวที่ 2 กับเบาะแถวที่ 3 มีพื้นที่เพิ่มขึ้น 10 มม. นอกจากนี้ยังมีการพัฒนา Super-long Overhead Console และเน้นพื้นที่ส่วนกลางของเพดานสำหรับความสะดวกและการควบคุมต่างๆ ซึ่งสามารถเข้าถึงจากผู้โดยสารทุกที่นั่งเพื่อเปิดหน้าต่างรถฝั่งตรงข้ามหรือปรับแสงไฟในรถ
นอกจากนี้มินิแวนรุ่นใหม่ยังเป็นรถรุ่นแรกของ Toyotaที่มาพร้อมกับ Universal Steps ทั้งประตูเลื่อนฝั่งซ้ายและขวาของรถ เพื่อช่วยให้ทั้งเด็กและผู้สูงอายุสามารถเข้า-ออกห้องโดยสารได้สะดวกขึ้น ด้วยการมีบันไดข้างสูงจากพื้น 220 มม. เลื่อนออกมาเมื่อเปิดประตูรถ รวมทั้งยังมี Long Assist Grip ที่เสา C-pillar ทั้ง 2 ฝั่งของรถ ซึ่งสามารถจับได้ง่ายกับผู้โดยสารทุกขนาดรูปร่าง ส่วนหลังคามูนรูฟของรถก็สามารถเลือกที่จะบังแสงเฉพาะฝั่งซ้ายหรือขวาของรถได้ตามความต้องการของผู้โดยสารแต่ละคน
ระบบขับเคลื่อนของรถมินิแวนรุ่นใหม่ซึ่งอยู่บนแพลตฟอร์ม TNGA GA-K มี 2 ทางเลือกระหว่าง Serial Parallel Hybrid ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ 2.5 ลิตร มีกำลัง 250 แรงม้า ใช้ระบบส่งกำลังอีซีวีที ขับเคลื่อนด้วย 2 ล้อหน้าหรือ 4 ล้อ E-Four ส่วนอีกระบบขับเคลื่อน เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร ใช้ระบบส่งกำลังซูเปอร์-ซีวีที-ไอ โดยมีทั้งขับเคลื่อนด้วยล้อหน้าและ 4 ล้อให้เลือก
นอกจากนี้แน่นอนว่ารถรุ่นใหม่ย่อมมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยและระบบช่วยขับล่าสุด อย่างการช่วยควบคุมพวงมาลัยของรถ ช่วยลดความเร็วขณะเลี้ยวที่ทางแยก ระบบช่วยจอดและนำรถออกจากที่จอดผ่านการควบคุมจากสมาร์ทโฟน รวมทั้งระบบช่วยขับเมื่อการจราจรหนาแน่และรถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วไม่เกิน 40 กม./ชม.
ส่วนราคาของรถเริ่มต้นตั้งแต่ 5,400,000-8,720,000 หรือประมาณ 1,325,000-2,140,000 บาท โดยในอนาคตจะมีรุ่นปลั๊กอินไอบริดตามออกมาเป็นอีกทางเลือก
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th