Toyota yaris 2020 เป็นรถยนต์นั่ง 5 ประตู อยู่ในกลุ่มของรถยนต์ Eco Car Phase 2 โดยเริ่มแรกรถยนต์รุ่นนี้จะเป็นรถยนต์ในกลุ่ม B-Segment หลังจากนั้นได้เข้าร่วมโครงการรถยนต์นั่งประหยัดพลังงาน หรือ Eco Car นั่นเอง ซึ่งในปี พ.ศ. 2556 ได้มีการเปลี่ยนรูปลักษณ์ใหม่ทั้งโดย มีการนำตัวถังขนาดใหญ่กว่าเดิมแบบเดียวกับรุ่นที่ขายในประเทศจีนมาใช้งาน พร้อมทั้งยังลดขนาดเครื่องยนต์ให้เหลือ 1,200 ซีซี อีกทั้งยังมีการอัดแน่นไปกับเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยเข้าไปในรถยนต์รุ่นนี้อีกมากมาย เพื่อให้ได้เข้าโครงการของรถยนต์ Eco Car ได้อย่างเต็มรูปแบบ ตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน หลังจากนั้นได้มีการปรับเปลี่ยนรูปโฉมแบบใหม่ในปี 2018 มาเป็นโฉมหน้าในปัจจุบัน

หลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2562 ได้มีการตั้งกฎเหล็กของโครงการ Eco Car Phase 2 คือ รถยนต์จะต้องใช้เครื่องเบนซิน และจะต้องมีขนาดตัวถังไม่เกิน 1,300 ซีซี ต้องมีอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานไม่ต่ำกว่า 23.3 กิโลเมตรต่อลิตร  มีการปล่อยค่าไอเสียไม่เกิน 100g/km และจะต้องมีการติดตั้งระบบด้านความปลอดภัยขั้นพื้นฐานอย่างครบครัน ดังนั้น Toyota yaris 2020 จงได้มีการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์แบบใหม่ เพื่อที่จะทำอัตราการสิ้นเปลืองให้เข้าเกณฑ์ตามกำหนด ในส่วนของระบบด้านความปลอดภัยต่าง ๆ ทางยาริสได้มีมานานแล้ว

Toyota yaris 2020 กับออปชั่นที่น่าสนใจ

Toyota yaris 2020 เป็นรถยนต์แนว Eco Car Phase 2 ที่มาพร้อมกับออฟชันที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากตัวเครื่องยนต์ที่มีความประหยัดน้ำมันค่อนข้างสูงแล้ว ยังมีดีไซน์ภายนอกที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของยาริส ที่จะมีทั้งความสวยงาม ที่แตกต่างจากคู่แข่งในตลาดระดับเดียวกันเป็นอย่างมาก โดยออฟชันที่เสริมในด้านความปลอดภัยหลัก ๆ ที่มาจากทางโรงงานในรุ่นย่อย ได้แก่

• ระบบ ABS ป้องกันล้อล็อก
• ระบบ EBD ที่จะช่วยในเรื่องการกระจายเบรก
• ระบบเสริมแสงเบรก BA
• ระบบการควบคุมการทรงตัว VSC
• ระบบ TRC ป้องกันการลื่นไถล
• ระบบ HAC ช่วยออกตัวบนเส้นทางที่ลาดชัน
• ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง ได้แก่ คู่หน้า, ด้านข้าง, ม่านนิรภัย, และหัวเข่า

สมรรถนะเครื่องยนต์ Toyota yaris 2020

ในส่วนของเครื่องยนต์ Toyota yaris 2020 จะมีการใช้เครื่องยนต์ 4 สูบเรียง DOHC 16 วาล์ว แบบ Dual VVT-iE ขนาด 1,197 ซีซี มาพร้อมกับระบบดับเครื่องยนต์อย่างอัตโนมัติ เมื่อรถหยุดนิ่ง จะมีการให้พละกำลังสูงสุดที่ 92 แรงม้า 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดจะอยู่ที่ 109 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบต่อนาที ช่วยให้สามารถประหยัดน้ำมันได้ถึง 23.3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ช่วยลดการปล่อยไอเสีย และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ อีกทั้งรถยนต์รุ่นนี้ยังได้รับการรับรองมาตรฐานมลพิษ EURO5 อีกด้วย

ในด้านของเกียร์จะใช้เป็นระบบเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-I พร้อม Shift Lock ซึ่งจะเป็นระบบกันสั่นสะเทือน ด้านหน้าใช้แมคฟอร์สันสตรัท มาพร้อมกับเหล็กกันโครง ส่วนด้านหลังจะใช้เป็นทอร์ชั่นบีม และคอยล์สปริงพร้อมเหล็กกันโครง ในส่วนของระบบเบรกด้านหน้าจะใช้เป็นระบบดิสก์เบรก ส่วนด้านหลังจะใช้เป็นระบบดรัมเบรก ทางด้านของล้อรถจะใช้เป็นล้อขนาด 15 นิ้ว รัดยางขนาด 185/60 R15 ในทุกรุ่นย่อย

ระบบภายในของ Toyota yaris 2020

สำหรับภายในตัวรถของ Toyota yaris 2020 จะมาพร้อมกับภายในที่ตกแต่งด้วยโทนสีดำทั้งหมด ตั้งแต่วัสดุตกแต่งแผงคอนโซลด้านหน้า จะใช้เป็นวัสดุสีน้ำเงินเข้มเมมัลลิก เบาะหุ้มด้วยหนัง และหนังสังเคราะห์ มาพร้อมกับเบาะคู่หน้าทรงสปอร์ต ตกแต่งเพิ่มด้วยสีฟ้า สำหรับกุญแจของรถจะใช้เป็น Smart Remote กุญแจป้องกันการโจรกรรม Immobilizer พร้อมระบบแจ้งเตือนการโจรกรรม TDS สามารถเปิดประตูได้อย่างง่ายดายเพียงแค่กุญแจอู่ในระยะใกล้ประตู เพียงแค่กดปุ่มก็สามารถเปิดประตูได้โดยไม่ต้องไข กระจกมองหลังจะสามารถปรับลดแสงได้อย่างอัตโนมัติแบบเดียวกับที่มีในรุ่นใหญ่อย่างรุ่น Camry, C-HR โดยจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ได้มากยิ่งขึ้น

ในส่วนของพวงมาลัยจะเป็นแบบพาวเวอร์ไฟฟ้า Eps พร้อมระบบปรับน้ำหนักให้อย่างอัตโนมัติ เพื่อให้น้ำหนักสัมพันธ์กับระดับความเร็ว ระบบ push Start และ Smart Entry ที่จะเป็นระบบสำหรับการติดเครื่องยนต์ โดยจะมีการสั่งงานโดยใช้ปุ่ม Push Start และเหยียบเบรก ในด้านของเกียร์อัตโนมัติจะใช้เป็น Super CTV-I พร้อม Shift Lock และฟังก์ชัน S แบบขั้นบันได เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ได้อย่างดีเยี่ยม อีกทั้งยังช่วยให้เกียร์ไม่เลื่อนไปในตำแหน่งอื่น ๆ จากการกระแทกอีกด้วย เรียกได้ว่านอกจากจะเพิ่มความปลอดภัยต่อการใช้งานแล้ว ยังสามารถเพิ่มความสวยงามช่วยให้รถยนต์รุ่นนี้ดูสปอร์ตได้มากกว่าเดิม

สำหรับ Toyota yaris 2020 จะได้รับการพัฒนา และปรับปรุงขึ้นมาใหม่ ให้มีความสปอร์ตมากยิ่งขึ้น เพื่อที่จะตอบโจทย์ให้แก่คนรุ่นใหม่ได้มากกว่าเดิม อีกทั้งยังมาพร้อมกับกล้องมองหลังที่สามารถปรับแสงได้อย่างอัตโนมัติ ที่ในแต่ก่อนมีเฉพาะในรถรุ่นใหญ่เพียงเท่านั้น แต่ในรุ่นนี้มีมาให้ตั้งแต่โรงงาน พร้อมกล้องมองหลังที่ไม่ต้องติดตั้งเพิ่ม เหมาะสำหรับการขับขี่ที่มีงบประมาณจำกัดเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเป็นรถยนต์ Eco Car ที่สามารถประหยัดน้ำมันได้อย่างดี และยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เรียกได้ว่านอกจากจะมีความปลอดภัยในการขับขี่แล้ว ยังเหมาะสำหรับมือใหม่หัดขับได้อีกด้วย

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th