Toyota Land Cruiser Heritage Edition รุ่นพิเศษสำหรับเวลากว่า 60 ปีในอเมริกา

ในโอกาสที่ Land Cruiser ซึ่งเป็นหนึ่งในรถยนต์รุ่นเก่าแก่ที่สุดของ Toyota ถูกส่งไปทำตลาดในอเมริกาเป็นเวลานานกว่า 60 ปี ทาง Toyota จึงทำรุ่นพิเศษ Land Cruiser Heritage Edition ในแบบผลิตจำกัด ซึ่งมีทั้งการแต่งภายนอกและภายในเป็นพิเศษโดยผสานความเป็นเอสยูวีหรูกับสไตล์ย้อนยุคไว้ด้วยกัน

Toyota Land Cruiser Heritage Edition ซึ่งมาในรุ่นตัวรถพร้อมเบาะนั่งสองแถวสำหรับความอเนกประสงค์ในด้านพื้นที่เก็บด้านหลังจะมีสองสีตัถังให้เลือกระหว่างสีดำ Midnight Black Metallic หรือสี Blizzard Pearl และเน้นการใช้สีดำเพื่อแต่งภายนอกทั้งแถบสีดำในบริเวณกระจังหน้า กรอบรอบไฟตัดหมอกเป็นโครเมียมสีดำเช่นเดียวกับกรอบกระจกมองข้าง รวมทั้งแม้แต่โคมไฟหน้ายังถูกเพิ่มความเข้มขึ้น ขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึกย้อนยุคด้วยล้ออลูมิเนียมฟอร์จ BBS ขนาด 18 x 8.0 นิ้วสีทองเหลืองซึ่งมีตัวอักษร Toyota แบบย้อนยุคตรงกลางแทนการใช้สัญลักษณ์ตามปกติ

ส่วนภายในห้องโดยสารของ Heritage Edition ผสานความหรูเข้ากับการใช้งานโดยเน้นการใช้หนังสีดำเป็นพิเศษ โดยที่ใช้สีทองเหลืองจากล้อในการแต่งส่วนต่างๆ ภายในห้องโดยสารทั้งที่พวงมาลัย ประตู คอนโซลกลาง และเบาะ ในขณะที่แผ่นปูพื้นห้องโดยสารและพื้นที่เก็บของด้านหลังมาในแบบพร้อมสำหรับการลุยโดยเป็นแบบ All-weather ที่มีความทนทาน ส่วนความบันเทิงในห้องโดยสารมาจากระบบเสียง Premium JBL ที่มาพร้อมลำโพง JBL 14 ตัว โดยใช้จอทัชสกรีนขนาด 9 นิ้วสำหรับ Infotainment

ในด้านเครื่องยนต์ของ Land Cruiser รุ่นพิเศษใช้เครื่อง V8 5,700 ซีซี 381 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 543 นิวตัน-เมตร และใช้เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดส่งกำลังสู่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลาที่มาพร้อม TORSEN Limited-slip Locking โดยแม้ Land Cruiser Heritage Edition จะมาในแบบเอสยูวีหรูพร้อมการแต่งย้อนยุคแต่ก็ยังคงคุณสมบัติในการลุยเส้นทางออฟโรดด้วยเฟรมรถที่มีความแข็งแกร่งพร้อมช่วงล่างแบบดับเบิลวิชโบนที่ด้านหน้าและ 4-ลิงก์ คอยล์สปริงที่ด้านหลัง รวมทั้งมีระบบ Kinetic Dynamic Suspension System เพื่อปรับบาร์กันโคลงเพื่อเพิ่มความนุ่มนวลทั้งในการเดินทางบนถนนและเส้นทางขรุขระ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับหลากหลายเทคโนโลยีช่วยสำหรับการเดินทางออฟโรดไม่ว่าจะเป็น Downhill Assist Control, Hill Start Assist, CRAWL Control และ Off-Road Turn Assist ในขณะที่กับระบบ Multi-Terrain Select ผู้ขับจะควบคุมการลื่นของล้อให้เหมาะกับผิวถนนและลักษณะการขับได้ โดยที่มี Multi-Terrain Monitor ที่ช่วยให้มองเห็นสภาพเส้นทางที่แคบได้เกือบ 360 องศา