Toyota Hilux GR Sport รถปิกอัพเพิ่มความสปอร์ตสำหรับตลาดยุโรป
ไม่เพียงแค่ในไทยที่ Toyota ส่ง Hilux Revo GR Sport ออกมาทำตลาดเท่านั้น แต่ที่ยุโรปทาง Toyota ก็มีการเผยโฉม Hilux GR Sport ออกมาเพื่อตอบโจทย์คนที่อยากได้รถปิกอัพแต่งเพิ่มความสปอร์ตพร้อมเสริมสมรรถนะด้วย แต่ Hilux GR Sport สำหรับยุโรปมาพร้อมกับบางสเปกที่แตกต่างกับในไทยแม้จะมีชื่อ GR Sport ต่อท้ายเหมือนกัน
Toyota Hilux GR Sport สำหรับยุโรปมาพร้อมกับภายนอกของรถที่แตกต่างจาก Hilux เกรดอื่นในยุโรปด้วยกันชนหน้าออกแบบใหม่ พร้อมมีกระจังหน้าขนาดใหญ่ลายรังผึ้ง โดยที่ชื่อ Toyota และโลโก้ GR Sport อยู่ที่แถบคาดตรงกลางลายคาร์บอนไฟเบอร์ และมีกรอบกระจังหน้าสีดำเงา นอกจากนี้อุปกรณ์มาตรฐานในส่วนของด้านหน้ารถยังประกอบด้วยไฟตัดหมอก แผ่นกันกระแทกสีเดียวกับตัวรถ และไฟหน้า LED
เมื่อขยับมาที่ด้านข้างของรถจะพบกับล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วทูโทนสีดำและปัดเงา พร้มยางอลล-เทอร์เรน รวมไปถึงมีคิ้วซุ้มล้อ ครอบกระจกมองข้างสีดำ บันไดข้าง และโลโก้ GR Sport ที่บริเวณประตูหน้า ในขณะที่ด้านหลังของรถมีเพียงแค่โลโก้ GR Sport เพิ่มเข้ามาที่ฝาท้ายของกระบะหลังเท่านั้น
สำหรับห้องโดยสารของ Hilux GR Sport มีเบาะสปอร์ตคู่หน้าพร้อมโลโก้ GR Sport ซึ่งหุ้มด้วยหนังสีดำและหนัง Suede สังเคราะห์พร้อมมีรูระบายอากาศและเดินด้ายสีแดง นอกจากนี้ทาง Toyota ยังเน้นความเป็นรุ่น GR Sport ด้วยโลโก้ทั้งที่พรมปูพื้น ปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์ และกราฟฟิกเริ่มต้นหน้าจอ ส่วนการแต่งอื่นๆ ในห้องโดยสารมีทั้งการแทรกคาร์บอนไฟเบอร์ในการแต่ง แป้นวางเท้าสปอร์ตอลูมิเนียม เส้นสีแดงบนแผงแดชบอร์ด และไฟส่องสว่างสีฟ้าที่แผงประตู
แน่นอนว่าเช่นเดียวกับสมาชิกอื่นในตระกูล GR Sport ที่ Hilux GR Sport ได้รับการอัพเกรดช่วงล่างด้วย โดยมีการใช้โช๊กโมโนทิวบ์ใหม่และคอยล์สปริงหน้าที่มีความหนึบมากขึ้นรวมทั้งยังมีสีแดงเพื่อแสดงความแตกต่างจากรุ่นปกติ อย่างไรก็ตามช่วงล่างด้านหลังของรถยังคงเป็นแบบแหนบเหมือนเกรดอื่น จึงทำให้ยังคงความสามารถในการรับน้ำหนักบรรทุก 1 ตันและลากจูง 3.5 ตันไว้เหมือนเกรดอื่น โดยทาง Toyota ระบุว่าช่วงล่างของ Hilux GR Sport ทำให้มีการควบคุมรถรวมไปถึงการตอบสนองของพวงมาลัยที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน ช่วยให้สมรรถนะในทางตรงพร้อมกับเพิ่มความสบายมากขึ้น
ด้านขุมกำลังของ Hilux GR Sport สเปกยุโรปเป็นเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล 4 สูบ 2.8 ลิตร 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร โดยใช้เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดพร้อมมีแป้นชิพต์เกียร์เพื่อส่งกำลังสู่ล้อทั้ง 4 ของรถผ่าน Automatic Limited-slip Differential ส่วนการขายจะเริ่มตั้งแต่ฤดูร้อนของยุโรป แต่ยังไม่มีการระบุราคาของรถออกมา
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th