Toyota เตรียมร่วมมือกับผู้ผลิตรถยนต์ในจีน 5 บริษัทไม่ว่าจะเป็น Beijing Automotive Group, FAW, Beijing SinoHytec, Dongfeng Motor และ Guangzhou Automotive Group เพื่อพัฒนาเซลเชื้อเพลิงสำหรับใช้ในรถยนต์เพื่อการพาณิชย์

โดยกลุ่มซึ่งถูกเรียกว่า Fuel Cell Systems R&D ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อการพัฒนาเซลเชื้อเพลิงโดยเฉพาะ ซึ่งอยู่ในกรุงปักกิ่งประเทศจีนนี้ จะมี Toyota ถือหุ้นอยู่ 65 เปอร์เซ็นต์ และมีการลงทุนเริ่มต้น 5 พันล้านหยวน สำหรับเหตุผลในการร่วมทุนเพื่อพัฒนาเซลเชื้อเพลิงครั้งนี้เนื่องจาก ในขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์ส่วนใหญ่เชื่อว่ารถไฟฟ้าคืออนาคตของอุตสาหกรรมยานยนต์แม้อย่างน้อยก็ในระยะเวลาอันใกล้ แต่ทาง Toyota ยังคงตั้งมั่นใจความเชื่อว่ารถยนต์เซลเชื้อเพลิงเป็นอนาคตที่แท้จริง

มีรายงานจาก Auto News ว่าทั้ง 6 ผู้ผลิตรถยนต์จะพยายามพัฒนาระบบเซลเชื้อเพลิงราคาถูก ไปพร้อมกับการปรับปรุงสมรรถนะการขับ การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และความทนทาน โดยทางจีนมองไปถึงจะเป็นผู้นำให้ทำให้เกิดความแพร่หลายในการใช้รถพลังงานไฮโดรเจน ตามที่ Wan Gang ซึ่งถูกเรียกว่าเป็นบิดาแห่งรถไฟฟ้าของจีน ได้บอกว่าประเทศเตรียมที่จะเปิดรับรถไฮโดรเจนแบบเดียวกับที่ทำกับรถไฟฟ้า ส่วนทางการจีนก็ต้องการให้มีรถไฮโดนเจน 1 ล้านคนบนถนนภายใน 10 ปี พร้อมกับมีการลงทุนหลายร้อยล้านหยวนเพื่อเร่งการวิจัยและพัฒนาเซลเชื้อเพลิงพร้อมกับมีการช่วยเหลือด้านเงินบางส่วนแก่ผู้ซื้อรถ

สำหรับแถลงการของ Toyota เกี่ยวกับเรื่องนี้คือ

“ตลาดรถไฟฟ้าเซลเชื้อเพลิงแรกเริ่มสำหรับรถเพื่อการพาณิชย์ กำลังเติบโตด้วยความรวดเร็วแบบที่ไม่เคยเห็นที่ใดในโลกมาก่อน”

“FCRD (Fuel Cell System R&D) เป็นกลุ่มที่มีความสำคัญต่อแผนงานเซลเชื้อเพลิงโลกของ Toyota ไม่มีตลาดรถยนต์ใดที่มีการตอบรับที่เร็วเช่นนี้ และผมมั่นใจที่สุดว่าเราจะได้รับความร่วมมือในการทำงานเพื่อแบ่งปันเป้าหมายในการขยายการใช้รถไฟฟ้าเซลเชื้อเพลิงในจีน” Shigeki Terashi ผู้บริหารด้านปฏิบัติการของ Toyota เปิดเผย รวมทั้งยังบอกเพิ่มว่า “ตามที่ผมบอกเสมอ เป็นเรื่องสำคัญในการหาผู้ร่วมงานเพื่อสร้างการใช้ไฟฟ้าที่ดีขึ้นในรถ และการทำงานร่วมกับบรรดาบริษัทที่ถูกมองว่ามีความเชี่ยวชาญด้านตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ในจีน รวมทั้ง SiniHytec ซึ่งมั่นใจได้ในเทคโนโลยี ผมเชื่อว่าเราจะสามารถสร้างความแพร่หลายในการใช้รถไฟฟ้าเซลเชื้อเพลิงในจีนได้”

เรื่อง: กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th