ดูเหมือนว่ารถยนต์รุ่นใหม่ๆ ของ Toyota หลายรุ่นมักจะมีเกรด GR Sport ออกมาเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการความสปอร์ตเพิ่มขึ้นกว่าปกติ และ Land Cruiser 300 Series ใหม่ก็เช่นเดียวกันที่ เพิ่งมีการเปิดตัวสำหรับขายในญี่ปุ่นพร้อมกับรายละเอียดของเกรดต่างๆ ที่มีให้เลือก ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ GR Sport ที่สามารถเลือกได้ทั้งแบบใช้เครื่องยนต์เบนซินและดีเซล

Land Cruiser GR Sport ไม่ได้มาแค่กับรูปลักษณ์ที่สปอร์ตตามสไตล์ GR Sport ที่แตกต่างจากเกรดอื่นเท่านั้น แต่ Toyota ระบุว่ามีการปรับและพัฒนาจากคำแนะนำของนักขับที่มีส่วนร่วมในแรลลีดาการ์ จึงทำให้มีความแตกต่างจาก Land Cruiser 300 Series เกรดอื่นในด้านสมรรถนะด้วย โดยมีระบบช่วงล่าง Electrinic-Kinetic Dynamic Suspension System หรือ E-KDSS ที่เพิ่มสเถียรภาพในการขับทั้งในเมืองและสมรรถนะทางด้านออฟโรด ด้วยการควบคุมอีเล็กทรอนิกอัตโนมัติกับช่วงล่างด้านหน้าและหลังอิสระตามสภาพถนนและลักษณะของแต่ละล้อทั้ง 4 ของรถ เพื่อการปรับสเถียรภาพของรถที่ละเอียดขึ้น รวมไปถึงมีการใช้ Electronic Differential Lock ทั้งด้านหน้าและหลัง เพื่อเสริมสมรรถนะทางด้านออฟโรดในสถานการณ์ต่างๆ มากขึ้น จากที่เกรดอื่นมีเฉพาะ Electronic Differential Lock เฉพาะล้อหลัง

แน่นอนว่า Land Cruiser GR Sport ย่อมมาพร้อมกับภาพนอกของรถที่แตกต่างจากเกรดอื่น โดยมีการเปลี่ยนกระจังหน้าใหม่เป็นลาย Mesh รังผึ้งสีดำพร้อมชื่อ Toyota แทนโลโก้ พร้อมกับเปลี่ยนกันชนหน้าและกันชนหลังใหม่ ใช้คิ้วซุ้มล้อสีดำแทนคิ้วซุ้มล้อสีเดียวกับตัวรถแบบในเกรดอื่น ที่ด้านหลังรถยังใช้โลโก้ Toyota มีพื้นในสีดำพร้อมกับชื่อรุ่น Land Cruiser สีดำ มีบังโคลนหลังเฉพาะรุ่น ส่วนล้ออลูมินัมขนาด 18 นิ้วมีสีเทา Mud Grey รวมไปถึงมาพร้อมชุดแต่งส่วนต่างๆ รอบคันสีดำไม่ว่าจะเป็นครอบกระจกมองข้าง คิ้วขอบล่างของประตูรถ มือจับที่ประตู คิ้วขอบฝาท้าย และแน่นอนว่ามีป้ายระบุเกรด GR Sport ทั้งที่กระจังหน้า ด้านข้าง และด้านหลังของรถ

สำหรับภายในห้องโดยสารมาพร้อมกับพวงมาลัยเฉพาะรุ่นหุ้มหนังแท้พร้อมป้าย GR มีสตาร์ทหน้าจอเฉพาะรุ่น GR Sport พร้อมระบบนำทาง T-Connect Navigation ใช้เบาะหน้าเฉพาะรุ่นปักโลโก้ GR ใช้แผง Machined Carbon-Weave ในการแต่ง ร่วมกับการใช้สีดำ รวมทั้งการใช้สีทูโทนดำ-แดงเข้ม GR-Exclusive

ส่วนเครื่องยนต์ของ Land Cruiser GR Sport มี 2 แบบให้เลือกคือเบนซิน V6 3.5 ลิตร ทวินเทอร์โบ 415 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 650 นิวตัน-เมตร และเครื่องยนต์ดีเซลทวินเทอร์โบ V6 3.5 ลิตร 309 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 700 นิวตัน-เมตร โดยทั้ง 2 เครื่องยนต์ใช้เกียร์อัตโนมัติ Direct Shift 10 สปีดส่งกำลังเหมือนกัน แต่รุ่นเครื่องยนต์เบนซินจะมาในแบบภายใน 3 แถว 7 ที่นั่ง ส่วนเครื่องยนต์ดีเซลเป็นแบบภายใน 2 แถว 5 ที่นั่ง สำหรับราคาของรุ่นเครื่องยนต์เบนซินอยู่ที่ 7,700,000 เยนหรือประมาณ 2,325,000 บาท ส่วนเครื่องยนต์ดีเซลอยู่ที่ 8,000,000 เยนหรือประมาณ 2,416,000 บาท

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRAND PRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th