มาแล้วแฮทช์แบ็กรุ่นแรง Volkswagen Golf GTI เจนเนอเรชั่นล่าสุด
เป็นปกติที่เมื่อเปิดตัว Golf เจนเนอเรชั่นใหม่ออกมา ทาง Volkswagen ต้องมีรุ่น GTI มาเป็นทางเลือกสำหรับคนรักความแรงในรถแฮทช์แบ็กยอดนิยมของตน และล่าสุดผู้ผลิตรถยนต์จากเยอรมนีรายนี้ก็ได้เปิดผ้าคลุมของ Golf GTI เจนเนอเรชั่น 8 ออกมาแล้ว รวมไปถึงมีรุ่น GTE ซึ่งเป็นความแรงในแบบปลั๊กอินไฮบริดและ GTD กับเครื่องยนต์ดีเซลออกมาเป็นทางเลือกไปพร้อมกันด้วย
เหมือนอย่างเคยที่ทาง Volkswagen จะไม่ได้สร้างความแตกต่างด้านความดุดันภายนอกรถให้กับ Golf GTI จากรุ่นปกติมากนัก โดย Golf GTI Mk 8 มาพร้อมกับกระจังหน้าส่วนล่างลายรังผึ้งแบบชิ้นเดียว แต่สิ่งที่โดดเด่นของ Golf GTI ใหม่คือไฟตัดหมอกที่ถูกวางเป็นรูปตัว X ทั้งสองด้านของรถ นอกจากนี้สิ่งที่แตกต่างจากรุ่นทั่วไปในด้านหน้าของรถคือแถบไฟ LED ยาวระหว่างไฟหน้ารวมทั้งแถบสีแดงที่ยาวคู่ไปกับแถบไฟ LED
ส่วนด้านข้างของรถนอกจากสเกิร์ตข้างสีดำแล้ว ล้ออัลลอยลาย Richmond ขนาด 17 นิ้ว และคาลิเปอร์เบรกสีแดงคือสิ่งที่ถูกใช้เพื่อบ่งบอกความเป็นรุ่น GTI ในขณะที่ด้านหลังมาพร้อมกับ Diffuser ที่เพิ่มอารมณ์สปอร์ตให้กับรถควบคู่ไปกับสปอยเลอร์บนหลังคา ปลายท่อไอเสียที่ออกมาทั้ง 2 ฝั่งของรถ และตัวหนังสือระบุรุ่น GTI ใต้สัญลักษณ์ของ Volkswagen กลางประตูท้ายของรถ
ด้านความแรงของ Golf GTI Mk8 มาจากเครื่องยนต์ TSI EA888 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จที่สร้างพลังขับเคลื่อนออกมา 245 แรงม้า และแรงบิด 370 นิวตัน-เมตร โดยที่มีทั้งเกียร์แมนนวล 6 สปีด และเกียร์ดุอัลคลัตช์ 7 สปีดส่งกำลังเหมือน Golf GTI รุ่นก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามทาง Volkswagen ไม่ได้ระบุตัวเลขอัตราเร่งและความเร็วสูงของ Golf GTI เจนเนอเรชั่นใหม่ออกมา
ความเปลี่ยนแปลงหนึ่งที่สำคัญใน Golf GTI รุ่นใหม่ซึ่งส่งผลต่อสมรรถนะของรถคือได้มีการเพิ่มระบบควบคุมใหม่ที่แชสซีส์ซึ่งเรียก่า Vehicle Dynamics Management ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วระบบนี้จะควบคุมการล็อกเฟืองท้าย Differential อีเล็กทรอนิก XDS และช่วงล่างอแดปทีฟ DCC ที่ได้ถูกปรับใหม่ในเจนเนอเรชั่นนี้ รวมทั้งยังลดความสูงของรถลงจากรุ่นมาตรฐาน 0.6 นิ้ว นอกจากนี้ใน Golf GTI ผู้ขับยังมีอิสระในการเลือกรูปแบบการขับได้มากกว่าโหมด Comfort, Eco และ Sport ที่ถูกปรับตั้งการทำงานต่างๆ มาให้ล่วงหน้า ด้วยการปรับตั้งค่าต่างๆ ตามต้องการด้วยตนเอง
สำหรับภายในห้องโดยสารของ Golf GTI Mk8 ให้ความรู้สึกที่ทันสมัยด้วยพวงมาลัยสปอร์ตใหม่แบบ 3 ก้านคู่ที่มาพร้อมการควบคุมแบบสัมผัส และเบาะสปอร์ต Tartan GTI รวมไปถึงหัวเกียร์ Golf ball กับเกียร์แมนนวล ส่วนหน้าปัดดิจิตอลสำหรับแสดงข้อมูลมีขนาด 10.25 นิ้ว ในขณะที่จอระบบ Infotainment มีขนาด 10 นิ้ว รวมทั้งยังมีไฟ Ambient Light ให้เลือกถึง 30 สี
พร้อมกับ Golf GTI ทาง Volkswagenก็ได้เปิดตัว Golf GTE และ GTD ซึ่งมีกำลังน้อยกว่าออกมาพร้อมกันด้วย โดย Golf GTE ที่มาในความแรงแบบปลั๊กอินไฮบริด ใช้เครื่องยนต์ 1.4 ลิตร เทอร์โบชาร์จ 150 แรงม้าทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 112 แรงม้า ซึ่งให้กำลังรวม 245 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตัน-เมตร โดยใช้เกียร์ DSG 6 สปีดส่งกำลัง ในขณะที่แบตเตอรีลิเธียมไอออนของรถมีความจุ 13 kWh ช่วยให้เดินทางโดยใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างเดียวได้ 60 กิโลเมตร และใช้ความเร็วสูงสุดเมื่อใช้พลังงานไฟฟ้าได้ 130 กม./ชม.
ส่วน Golf GTD ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2 ลิตร เทอร์โบ ซึ่งสร้างกำลังขับเคลื่อนได้ 200 แรงม้า และแรงบิด 400 นิวตัน-เมตร โดยใช้เกียร์ดุอัลคลัตช์ 7 สปีดส่งกำลัง
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th