Alphard Killer เทียบสเปก 3 MPV หรูจากจีน เจ๋งแค่ไหน สู้ได้จริงหรือไม่

Alphard Killer เทียบสเปก 3 MPV หรูจากจีน เจ๋งแค่ไหน สู้ได้จริงหรือไม่ เค้าว่ากันว่ารถอเนกประสงค์แบบลักซ์ชัวรี่ MPV 7 ที่นั่ง จากประเทศจีนที่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยแต่ละรุ่นนั้นจะทำให้ยอดจำหน่ายของพี่ใหญ่เจ้าตลาดอย่าง Toyota Alphard ต้องสั่นสะเทือนเหมือนอย่างที่ใครหลายคนพูดไว้หรือไม่ว่า เจ้ารถลักซ์ชัวรี่ MPV พวกนี้เป็น Alphard Killer วันนี้เราเทียบกันให้เห็นกันไปเลยว่าทั้งรูปทรง การออแบบ ภายนอกภายใน ออฟชั่น ฟรังชั่น ระบบขับเคลื่อน จะสู่พี่ใหญ่อย่าง Toyota Alphard ได้จริงหรือไม่ มาดูกันครับ

ลักซ์ชัวรี่ MPV 7 ที่นั่ง จากประเทศจีนที่หวังโค่นบัลลังก์ Toyota Alphard / Vellfire นั้น คือ Zeekr 009 , MG Maxus 9 และ BYD Denza D9

Toyota Alphard Killer เทียบสเปก 3 MPV หรูจากจีน

Toyota Alphard Killer

ราคาจำหน่าย

Toyota Alphard / Vellfire	4,129,000 – 4,499,000 บาท
Zeekr 009 Flagship AWD	3,099,000 บาท
MG Maxus 9	2,499,000 – 2,699,000 บาท
BYD Denza D9	1,999,000 และ 2,699,000 บาท

มิติตัวถัง (ยาว x กว้าง x สูง / ฐานล้อ)

Toyota Alphard	5,010 x 1,850 x 1,950	ระยะฐานล้อ 3,000 มิลลิเมตร
Zeekr 009 Flagship AWD	5,209 x 2,024 x 1,812	ระยะฐานล้อ 3,205 มิลลิเมตร
MG Maxus 9	5,270 x 2,000 x 1,840	ระยะฐานล้อ 3,200 มิลลิเมตร
BYD Denza D9	5,250 x 1,960 x 1,920	ระยะฐานล้อ 3,110 มิลลิเมตร

ระบบขับเคลื่อน

Toyota Alphard	เบนซิน 2.5 Hybrid E-Four 4 สูบ พละกำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิด 236 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 5NM พละกำลัง 182 แรงม้า 270 นิวตันเมตร และ มอเตอร์ตัวหลัง 4NM พละกำลัง 54 แรงม้า 121 นิวตันเมตร เมื่อเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า รวมพละกำลังสูงสุด 250 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ e-CVT แบตเตอรี่ Ni-MH ขับเคลื่อน 4 ล้อ E-Four รองรับน้ำมันสูงสุด E10
Zeekr 009 Flagship AWD	Dual Motors AWD มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ 2 ตัว พละกำลังสูงสุด 612 แรงม้า 686 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ Cell-to-pack CTP 2.0 CATL Battery 400V Technology ขนาด 116 kWh ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD All-Wheel Drive วิ่งไกล 686 km. ต่อชาร์จ (มาตรฐาน NEDC)
MG Maxus 9	ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor พละกำลังสูงสุด 245 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ Lithium-ion แบบ Cell To Pack ขนาดความจุ 90 kWh วิ่งไกล 540 km. ต่อชาร์จ (มาตรฐาน NEDC) ขับเคลื่อนล้อหน้า
BYD Denza D9	Single Motor – FWD ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า AC Permanent Magnet Synchronous Motors 1 ตัว 312 แรงม้า 360 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ Blade Battery Lithium-ion LFP ขนาด 103.36 kWh ขับเคลื่อนล้อหน้า วิ่งไกล 600 km. ต่อชาร์จ (มาตรฐาน NEDC) Dual Motor – AWD ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า AC Permanent Magnet Synchronous Motors 2 ตัว 374 แรงม้า 470 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ Blade Battery Lithium-ion LFP ขนาด 103.36 kWh ขับเคลื่อน 4 ล้อ All-Wheel Drive วิ่งไกล 580 km. ต่อชาร์จ (มาตรฐาน NEDC)

ระบบช่วงล่าง

Toyota Alphard	ด้านหน้า MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลัง อิสระแบบปีกนกคู่ พร้อมเหล็กกันโคลง
Zeekr 009 Flagship AWD	ด้านหน้า เป็นแบบอิสระปีกนกคู่ Double Wishbone ด้านหลัง เป็นแบบอิสระ Multi-link ระบบรองรับเป็นแบบถุงลม Air Suspension พร้อมระบบ Dynamic Damping Control (DDC) ปรับความแข็ง – นุ่ม อัตโนมัติ ปรับความสูงของช่วงล่างได้ 5 ระดับ
MG Maxus 9	ระบบช่วงล่างด้านหน้า MacPherson Strut ระบบช่วงล่างด้านหลัง Multilink
BYD Denza D9	ด้านหน้าแบบ แม็คเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังแบบ มัลติลิงก์ รุ่น Premium ติดตั้ง ระบบกันสะเทือนปรับอัตโนมัติตามความเร็วแบบ FSD รุ่น Performance ติดตั้งระบบกันสะเทือนอัจฉริยะ DiSus-C เอกสิทธิ์ เฉพาะของ BYD

ภายนอก

Toyota Alphard	ไฟหน้า Projector Lens แบบ LED ไฟ Daytime Running Lights แบบ LED ไฟเลี้ยว LED แบบ Sequential ระบบไฟหน้า Follow-Me-Home ไฟตัดหมอกคู่หน้า แบบ LED ไฟตัดหมอกด้านหลัง กระจกบังลมหน้า แบบลดเสียงรบกวน Acoustic Glass หลังคา Twin Sunroof แบบแนวตั้ง Vertical ด้านหลัง ล้ออัลลอย ขนาด 17 นิ้ว ยาง ขนาด 235/65 R17
Zeekr 009 Flagship AWD	ไฟหน้า LED ไฟเบรกดวงที่ 3 LED ไฟท้าย LED ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าแบบอัตโนมัติ ระบบไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lights) ล้ออัลลอย ขนาด 20 นิ้ว กระจกมองข้างพับและปรับไฟฟ้า กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ฝาท้ายจะเปิด- ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
MG Maxus 9	ไฟหน้า LED ไฟเบรกดวงที่ 3 LED ไฟท้าย LED ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าแบบอัตโนมัติ ระบบไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lights) ล้ออัลลอย ขนาด 19 นิ้ว ยางแบบ Run Flat กระจกมองข้างพับและปรับไฟฟ้า กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง และ สปอยเลอร์หลัง ฝาครอบเครื่องพร้อมช่องเก็บสัมภาระ
BYD Denza D9	การออกแบบด้านหน้าแนวคิด Pi Motion (ไพร์ โมชั่น) ไฟหน้า LED รูปแบบ Meteor Arrow เปิด-ปิดอัตโนมัติ ไฟ LED ส่องสว่างเวลากลางวัน กระจังหน้าดีไซน์แบบฝนดาวตกสีเงิน ไฟท้ายดีไซน์แบบฝนดาวตกสีเงิน เบรกดวงที่ 3 แบบ LED ระบบไฟเลี้ยวด้ำนหลังแบบ Sequential กระจกมองข้างอัตโนมัติ พับเก็บไฟฟ้าพร้อมระบบไล่ฝ้า ประตูท้ายเปิด-ปิดไฟฟ้า ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว

ภายใน

Toyota Alphard

วัสดุภายในห้องโดยสาร ตกแต่งด้วยลายไม้ Uzuramoku บุนุ่มรอบห้องโดยสารระบบปรับอากาศแยกอิสระ 4-Zones มีระบบปรับสมดุลอากาศ Nano X ไฟ Ambient Light 64 สี ม่านบังแดด ปรับด้วยระบบไฟฟ้า ฝาท้าย เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมระบบ Kick Activated มาตรวัด Full Digital ขนาด 12.3 นิ้ว ระบบแสดงข้อมูล Head-up Display หน้าจอเครื่องเสียงระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 14 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay / Android Auto แบบไร้สาย Wireless ระบบนำทาง Navigation System ระบบ T-Connect Telematics หน้าจอสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ขนาด 14 นิ้ว ระบบเสียง JBL ลำโพง 15 ตำแหน่ง

เบาะนั่งคู่หน้า ปรับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมระบบระบายอากาศ Seat Ventilator และ อุ่นร้อน Heater เบาะนั่งแถวที่ 2 Captain Seat แบบ Executive Loungeปรับเอน เลื่อนหน้า-ถอยหลัง ด้วยระบบไฟฟ้า และส่วนรองน่อง ปรับด้วยระบบไฟฟ้า 4 ทิศทางระบบ Smart Comfort เบาะนั่งแถวที่ 2 มีให้เลือก 5 โหมด โต๊ะส่วนตัวแบบพับได้ สำหรับผู้โดยสารแถวที่ 2 หน้าจอควบคุมส่วนตัว เบาะนั่งแถวที่ 2 ระบบนวด Massage พนักพิง และ ส่วนรองนั่ง ระบบบันทึกความจำตำแหน่ง Memory Seat เบาะนั่งแถวที่ 3 แยกพับอิสระ 50 : 50

Zeekr 009 Flagship AWD

เบาะนั่ง 6 ตำแหน่ง (2 + 2 + 2) หุ้มด้วยวัสดุหนัง NAPPA เบ าะนั่งคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้า เบาะนั่งแถวที่ 2 ปรับด้วยไฟฟ้าพร้อมโต๊ะพับอเนกประสงค์มีที่วางขา Ottoman พร้อมโหมดปรับนอนจังหวะเดียว Eame Lounge Chair Mode เบาะนั่งแถวที่ 3 แบบปรับและพับ 60:40 พวงมาลัยปรับด้วยไฟฟ้า 4 ทิศทาง หน้าจอชุดมาตรวัดแบบ LCD 10.25 นิ้ว ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกบังลมหน้า HUD คันเกียร์ไฟฟ้า Shift-by-Wire กุญแจแบบ Keyless Entry System พร้อม NFC Card แท่นชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย Wireless Charger กล่องเก็บความเย็นสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง 8.6 ลิตร ไฟเรืองแสงภายในห้องโดยสารแบบ Multi Surround Ambient Light หน้าจอกลางระบบสัมผัส Touch Screen ขนาด 15.05 นิ้ว ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 8155 ระบบอัพเดท Software แบบ OTA ชุดเครื่องเสียง YAMAHA Surround Stereo Luxury พร้อมลำโพง 30 ตำแหน่ง ระบบเสียงสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร Ambient Sound หน้าจอเพดาน ขนาด 17 นิ้ว ปรับได้ 5 ระดับ พร้อมรีโมทคอนโทรล แผงควบคุมกระจกหน้าต่างและม่านแบบสัมผัส สำหรับผู้โดยสารแถวที่ 2

แผงควบคุมระบบปรับอากาศ ระบบนวด และตำแหน่งเบาะ แบบสัมผัส สำหรับผู้โดยสารแถวที่ 2ม่านบังแดดด้านข้าง สำหรับผู้โดยสารแถวที่ 2 และ 3 หลังคากระจก Panoramic Roof แบบ 2 ตอน ประตูสไลด์ไฟฟ้า 2 ฝั่ง ฝาท้ายไฟฟ้า Power Tailgate

MG Maxus 9

หลังคากระจก Dual Panoramic Sunroof ประตูสไลด์ด้านข้างเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมฝากระโปรงท้ายระบบไฟฟ้า คอนโซลหน้าแบบ Double Layer พร้อมที่วางแก้ว ที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย Wireless Charger เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง ตกแต่งภายในห้องโดยสารแบบ SOFT TOUCH ไฟห้องโดยสาร Ambient Light 64 สี เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง เบาะนั่งแถวที่ 2 แบบ VIP Captain Seat พร้อมระบบจดจำตำแหน่งการนั่ง Memory Seats และระบบนวด Massage Seat เบาะอุ่นและระบายความร้อน Ventilated & Heated Seat หน้าจอควบคุมแบบ Touch Screen ช่องวางโทรศัพท์ โต๊ะพับ และ ที่วางแก้ว

พวงมาลัย Multifunction ควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ-วางโทรศัพท์ ปรับได้ 4 ทิศทาง หน้าจอแสดงผลแบบดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว Digital Interactive Multi-function Display หน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 3 นิ้ว ลำโพง 12 จุด ระบบเชื่อมต่อแบบไร้สาย Bluetooth ช่องเชื่อมต่อ USB 9 จุด ช่องจ่ายไฟ AC Adaptor 220V รองรับการเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay / Android Auto กระจกมองหลังผ่านกล้อง Streaming Media Rearview Mirror ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมิติ แยกบริเวณด้านหน้าและหลังอิสระ ระบบกรองอากาศ PM 2.5

BYD Denza D9

ภายในห้องโดยสารมาพร้อม ห้องโดยสาร VIP Cockpit แบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง (จัดเรียงแบบ 2-2-3) เบาะนั่งผู้ขับขี่ผู้โดยสารตอนหน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมพนักพิงดันหลังไฟฟ้า 4 ทิศทาง เบาะนั่งโดยสาร 2 แถวหน้า มีระบบนวดไฟฟ้า ระบบระบายอากาศ ระบบจดจำตำแหน่งเบาะโดยสารแถว 2ควบคุมผ่านหน้าจอ Digital Touchscreen ตู้เย็นความมจุ 7.5 ลิตร ปรับช่วงองศาได้ตั้งแต่ -6 จนถึง 50 องศา ประตูตอนหน้าแบบผ่อนแรงปิด หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ Full LED ขนาด 10.25 นิ้ว พร้อมจอกลางแบบ Rotating ขนาด 15.6 นิ้ว ระบบเสียงรอบทิศทาง Dynaudio 14 ลำโพง และ หน้าจอคู่ สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ขนาด 12.8 นิ้ว พร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียงแบบ Denza Link รองรับการอัพเกรดแบบ OTA ซันรูฟพร้อมม่านบังแดดสำหรับห้องโดยสารด้านหน้า หลังคากระจกขนาด 1.1 ตารางเมตร พร้อมม่านบังแดดเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้าสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ระบบแสงไฟสร้างบรรยากาศแบบมัลติคัลเลอร์

รุ่น Performance AWD เพดานห้องโดยสารบุหนังกลับพรีเมียม ส่วน รุ่น Premium ห้องโดยสารบุด้วยผ้า เฉพาะ รุ่น Performance AWD ระบบแสดงผลบนกระจกหน้า ขนาด 12 นิ้ว (W-HUD) ทุกรุ่นรองรับการเชื่อมต่อบลูทูธ Apple CarPlay และ Android Auto เครื่องเสียงพรีเมียมแบบ Hi-Fi Class Dynaudio พร้อมลำโพง 14 ตำแหน่งรองรับคำสั่งเสียงอิสระ 4 โซน ระบบปรับอากาศแบบอิสระ 3 โซน ระบบกรองอากาศ IONIZER ระบบกรองฝุ่น PM2.5 แบบประสิทธิภาพสูง (CN95) ชาร์จมือถือแบบไร้สาย 50W จำนวน 3 จุด แหล่งจ่ายไฟรอบคัน 7 จุด

ระบบความปลอดภัย

Toyota Alphard	ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบเสริมแรงเบรก BA ระบบควบคุมการทรงตัว VSC ระบบป้องกันการลื่นไถล TRC ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC ระบบไฟฉุกเฉินเมื่อเบรกกะทันหัน ESS ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถตัดผ่านขณะถอยหลัง RCTA ระบบเตือนเมื่อเปิดประตูลงจากรถ Safe Exit Assist ระบบ Toyota Safety SENSE ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Automatic High Beam Control ระบบความปลอดภัยก่อนการชน และ เบรกอัตโนมัติ Pre-Collision System ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมหน่วงพวงมาลัยอัตโนมัติ Lane Departure Warning With Steering Assist ระบบประคองรถให้อยู่ในช่องจราจร Lane Tracing Assist ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ แบบแปรผัน Dynamic Radar Cruise Control แบบ All-Speed Stop & Go ระบบลดความเร็วอัตโนมัติขณะเข้าโค้ง เมื่อเปิดระบบ Dynamic Radar Cruise Control ระบบเตือนแรงดันลมยาง TPMS ระบบป้องกันการออกตัวฉุกเฉิน DSC กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา Panoramic View Monitor ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง คู่หน้า 2 ตำแหน่ง ด้านข้าง 2 ตำแหน่ง ม่านนิรภัย 2 ตำแหน่ง จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX เซนเซอร์กะระยะช่วยจอด ด้านหน้า 4 ตำแหน่ง เซนเซอร์กะระยะช่วยจอด ด้านหลัง 4 ตำแหน่ง ระบบเซ็นทรัลล็อค พร้อม Speed Auto Lock กล้องบันทึกเหตุการณ์ด้านหน้า – ด้านหลัง Camera Recorder แบบ Built-in
Zeekr 009 Flagship AWD	LCC (Lane Cenering Control) ACC (Adaptive Cruise Control) CMSF (Collision Mitigation Support Front) CMSR (Collision Mitigation Support Rear) 100 LKA (Lane Keeping System, inclu. LDW, LDP) BSD (Blind Spot Detection) DOW (Door Open Warning) TSI (Traffic Sign Information) DPS (Driver Performance Monitor) Speeding Reminder (Warning Sound)) Capacitive Steering Wheel Hands-off Monitoring APA (Autonomus Parking Assist) PEB (Parking Emergency Brake) ALC (Auto Lane Change)
MG Maxus 9	ระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF (Full Space Frame) ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake) ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold) ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake force Distribution) ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist) ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System) ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System) ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System) ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam control) ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal) ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์ (Follow Me Home Light) ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System) ระบบตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่ DMS (Driver Monitor System) ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าในขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning) และ ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane keep Assist) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนและช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน ELK (Emergency Lane Keeping Assist) ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning) ระบบช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากมุมอับสายตา (LCA/ BSD/ RCTA/ DOW) จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX บริเวณที่นั่งแถว 2 และ 3 เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา สัญญาณเตือนระยะเดินหน้า และ ถอยหลัง
BYD Denza D9	ระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ (ESC) ระบบป้องกันการลื่นไถลขณะขับขี่ (TCS) ระบบควบคุมการกระจำยแรงเบรก (EBD) ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB) ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA) ระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB) ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถเคลื่อนผ่ำนจุดอับสายตาด้านหน้า (FCTA) ระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านจุดอับสายตาด้านหน้ำ (FCTB) ระบบช่วยรักษาช่องทำงเดินรถฉุกเฉิน (ELKA) ระบบช่วยช่วยกระจายแรงเบรกอัจฉริยะ (HBA) ระบบช่วยควบคุมและช่วยป้องกันการพลิกคว่ำ (RMI) ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันอัจฉริยะ (ICC) ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW) ช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน (LCA) ระบบช่วยแจ้งเตือนอันตรายจากพฤติกรรมของผู้ขับขี่(DMS) ระบบควบคุมการทรงตัวบนทำงลำดชัน (HHC) ระบบช่วยควบคุมความเร็วขณะลงทำงลำดชัน (HDC) เซนเซอร์ช่วยตรวจจับวัตถุรอบคัน 8 จุด กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา ระบบช่วยเตือนจุดอับสายตา (BSD) ระบบช่วยเตือนวัตถุเคลื่อนผ่านขณะเปิดประตู (DOW) ระบบจดจำป้ายสัญญาณจราจร (TSR) ระบบช่วยเตือนการชนด้ำนหน้ำ (FCW) ระบบช่วยเตือนการชนด้ำนหลัง (RCW)

Toyota Alphard Killer

เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th

Grand Prix Online

Main Menu