มีเหตุผลหลักๆ ที่อยากจะเขียนเรื่องนี้ขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยความรู้สึกว่า คนไทยมีฝีมือ และมีแนวคิดที่ไม่เป็นรองใครในโลกนี้ เพียงแต่จะมีเวทีให้ได้แสดงออกเพียงไหน ยิ่งเป็นแบรนด์รถยนต์ของคนไทยด้วยแล้ว ยิ่งอยากสนับสนุนมากยิ่งขึ้น และ “ไทยรุ่ง” คือรายเดียวที่ยังคงยืนหยัดผลิตรถยนต์ในนามของคนไทยมาสู่ปีที่ 50 อีกด้วย

หลายคนมองว่าหากเป็นรถยนต์จะต้องเป็นรถจากญี่ปุ่น หรือยุโรป ถึงจะมีคุณภาพที่สุด แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงแล้ว ทุกค่ายทุกแบรนด์มีจุดเด่นที่ต่างกัน อยู่ที่ว่าผู้ใช้รถยนต์มีความจำเป็นจะต้องใช้รถในแบบไหนในการใช้งานมากกว่า อย่างไทยรุ่งเองแม้ว่าจะทำแบรนด์รถยนต์ดัดแปลงแบบอเนกประสงค์มาหลายสิบปี แต่กระแสตอบรับยังคงไม่มาก ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เพราะจากที่ได้ทดสอบรถมาหลายรุ่น ผู้เขียนกลับรู้สึกว่าไทยรุ่งนี่แหละที่ทำรถออกมาให้ใช้งานจริงได้อย่างคุ้มค่า แม้ว่าราคาอาจจะดูสูงไปสักหน่อย (ถ้าภาครัฐเข้ามาสนับสนุนของไทยๆ มากกว่านี้จะดีไม่น้อย) แต่ด้วยเอกลักษณ์ของการออกแบบ ความทนทาน โครงสร้างตัวถังที่แข็งแกร่งที่พัฒนาโดยทีมวิศวกรชาวไทย ทำให้มั่นใจได้ว่านี่คือรถที่ดีอีกรุ่นหนึ่งในปัจจุบัน แถมยังถูกสั่งซื้อไปผลิตเป็นรถยนต์ตรวจการณ์ทางทหารและใช้งานในเชิงปกป้องในต่างประเทศอีกด้วย

(ซ้าย) สมพงษ์ เผอิญโชค กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ จำกัด (มหาชน)

โดยล่าสุดเมื่อเดือนตุลาคม 2560 ไทยรุ่ง TR TRANSFORMER II ได้คว้ารางวัลชนะเลิศนวัตกรรมแห่งชาติ ประจำปี 2560 ด้านเศรษฐกิจ จากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งได้รับการคัดเลือกผลงานที่มีลักษณะของนวัตกรรมที่เด่นชัดและก่อให้เกิดผลดีต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ มีผู้เข้าประกวดทั้งหมด 90 กว่าผลงาน

สำหรับรางวัลนี้เป็นรางวัลเกียรติสูงสุดแห่งวงการนวัตกรรมไทย ที่ยังไม่มีรถยนต์บริษัทไหนหรือรถยนต์ประเภทใดเคยได้รับรางวัลชนะเลิศมาก่อน เป็นเครื่องยืนยันให้เห็นว่ารถยนต์ตรวจการณ์ TR TRANSFORMER II เป็นนวัตกรรมที่สร้างความภูมิใจให้กับบริษัทไทยรุ่ง และเป็นรางวัลอันทรงเกียรติในปีแห่งการเฉลิมฉลองการก้าวเข้าสู่ปีที่ 50 ของไทยรุ่งด้วยเช่นกัน

แนวคิดในการพัฒนารถยนต์ TR TRANSFORMER มาจากการเล็งเห็นว่าตลาดรถยนต์ตรวจการณ์อเนกประสงค์ หรือรถยนต์ที่ใช้ในภารกิจทางการทหาร และหน่วยงานราชการต่าง ๆ ในขณะนั้นยังไม่มีผู้ผลิตในประเทศไทยที่สามารถผลิตได้คุณภาพตามมาตรฐานสากล ส่วนใหญ่จึงเป็นการนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศ ซึ่งมีราคาแพง และค่าบำรุงรักษาสูง ดังนั้นเพื่อเป็นการช่วยเหลือประเทศให้ประหยัดงบประมาณ และลดการสูญเสียเงินตราจากการนำเข้ารถยนต์ที่มีราคาแพงจากต่างประเทศ  ไทยรุ่งจึงได้คิดพัฒนารถยนต์ตรวจการณ์ โดยพัฒนาขึ้นตามความต้องการของผู้ใช้งานที่มีความหลากหลายต่างจากรถทั่วไป

โดยการนำเอาโครงสร้างของรถยนต์บรรทุกปิกอัพ (pick up) ที่มีการผลิตขายในประเทศมาพัฒนาออกแบบผลิตตัวถังใหม่ทั้งหมดให้สามารถใช้งานได้หลากหลายภารกิจ ทั้งเป็นรถยนต์นั่งทั่วไป และรถอเนกประสงค์สำหรับภารกิจทางการทหาร และภารกิจพิเศษของหน่วยงานราชการต่าง ๆ ซึ่งมีคุณภาพเทียบเท่ารถยนต์นำเข้ามาจากต่างประเทศ และมีอรรถประโยชน์มากกว่า ออกแบบให้ขนาดใหญ่กว่า มีฟังชั่นการใช้งานหลากหลาย เพราะสามารถนั่งโดยสารได้ 5- 11 ที่นั่ง ในราคาประหยัด ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับผู้บริโภคคนไทยเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งยังเป็นรถยนต์ที่มีความสมบูรณ์แบบได้มาตรฐานสากล ที่ง่ายในการซ่อมแซมและบำรุงรักษา มีค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมต่ำ เพราะใช้ชิ้นส่วนหลักเช่นเดียวกันกับรถปิกอัพทั่วไป  และยังสามารถดัดแปลงให้สามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ เช่น  รถที่ใช้ในการเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD), รถบังคับการควบคุม DRONE, รถติดตั้งอุปกรณ์ถ่ายทอดสด TV, รถพยาบาลฉุกเฉินภาคสนาม, รถบรรเทาสาธารณะภัย, รถควบคุมระบบสื่อสาร เป็นต้น จนสามารถส่งออกไปขายยังต่างประเทศ เช่น มาเลเซีย ศรีลังกา ได้กว่า 200 คัน และมีแผนที่จะส่งออกไปอีกหลายประเทศในอาเซียน

เมื่อปลายปี 2559 ที่ผ่านมา รถยนต์ตรวจการณ์ TR TRANSFORMER II ยังได้รับการคัดเลือกให้ขึ้นทะเบียนบัญชีนวัตกรรมไทย โดยสำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีของผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ที่จะสามารถเข้าถึง หน่วยงานราชการ และ รัฐวิสาหกิจให้สามารถจัดซื้อจัดจ้างจากผู้ขายหรือผู้ให้บริการที่มีรายชื่อตามบัญชีนวัตกรรมไทยโดยวิธีการพิเศษได้อีกด้วย

ทั้งหมดนี้ไม่มีอะไรมาก แค่อยากจะบันทึกเอาไว้ว่าเจ้า TR TRANSFORMER II คันสีเขียวที่เคยได้ทดลองขับคันนี้ล่ะ ที่คว้ารางวัลนวัตกรรมแห่งชาติมาครองได้อย่างน่าภูมิใจ แล้วอย่างนี้คนไทยจะไม่สนับสนุนรถยนต์แบรนด์ไทยที่ผลิตและสร้างขึ้นมาโดยคนไทยเลยเหรอ?

เรื่อง/ภาพ : พุทธิ  ผาสุข

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th