Toyota Fortuner 2023 อัพพลังใหม่ 224 ม้า พร้อมขายไทย 2 สิงหาคม นี้
Toyota Fortuner 2023 อัพพลังใหม่ 224 ม้า พร้อมขายไทย 2 สิงหาคม นี้ Toyota Fortuner 2023 โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ นับเป็นรถอเนกประสงค์ PPV ที่ได้รับความนิยมมากในเมืองไทย โดยเปิดตัวครั้งแรกในเมืองไทยเมื่อปี 2015 หลังจากนั้นก็มีการปรับเปลี่ยน อัพเกรด เสริมอุปกรณ์ พัฒนาระบบต่างๆ ปรับรุ่นย่อยใหม่ เพิ่มรุ่นพิเศษมาอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดทางโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ได้มีการปรับ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่ อีกครั้งกับโดยมีกำหนดเปิดตัว Toyota Fortuner 2023 อย่างเป็นทางการในวันที่ 2 สิงหาคม 2566 ที่จะถึงนี้
โดย โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่ นี้จะมีการเพิ่มระบบ และฟีเจอร์ ต่างๆเข้ามา ไม่ว่าจะเป็น ระบบเตือนแรงดันลมยาง TPMS ที่ให้ในทุกรุ่นย่อย ที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย Wireless Charger ในรุ่น Leader เปลี่ยนหน้าจอเครื่องเสียงใหม่ขนาด 9 นิ้ว ที่รองรับ Apple CarPlay และAndroid Auto แบบไร้สายในรุ่น Legender และ GR Sport และอาจมีสีใหม่มาให้เราชื่นชม
ส่วนมิติตัวถังยังเหมือนเดิมคือ ยาว 4,795 มิลลิเมตร กว้าง 1,855 มิลลิเมตร สูง 1,835 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,750 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุดถึงพื้น 193 มิลลิเมตร
ในส่วนของเครื่องยนต์ยังคงเป็น
ดีเซล 2.4 เทอร์โบ
เครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.4 ลิตร 2,393 ซีซี. VN-Turbo กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 2,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ มีให้เลือกทั้งขับเคลื่อน 2 ล้อ และ ขับเคลื่อน 4 ล้อ
ดีเซล 2.8 เทอร์โบ
เครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.8 ลิตร 2,755 ซีซี. VN-Turbo กำลังสูงสุด 204 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 2,800 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ
ไฮไลท์อยู่ที่รุ่น GR SPORT เพราะรุ่นนี้มีการนำเครื่อง 2.8 เทอร์โบ มาปรับใหม่อัพเกรดให้แรงขึ้น ถูกใจสายสปอร์ตสายซิ่งแน่นอน โดยมีพละกำลังเพิ่มจาก 204 แรงม้าเป็น 224 แรงม้า และแรงบิดจาก 500 นิวตันเมตร เพิ่มมาเป็น 550 นิวตันเมตร
ส่วนระบบกันสะเทือนช่วงล่างของ Fortuner GR Sport ยังเหมือนเดิม ช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระปีกนกคู่ Double Wishbone Suspension ด้านหลังแบบ 4 Links พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง เสริมด้วยโช็คอัพพิเศษ Monotube Shock Absorber เสริมด้วระบบดิสก์เบรกหน้า-หลังแบบมีครีบระบายความร้อน พร้อมคาลิเปอร์สีแดงประดับด้วยสัญลักษณ์ GR
ในด้านระบบความปลอดภัยมั่นใจได้ทุกการเดินทาง มาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น ระบบความปลอดภัยก่อนการชน Pre-Collision System, ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน Lane Departure Alert, ระบบควบคุม และปรับความเร็วอัตโนมัติ Dynamic Radar Cruise Control, ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง Blind Spot Monitor และระบบช่วยเตือนขณะถอยรถRCTA
ส่วนเรื่องราคาจะมีการปรับเพิ่มขึ้นจากรุ่นปัจจุบันที่มีราคา 1.89 -1.91 ล้านบาท หรือไม่นั้น วันที่ 2 สิงหาคมนี้ รู้กันครับ www.toyota.co.th
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th