TOYOTA Gazoo Racing Netz Cup Vitz Race 2016 นักแข่งไทยสร้างชื่อแดนปลาดิบ จบอันดับที่ 6
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ส่ง 2 นักแข่งไทยที่มีคะแนนสะสมสูงสุดในรายการ “โตโยต้า มอเตอร์สปอร์ต 2016” จาก รุ่นโคโรลล่า อัลติส วันเมคเรซ ซึ่งได้แก่ สุพงศ์ ขำต้นวงษ์ และ นิวัฒน์ กลิ่นจำปา เข้าร่วมลงสนามในเทศกาลแข่งขันรถยนต์ทางเรียบระดับอินเตอร์ TOYOTA Gazoo Racing Netz Cup Vitz Race 2016 เมื่อวันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2559 ณ สนามออโตโปลิส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศญี่ปุ่น
รายการแข่งขัน “TOYOTA Gazoo Racing Netz Cup Vitz Race 2016 ”ณ สนามออโตโปลิส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศญี่ปุ่น ถือเป็นการมอเตอร์สปอร์ตที่สร้างนักแข่งหน้าใหม่เข้าสู่วงการประเภทวันเมคเรซ จัดว่าเป็นรายการใหญ่ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยจะคัดเลือกตัวแทนนักแข่งจำนวนทั้งสิ้น 90 คน จากแต่ละภูมิภาคของประเทศญี่ปุ่น ภาคละ 10 – 15 คน เพื่อเข้าร่วมแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ ถือเป็นโอกาสดีสำหรับนักแข่งรถของไทย ที่จะได้เปิดประสบการณ์ เพื่อนำมาพัฒนาฝีมือและทักษะต่อไป
นักขับจากโตโยต้าทีมไทยแลนด์ทั้ง 2 คน ประจำการในรถ Toyota Vitz ในนาม Toyota Team Thailand สามารถทำอันดับได้ดี โดย สุพงศ์ ขำต้นวงษ์ เบอร์ 122 ทำเวลาเร็วเป็นอันดับที่ 2 และนิวัฒน์ กลิ่นจำปา เบอร์ 222 ทำเวลาอยู่ในอันดับที่ 9 จากรถที่ลงซ้อมทั้งหมด 21 คัน ก่อนการแข่งหนึ่งวัน โดยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาผู้จัดฯ กำหนดให้เป็นวันควอลิฟายและแข่งขันในวันเดียวกัน แต่ต้องเลื่อนการจับเวลาออกไป เนื่องจากหมอกลงจัดภายหลังที่ฝนตกลงมาเมื่อวันศุกร์ก่อนหน้า
ภายหลังเสร็จสิ้นการแข่งขันรอบควอลิฟายที่ช้ากว่ากำหนดการเดิมที่วางไว้ จำนวน 10 รอบสนาม ระยะทางต่อรอบ 4.6 กิโลเมตร โดย สุพงศ์ ขำต้นวงษ์ ในรถเบอร์ 122 สามารถทำเวลา 2:33:612 ได้อันดับที่ 6 ห่างจากผู้นำอันดับหนึ่งเพียงเล็กน้อย “ผมรู้สึกตื่นเต้น และดีใจมากที่ได้มาแข่ง เพราะนักแข่งเจ้าถิ่นมีฝีมือมาก ถือว่าเป็นประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ได้รับ สนามนี้ถือเป็นสนามไฮสปีด โค้งความเร็วต่ำ มีความยากไม่น้อย ในรอบต่อไปจะพยายามให้ดีที่สุดเพื่อเอาอันดับที่หนึ่งมาให้ได้” เอ๊กซ์-สุพงศ์ ขำต้นวงษ์ กล่าว
ด้านนิวัฒน์ กลิ่นจำปา ทำเวลา 2:35:883 อันดับ 11 โดยเจ้ามัท-นิวัฒน์ ให้สัมภาษณ์ว่า “สาเหตุที่ทำเวลาได้ไม่ดีเพราะติดกล่ลุ่มรถช้า และไม่สามารถแซงได้เนื่องจากทัศนวิสัยไม่ดีหมอกลงจัด เห็นเพียง 50 เมตรเท่านั้น สนามนี้ถือว่ามีความยากไม่น้อยเพราะความกว้างของแทรคแคบกว่าปรกติ (ประมาณพีระฯ) แบบขึ้นลง-เขา และในรายการนี้ทั้งคู่มีเวลาซ้อมน้อยมาถึงสนามแข่งเมื่อวันอังคาร และลงขับเพื่อปรับตัวให้เข้ากับรถที่ทีมเตรียมไว้เพียง 3 เซ็กชั่นๆ ละ 15 นาทีเท่านั้น ตอนนี้เหลือเพียงแต่เวลาแข่งจริงจะพยายามให้ดีที่สุด” ส่วนในรอบแข่งจริงคาดว่าผู้จัดฯ จะเลื่อนเวลาเป็นช่วงเย็น
เริ่มแข่งขันในช่วงเย็นกรรมการตีธงหมากรุกโบกสะบัด รถทุกคันพุ่งทะยานออกไปแบบไม่เร่งรีบมากนัก เพราะทัศนวิสัยน์ไม่ค่อยดีอย่างที่คิด เนื่องจากหมอกลงปกคลุมทั่วสนาม แทร็คลื่นชุ่มฉ่ำด้วยน้ำฝนที่โปรยปรายไม่หยุดทั้งวัน แต่ยังสามารถแข่งต่อได้ งานนี้นักแข่งไทยได้เข้าร่วมเพื่อหาประสบการณ์ต่างจากนักแข่งญี่ปุ่นที่ต้องขับเคี่ยวตามตารางเก็บคะแนน ซึ่งรายการนี้มีกำหนดการแข่งแมทซ์สุดท้ายที่สนามฟูจิสปีดเวย์ ภายหลังออกสตาร์ทแบบโรลลิ่งอันดับไม่เปลี่ยนแปลงมาก เซฟตี้คาร์ออกมานำถึง 3 รอบ หลังรอบที่ 4 นักขับเจ้าถิ่นขับนำม้วนเดียวจนจบจากตำแหน่งหัวแถวแบบสบายๆ
ส่วนนักแข่งไทยจบอันดับที่ 6 และ 11 ตามลำดับ (รถทั้งหมด 17 คัน) แม้เจ้าเอ๊กซ์-สุพงศ์ ขำต้นวงษ์ จะมีโอกาสทำอันดับขึ้นมาอยู่กลุ่มนำในช่วงแรกแต่ก็ต้องพลาดไป จนครบ 9 รอบสนาม ทางด้านต้นสังกัด โตโยต้า ทีมไทยแลนด์ พอใจกับผลงานในครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จเมื่อดูจากภาพรวมและปัจจัยต่างๆ นักแข่งทั้ง 2 คน งานนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้นของการแข่งในต่างแดน ทั้งนี้ โตโยต้า พร้อมส่งเสริมนักแข่งที่มีศักยภาพให้เข้าร่วมการแข่งขันในรายการระดับนานาชาติ เป็นการสร้างโอกาสให้นักแข่งไทยได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศอีกด้วย
เรื่อง: ณัฐพล จีระมงคลกุล
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th