ภูมิภาคอเมริกาเหนือเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มี Corolla แฮทช์แบ็กทำตลาด และล่าสุดทาง Toyota ได้เพิ่มลุคสปอร์คยิ่งขึ้นให้กับรถแฮทช์แบ็กซี-เซ็กเม้นต์ของตนสำหรับภูมิภาคนี้โดยเฉพาะ ด้วยรุ่นที่ใช้ชื่อบ่งบอกความพิเศษตรงๆ ต่อท้ายว่า Special Edition โดยมีการผลิตจำกัด 1,500 คันสำหรับขายทั้งภูมิภาคอเมริกาเหนือตั้งแต่ช่วงปลายฤดูร้อนปีนี้

แม้ว่าชื่อรุ่นพิเศษของ Toyota Corolla Hatchback Special Edition จะดูไม่ได้หวือหวา แต่รถก็มาพร้อมกับความโดดเด่นจาก Corolla แฮทช์แบ็กทั่วไปด้วยภายนอกสีแดง Super Sonic Red ในขณะที่ตัวรถรุ่นพิเศษซึ่งใช้พื้นฐานจากเกรด SE CVT จะมาพร้อมกับการเสริมภาพลักษณ์ที่สปอร์ตขึ้นด้วย Splitter หน้า สเกิร์ตข้าง และสปอยเลอร์ที่ปลายหลังคาซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสีดำ รวมไปถึงมีการแต่งเสริมความดุที่กันชนหลัง ในขณะที่ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วก็มีสีดำเช่นเดียวกัน และแน่นอนว่ารถมาพร้อมป้ายระบุรุ่น Special Edition อย่างไรก็ตามดูเหมือนการเพิ่มอารมณ์สปอร์ตจะมีเฉพาะภายนอกเท่านั้น เพราะทาง Toyota ไม่ได้ระบุรายละเอียดภายในรถ และไม่มีภาพภายในห้องโดยสารออกมาให้ดู

สำหรับขุมกำลังใน Toyota Corolla แฮทช์แบ็กรุ่นพิเศษเป็นเครื่องยนต์ Dynamic Force Engine 2.0 ลิตร มีกำลัง 168 แรงม้า โดยใช้เกียร์ Dynamic Shift CVT ส่งกำลัง พร้อมกับมีแป้นชิฟต์เกียร์และ Sport Mode ให้ใช้

พร้อมกับการเปิดตัว Corolla Hatchback Special Edition ทาง Toyota ก็ได้มีการอัพเกรดเพิ่มระบบความปลอดภัยให้กับ Corolla แฮทช์แบ็กรุ่นปี 2021 ซึ่งจะเริ่มขายในปีนี้ด้วย โดยสิ่งที่เพิ่มเข้ามามีแอร์แบกด้านข้างสำหรับเบาะหลังในทุกเกรด เพิ่มระบบตรวจจับรถที่ผ่านด้านหลังขณะถอยจากช่องจอดและตรวจจับมุมบอดเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในบางเกรด โดยที่เป็นออฟชั่นติดตั้งเพิ่มได้กับบางเกรด

นอกจากนี้ผู้ซื้อ Corolla แฮทช์แบ็กสามารถเลือกออฟชั่น Enhance Cargo Space ได้ในทุกเกรดการแต่งโดยที่ไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม ซึ่งด้วยออฟชั่นนี้จะลดความสูงของพื้นที่เก็บของท้ายเบาะหลังให้ต่ำลงเพื่อเพิ่มความจุในการเก็บสัมภาระมากขึ้นอีก 169.9 ลิตรเป็น 651 ลิตร อย่างไรก็หากเลือกออฟชั่นเพื่อมีพื้นที่เก็บของเพิ่มขึ้นจะต้องแลกมาด้วยการที่ยางอะไหล่หายไปแล้วมีชุดสำหรับซ่อมยางมาให้ใช้แทน

เรื่อง: กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th