สำหรับสายมอเตอร์สปอร์ตคงรู้จักกันดีอยู่แล้วกับ TOYOTA GAZOO RACING นอกจากจะมุ่งมั่นกีฬามอเตอร์สปอร์ตแล้วยังเริ่มก้าวเข้าทำรถยนต์รุ่นพิเศษมาจำหน่ายภายใต้ชื่อ GR SPORT ซึ่งแน่นอนครับมันมาทำตลาดแทนที่ TRD ที่เราคุ้นเคยนั้นเอง TRD ก็ลดบทบาทลงไปผลิตชุดแต่งขายเพียงอย่างเดียว เอาละเรามารู้จัก GR SPORT กันให้มากขึ้นดีกว่าว่ามันคืออะไร และมีที่มาที่ไปอย่างไร

Toyota Gazoo Racing หรือที่เรียกว่า TOYOTA GR อันเป็นทีมแข่งรถของโรงงาน TOYOTA นั่นเองโดยทำการแข่งขันในหลากหลายรายการทั่วโลก โดยจุดเริ่มต้นของ Toyota Gazoo Racing เริ่มต้นเมื่อปี 2007 โดยชายสองคนคือ มร.ฮิโมรุ นารึเซะ เค้าคืออาจารย์ของเหล่าบรรดานักขับทดสอบรถยนต์ในทีมโตโยต้า มอเตอร์ และ มร.อกิโอะ โตโยดะ ในขณะนั้นดำรงตำแหน่งรองประธานบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ พวกเค้าวางแผนจะไปแข่งรถที่ Nurburgring 24 ชั่วโมง แต่ประเด็นคือพวกเค้าไม่สามารถใช้ชื่อทีมว่า TOYOTA หรืออะไรที่เกี่ยวกับ TOYOTA เข้าร่วมแข่งได้ ด้วยเหตุนี้พวกเค้าจึงจำเป็นต้องคิดชื่อใหม่นั้นเอง โดยทั้งหมดตกลงกันว่าจะใช้ชื่อทีมว่า Team Gazoo ซึ่งในช่วงแรกนั้น TOYOTA ไม่ได้ให้การสนับสนุนกับทีมเท่าไหร่นัก จนกระทั่งในปี 2009 ได้มีการรวมรวบทีมกลับมาอีกครั้งโดยโดยเป้าหมายคือ การฝึกฝนคนในการขับทดสอบรถในสนาม Nurburgring

ในขณะเดียวกัน นาย อากิโอะ โตโยดะ ได้รับการแต่งตั้งให้ขึ้นเป็น ประธานของ โตโยต้า มอเตอร์ ในปี 2009 เช่นกัน แน่นอนเขาไม่รอช้า โดยเริ่มให้ความสำคัญกับทีมแข่ง และพัฒนาชื่อ Gazoo ให้กว้างขึ้นโดยหลังจากนี้มันจะไม่ใช่เป็นเพียงชื่อทีมแข่งรถอีกต้องไป พวกเขาเริ่มในการเป็นผู้จัดการแข่งขันรายการ 86/BRZ รายการแข่งรถยนต์ยอดนิยมในญี่ปุ่น และเริ่มมีการใช้ชื่อ TOYOTA เข้ามาโดยเริ่มจากการจัดงาน Toyota Gazoo Racing Festival นั้นเอง

Gazoo Racing ยังมีชื่อเสียงในแง่การพัฒนาคนในองค์กรให้มีความแข็งแกร่งเรื่องทักษะในการขับขี่ จนภายหลังทีมสามารถเข้าร่วมการแข่งขันรายการแข่งแรลลี่ในยุโรปได้ โดยปี 2020 ทีมสามารถคว้าชัยมาได้ถึง 7 ครั้ง รวมถึงในทุกปีจะมีการแข่งขันสำคัญๆ เพิ่มขึ้น เช่นการแข่งขัน Dakar

ภายหลังได้มีการขยายไลน์เริ่มจับรถยนต์รุ่นที่มีจำหน่ายทั่วไปในท้องตลาดของ TOYOTA และใช้ประสบการณ์ ความรู้ทางเทคนิค จากการทำรถแข่ง มาพัฒนาและสร้างสรรค์รถยนต์ให้กิดรุ่นพิเศษขึ้นโดยใช้ชื่อ GRMN ย่อมาจาก Gazoo Racing, tuned by the Meister of the Nürburgring โดยเป็นรถที่ออกมาจำนวนจำกัดเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น Toyota GT 86 GRMN เป็นต้น

ก่อนที่ในปี 2010 จะมีการใช้คำว่า G SPORT ซึ่งความแตกต่างคือ ในรุ่น G SPORTจะเน้นการตกแต่งเพิ่มเติม ทั้งภายนอก ภายใน ให้ดูสปอร์ตขึ้นเท่านั้น ไม่ได้เน้นการเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่เหมือนใน GRMN อาจมีการปรับจูนการตอบสนองเกียร์ พวงมาลัย และช่วงล่าง ก็เท่านั้น ซึ่ง G Sport ภายหลังมันถูกเปลี่ยนชื่อมาเป็น GR SPORT นั้นเอง

TOYOTA GR SPORT แบ่งออกเป็น 2 แบบคือ รถที่มีการร่วมพัฒนาสมรรถนะเครื่องยนต์ ช่วงล่าง รูปทรง แบบเดียวกับรถยนต์ที่ใช้ในการแข่งขันจริงของทีม Toyota GR โดยปัจจุบันจะมีทั้งหมด 3 โมเดลเท่านั้น ได้แก่ Toyota GR Supra, Toyota GR Yaris และ Toyota GR 86 แน่นอนด้วยประสิทธิภาพของตัวรถที่ถูกพัฒนาโดยตรงจากสนามแข่ง มันมีสมรรถนะสูงเหมือนรถที่ใช้ในการแข่งขันแบบนี้ ย่อมมากับราคาที่ค่อนข้างสูง

แถมแนวทางการออกแบบพัฒนายังไม่ได้เน้นไม่ที่การใช้งานในชีวิตประจำวันมากนัก ซึ่งมันอาจจะทำให้ไม่ตอบโจทย์การใช้งานปกติในชีวิตประจำวัน จึงเป็นที่มาของการพัฒนาในรูปแบบที่ 2 คือ การนำรถยนต์ทั่วไปมาใส่ชุดแต่งรอบคันที่ออกแบบมาโดยเฉพาะรุ่น GR SPORT เท่านั้น และมีการปรับช่วงล่างใหม่ให้เฟริ์มขึ้นกว่ารุ่นปกติ

โดยในบ้านเราปัจจุบันมีรถประเภทนี้ 4 โมเดล ได้แก่ Toyota Fortuner GR Sport , Toyota Hilux Revo GR Sport, Toyota Collora Cross GR SPORT และ Toyota Collora Altis GR Sport

แน่นอนข่าวล่าสุดคาดว่าโมเดลที่ 5 ของ GR Series ที่จะมาขายในไทยคือ Toyota C-HR GR SPORT จะเข้ามาทำตลาดในบ้านเราช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้ ส่วนรถที่เป็นรถไฮเปอร์ฟอร์มานซ์รหัส GR มีเพียง 2 โมเดลเท่านั้น ได้แก่ Toyota GR Yaris และ Toyota GR Supra ในอนาคตเราจะได้สัมผัสรถยนต์ที่ได้รับการตกแต่งพิเศษภายในชื่อ GR SPORT ในรถยนต์รุ่นใหม่ๆจากทาง TOYOTA ในนาม GR Series ที่ทุกคนสามารถครอบครองได้

เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th