2017 ถือว่าเป็นปีที่ 15 ของการแข่งขันรถยนต์ออฟโรดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวงการออฟโรด เฟ้นหา 10 สุดยอดนักแข่งออฟโรดที่จะได้รับการจารึกชื่อว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดของเมืองไทยในแต่ละรุ่น

ผู้จัด คือ นิตยสารออฟโรด ในเครือ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ได้พยายามปรับปรุง และพัฒนารูปแบบการแข่งขันใหม่ มุ่งเน้นความสนุกสนาน ตื่นเต้น เร้าใจ แต่ยังคงมนต์ขลังของความเป็นออฟโรดเอาไว้ในทุกอณู โดยเฉพาะปีนี้ทำการโหมโรงกันตั้งแต่ก่อนแข่งขันนานนับหลายเดือน โดยใช้สื่อทางโซเซียลมีเดีย ทั้งการรับสมัครนักแข่ง การทำเบอร์แข่งขันแบบใส่ภาพนักแข่งลงไป การทำไลค์แอนด์แชร์ชิงของรางวัลจากผลิตภัณฑ์ Equinox มูลค่ามากกว่า 60,000 บาท  เป็นการโปรโมทนักแข่งแต่ละคัน แต่ละทีม

การแข่งขันในปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-21 พฤษภาคม 2560 ที่ผ่านมา มีรถเข้าร่วมการแข่งขันเกือบๆ 100 คัน มากที่สุดกว่าทุกๆ รายการ แบ่งการแข่งขัน ได้แก่  1.รุ่น Toyota Hilux Revo 10 เซียนประจัญบาน 2016 2.รุ่น Super Open 3.รุ่นเที่ยวป่า โอเพ่น และ 4.รุ่น Off Road Club Team 3 รุ่นแรกแข่งขันทั้งหมด 8 SS ในรูปแบบของ Challenge 6 SS และแนว Trophy หรือสปรินต์ อีก 2 SS หาผู้ทำคะแนนได้สูงสุด 2 อันดับแรก เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศและถ่ายทอดสดทางไทยรัฐทีวี ใครชนะจะคว้าแชมป์ไปในทันที

ส่วนในรุ่น Off Road Club Team หรือรถที่ใช้สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวโดยตรง ห้ามรถประกอบสร้างมาลงแข่งขัน ในครั้งนี้มีรถแข่งขันทั้งหมด 42 คัน หรือ 14 ทีม แต่ละทีมจะมีรถจำนวน 3 คัน ต้องช่วยเหลือกันเพื่อพิชิตอุปสรรค และกลับเข้าสู่จุด FINISH จึงจะมีคะแนนให้

ก่อนการแข่งขันนักแข่งทุกคนต้องไปทำการ Warm-up Lap หรือทดสอบขับ Toyota Hilux Revo ในสนาม Hilux Revo Station เพื่อรับคะแนนเพิ่ม 30 คะแนนในเลกที่ 1 จากนั้นก็มีการประชุมกฎ กติกา นักแข่งทุกรุ่น (บุคคล/ทีม) จึงแยกย้ายกันไปแข่งขันในช่วงบ่ายของวันที่ 19 พฤษภาคม 2560 โดยรุ่นประเภทบุคคล แข่งขันจำนวน 2 SS ส่วนรุ่นประเภททีม 1 SS

รุ่น Toyota Hilux Revo 10 เซียนประจัญบาน บทพิสูจน์สุดยอดสมรรถนะของยอดรถกระบะแห่งยุค 

            Toyota  Hilux Revo 10 เซียนประจัญบาน 2017  ถือเป็นเกมส์การแข่งขันรถยนต์ขับเคลื่อนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในปัจจุบันของเมืองไทย และในเอเซีย ค้นหายอดรถและยอดคนในรูปแบบการแข่งขันแบบผสมผสาน ระหว่างการใช้ทักาะฝีมือและความเร็ว ระเบิดความมันส์และความตื่นเต้นด้วยรูปแบบของเกมส์ใหม่ กฎ กติกาที่ชัดเจน สนามการแข่งขันที่ได้มาตรฐาน เป็นบทพิสูจน์ที่สำคัญให้ผู้เข้าแข่งขันรวมไปถึงรถยนต์ Toyota  Hilux Revo ที่ใช้ในการแข่งขัน ได้พิสูจน์สมรรถนะบรรลุถึงคำว่าสุดยอดเซียนอย่างเต็มภาคภูมิ…

            10 เซียนประจัญบานที่ได้มีการจัดขึ้นมาครั้งแรกในปี 2006 โดย นิตยสารออฟโรด ในเครือ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และมีการจัดแข่งขันต่อเนื่องมายาวนานถึง 15 ปี โดยมี บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เข้ามาเป็นผู้สนับสนุนหลักและสานต่อความสำเร็จมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2017 ซึ่งมีการเพิ่มเติมรูปแบบการแข่งขันใหม่ๆ หลายในหลายรูปแบบ โดยการนำสื่อออนไลน์มาช่วยประชาสัมพันธ์ก่อนงาน จนมีผู้เข้ามารับชมการแข่งขันครั้งนี้มากกว่า 1,000,000 คน และไฮไลท์ของการแข่งขันครั้งนี้อยู่ที่รุ่น Toyota  Hilux Revo ที่มีการนำรถยนต์สแตนดาร์ดจากโรงงาน มาทำการปรับแต่งเพียงเล็กน้อย มาลงแข่งขันในสนามธรรมชาติอันหฤโหด ของสนามกรังด์ปรีซ์ กอล์ฟ คลับ และสามารถทะยานผ่านอุปสรรคในทุก SS ได้อย่างเต็มที่

การแข่งขันปีนี้จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 18-21 พฤษภาคม 2560 แข่งขันแบบสนามเดียวจบ ตัดสินตำแหน่งนักแข่งมือหนึ่งของเมืองไทย ในพื้นที่กว่า 2,000 ไร่ ที่สนามกรังด์ปรีซ์ กอล์ฟ คลับ อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรีแบ่งออกเป็นทั้งหมด 9 SS โดยจะทำการแข่งขันเก็บคะแนน 8SS ในเส้นทางธรรมชาติ ก่อนนำรถที่มีคะแนนนำดีที่สุดจำนวน 2 คัน มาแข่งขันกันใน SS สุดท้าย บนเส้นทางแบบสปริ้นต์หรือใช้ความเร็ว และทำการถ่ายทอดสดทางไทยรัฐทีวี รูปแบบสนามการแข่งขันนอกจากจะทำขึ้นเพื่อความมันส์ของเกมส์การแข่งขันแล้ว ยังเป็นอีกบททดสอบจริงสำหรับ Toyota Hilux Revo ว่าจะเป็นอย่างไร จะยังคงความเป็นสายพันธุ์แชมป์เอาไว้ได้มากน้อยแค่ไหน แต่ละส่วนของสนามแต่ละ SS ประกอบไปด้วยทั้งเนินชัน 45 องศา เนินสลับ เส้นทางออฟโรดผิวทางหลากหลาย อีกทั้งเนินลาดเอียงที่ได้ใช้ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติในทางลาดชันที่มีอยู่ ล้วนต้องใช้คุณสมบัติของตัวรถ มุมรถ กำลังขับเคลื่อน ความแข็งแกร่งช่วงล่างมาเป็นส่วนประกอบเพื่อชัยชนะคือ เป้าหมายสูงสุด

ด้วยคุณสมบัติของตัวรถที่มีมา ทั้งการปรับเปลี่ยนโครงสร้างหลักอย่างแชสซีให้มีขนาดใหม่ใหญ่ขึ้นกว่ารุ่น Hilux Vigo และเป็นโครงสร้างชิ้นเดียวไร้รอยต่อ ทำให้มั่นใจในความแข่งแกร่งของ Hilux Revo ได้อย่างเต็มที่ เพราะรถประเภทตัวลุยเส้นทางออฟโรดหรือแม้แต่การนำไปใช้งานบรรทุกสิ่งของหนักๆ สิ่งที่จะต้องเจอก็คือเรื่องของแรงกด แรงดึงและแรงบิดที่สูงกว่าปกติ ถ้าโครงสร้างไม่แข็งแรงพอย่อมไม่ปลอดภัยในการขับขี่และใช้งาน แต่นี่คือการแข่งขันไม่ได้มุ่งหวังแต่เพียงชัยชนะมันยังเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรี ที่รถแข่งทุกคนต้องสร้างและรักษามันไว้ ด้วยการแสดงให้เห็นภาพจริงเสียงจริงในเกมส์การแข่งขันครั้งนี้

ส่วนของระบบรองรับอย่างโช้คอัพของเดิมที่ถูกปรับเซ็ตมาสำหรับการใช้งานทั่วไป ถ้าเอามาลุยในเส้นทางการแข่งขันมันก็สามารถผ่านไปได้อย่างแน่นอน แต่เกมส์การแข่งขันมันวัดกันที่เวลาการขับขี่ที่ต้องใช้ความเร็วในเส้นทางออฟโรด โช้คอัพที่เหมาะสมกว่าจะช่วยสร้างความปลอดภัยให้กับนักแข่ง กำลังการตอบสนองของเครื่องยนต์ในรุ่น Hilux Revo มีความได้เปรียบจากการออกแบบให้มีแรงบิดสูงในรอบต่ำและกว้าง จึงเหมาะสมสำหรับการขับขี่ที่ต้องการแรงบิดฉุดลากสูง การเพิ่มเติมกล่องควบคุมเพิ่มเติมเข้าไปเพื่อให้รูปแบบการตอบสนองรวดเร็วขึ้น เหมาะสมกับการแข่งขัน

เป็นที่สนใจของผู้เข้าชมอย่างล้นหลาม ด้วยความเข้มข้นของเกมส์ที่นักแข่งทุกคนและรถแข่งทุกคัน ต่างแสดงให้เห็นถึงทักษะฝีมือในการขับขี่ พร้อมทั้งสมรรถนะตัวรถที่แข็งแกร่ง ไม่น่าเชื่อว่ารถแข่งทุกคนจะสามารถแข่งขันบนเส้นทางอันแสนจะหลากหลายได้แบบนี้ ถ้านับการแข่งขันกับการเดินทางใช้งานจริงแล้วมันเทียบกันเสียไม่ได้ ทุกคนต่างทึ่งในสมรรถนะอันทรงพลังของมันจริงๆ

ปิดฉากการแข่งขันแห่งศตวรรษของการแข่งขัน Toyota  Hilux Revo 10 เซียนประจัญบาน 2017 ชิงความเป็นหนึ่งอย่างยิ่งใหญ่และประทับใจ

รุ่น SUPER OPEN เดิมพันด้วยตำแหน่งมือหนึ่งของเมืองไทย

ด้วยการแข่งขันรูปแบบใหม่ การคิดคะแนนแบบเลกต่อเลก ทำให้เกมการแข่งขันมีความสนุกสนานมากกว่าทุกๆ ปี  นักแข่งต้องลุ้นกันตลอดในทุกๆ SS แบบถอนคันเร่งไม่ได้เด็ดขาด

นอกจากจะต้องพยายามทำผลงานของตัวเองให้ดีที่สุดแล้ว ต้องลุ้นรถแข่งอีกเกือบ 20 คันพร้อมๆ กันไปด้วย แถมปีนี้กำหนดเอาไว้แค่ 8SS แต่ละ SS จัดเต็ม จัดหนัก ไม่ต่ำกว่า 3-4 วินช์ โดยใช้ตัวเลขเป็นตัวกำหนดเส้นทาง แทนการผูกริบบิ้นแบบสมัยก่อน

วันแรกหรือช่วงบ่ายของวันที่ 19 พฤษภาคม 2559 แข่งขันแบบเรียกน้ำย่อย 2 SS ปรากฏว่าแค่ SS แรกก็ต้องวินช์กันจ้าละหวั่น เนื่องจากฝนที่ถล่มลงมาอย่างหนักต่อเนื่องกันหลายวัน แม้กระทั่งช่วงของการแข่งก็เทลงมาราวกับฟ้ารั่ว ส่งผลให้รถหลายๆ คันพลาดท่า NDF หรือไม่จบการแข่งขัน โดยเฉพาะแชมป์เก่าอย่างรถหมายเลข 48 สิรวิชญ์ มุลิ/การุณ แก้วทรายขาว ที่พลาดท่าไปตั้งแต่ SS1 ส่วนผู้ท่ทำคะแนนรวมในเลคที่ 1 เป็นนักแข่งจอมเก๋าอย่าง เจษฎา ชะเอม กับ บุญรักษ์ พงศ์อายุกูล ที่ผลัดกันคว้า 100 คะแนนเต็มคนละ SS เก็บคะแนนตุนไปก่อน 31 คะแนน

ส่วนวันที่สองของการแข่งขัน หรือวันที่ 20 พฤษภาคม 2559 แข่งขันจำนวน 4 SS ใช้เส้นทางธรรมชาติเป็นหลัก มีทั้งบ่อน้ำ บ่อโคลน เนินชัน ครบทุกอุปสรรค นักแข่งแต่ละตันผลัดกันขึ้นนำผลัดกันตาม บดบี้กันอย่างสูสี จบเลค 2 ปรากฏว่าเป็นรถหมายเลข 68 ภาคิน จันทร์พฤกษา ควงแขน โชติทวี อัยวรรณ คว้าไปอีก 32 คะแนน ในเลคที่ 2ทำคะแนนขึ้นนำมาแบบโดด ตามหลังมาด้วย เจษฎา ชะเอม และ บุญรักษ์ พงษ์อายุกูล เช่นเดียวกับเลคที่ 3 ภาคิน จันทร์พฤกษา ยังโชว์ฟอร์มเทพคว้าคะแนนสะสมในเลคที่ 3 ไปตุนเอาไว้อีก 31 คะแนน ทำคะแนนนำโด่ง หากในเลคที่ 4 ซึ่งเป็นเลคแบบสปริ๊นต์ไม่พลาดท่า DNF โอกาสคว้าแชมป์ค่อนข้างสดใส หลังจากร่วมแข่งขันมานานนับ 10 ปี

ความมันของเกมมาตกผนึกอีกครั้ง เมื่อเข้าสู่วันสุดท้ายหรือวันที่ 21 พฤษภาคม 2560 หลังช่วงเช้าผู้บริหารจาก บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมทำพิธีเปิดการแข่งขัน ความมันก็บังเกิดขึ้นอีกครั้ง มีเท่าไรใส่กันแบบเต็มๆ แต่งวดนี้เกมค่อนข้างพลิกพอสมควร ถึงคิวของทีมแข่งจาก Polaris ผงาด โดยพาะใน SS แบบสปิ๊นต์นี้ เป็น ชัยรัช คำพึ่ง ผงาดขึ้นมาจั่วหัว คว้าคะแนนไป 32 เต็ม ก้าวกระโดดจากกลางตารางขึ้นมาติด 1 ใน 10 เช่นเดียวกับ ภาคภูมิ นิตยผลิน ที่ตามมาเป็นอันดับ 2 เกาะท้าย ชัยรัช คำพึ่งมาแบบติดๆ อย่างไรก็ตาม หลังจบ 8SS เป็นรถหมายเลข 68 ภาคิน จันทร์พฤกษา/โชติทวี อัยวรรณ ทำคะแนนนำโด่งและคว้าแชมปืในปีนี้ได้อย่างไร้เทียมทาน และเข้าไปพบกับรถหมายเลข 2 เจษฎา ชะเอม/สังวาลย์ เหลืองช่างทอง ในรอบชนะเลิศในช่วงถ่ายทอดสดทางไทยรัฐทีวี

ซึ่งก็เป็นไปตามคาด ภาคิน จันทร์พฤกษา/โชติทวี อัยวรรณ คว้าแชมป์ประจำปี 2017 ก้าวขึ้นแท่นนักแข่งมือหนึ่งของเมืองไทยได้อย่างสมบูรณ์แบบ