Vins Duecinquanta สปอร์ตไบค์ 250 ซีซี 2 จังหวะ กับค่าตัวหลักล้าน+

หากคุณเป็นสิงห์นักบิดที่เคยโลดแล่นผ่านยุค 90 ก็จะพบว่ามอเตอร์ไซค์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบ 2 จังหวะ เป็นอะไรที่นิยมมากในยุคนั้น ก่อนจะถูกเทคโนโลยีเครื่องยนต์แบบ 4 จังหวะ ค่อยๆ กลืนกินไปทีละน้อย… โดยเฉพาะมอเตอร์ไซค์ขนาด 250 ซีซี แบบ 2 จังหวะ ที่ให้สมรรถนะรุนแรง ผ่านสุ้มเสียงที่เร้าใจ รวมถึงความตื่นเต้นในสไตล์เฉพาะตัว ทำให้นักเลงสองล้อที่เคยคลุกคลี รู้สึกได้ถึงความจัดจ้านของมัน ซึ่งประสบการณ์ที่กล่าวมา เป็นอารมณ์ความสนุกที่หาไม่ได้ ในเครื่องยนต์แบบ 4 จังหวะ…

ในยุคปัจจุบัน มอเตอร์ไซค์หลายแบรนด์พยายามผลิตรถในแนวเรโทร-คลาสสิค กันมากขึ้น โดยดึงโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงมวลสารต่างๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ จากรุ่นเดิมในยุคนั้นๆ มาเป็นองค์ประกอบอย่างที่ได้เห็นกัน ตัวอย่างเช่น Triumph Bonnevilles, Kawazaki Z900 และ BMW RnineT แต่ผู้ผลิตสองล้อสัญชาติอิตาเลียนในนามของ “Vins” กลับเลือกใช้เครื่องยนต์แบบ 2 จังหวะ มาประจำการในสปอร์ตไบค์ของตนเอง…

โดยใช้ชื่อว่า Vins Duecinquanta มาพร้อมเครื่องยนต์ V-Twin 90 องศา 2 จังหวะ ขนาด 250 ซีซี จ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีด Direct fuel injection ช่วยไห้เครื่องยนต์เผาไหม้หมดจดกว่าระบบหรีดวาล์วแบบเดิมที่คุ้นเคยกัน โดยมาพร้อมระบบเกียร์ 6 สปีด ซึ่งแม้จะไม่มีการเปิดเผยตัวเลขสมรรถนะใดๆ แต่ดูจากโหงวเฮ้งแล้ว ทำให้เชื่อได้ว่า จะพกติดตัวมาไม่ต่ำกว่า 70 แรงม้าอย่างแน่นอน

Duecinquanta เป็นมอเตอร์ไซค์ 2 จังหวะ ที่มีค่ามลพิษต่ำ ผ่านมาตรฐาน Euro-4 มาพร้อมตัวรถ รูปทรงโฉบเฉี่ยว ที่ได้ทีมวิศวกร จาก Ferrari F1 มาออกแบบให้อีกด้วย…

สิ่งที่ทำให้ Duecinquanta มีราคาค่าตัวสูงถึงหลักล้าน ก็มาจากเทคโนโลยีการผลิตชิ้นส่วนตัวรถอันทันสมัย ระบบกันสะเทือนด้านหน้าเป็นแบบ Hossack-style หรือ แบบปีกนก สร้างขึ้นจากคาร์บอนไฟเบอร์ ส่วนด้านหลังเป็นแบบโมโนโช้ค ทำงานร่วมกับสวิงอาร์มคาร์บอนไฟเบอร์ ส่วนเฟรมตัวรถและล้อ Dymag นั้นก็ผลิตขึ้นมาจากคาร์บอนด้วยเช่นกัน ส่งผลให้ Vins Duecinquanta มีน้ำหนักตัวเปล่าไม่ถึง 100 กก.

สนนราคาค่าตัวของ Vins Duecinquanta เวอร์ชั่นสแตนดาร์ด อยู่ที่ 40,000 ยูโร คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 1,544,000 บาท แต่ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ หากใครต้องการเวอร์ชั่นตัวแข่ง กับความจุที่เพิ่มขึ้นเป็น 288 ซีซี พร้อมกับโปรแกรมลดน้ำหนักตัวรถ ให้เหลือไม่เกิน 85 กก. มีราคาจำหน่ายที่ 50,000 ยูโร หรือประมาณ 1,930,000 บาท เลยทีเดียว…