Volkswagen Golf R ถ้าอยากแรงกว่า GTI ก็ต้องรุ่นนี้
แม้โดยทั่วไปแล้ว Golf GTI จะเป็นรุ่นดังและเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นรุ่นแรงของรถแฮทช์แบ็กจากค่าย Volkswagen แต่จริงๆ แล้วตั้งแต่ Golf Mk6 เป็นต้นมา ทาง Volkswagen ได้ส่ง Golf R ออกมาเป็นอีกทางเลือกที่มีกำลังขับเคลื่อนสูงกว่า GTI หลังจากที่ 2 เจนเนอเรชั่นก่อนหน้านี้มาในชื่อ Golf R32 และกับเจนเนอเรชั่นปัจจุบัน Golf R ได้ถูกเผยโฉมออกมาแล้วพร้อมความแรงที่มากกว่าเจนเนอเรชั่นก่อนหน้า
ใต้ฝากระโปรงของ Volkswagen Golf R เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จที่สร้างกำลังขับเคลื่อนออกมาได้ 319 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตร ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเจนเนอเรชั่นก่อนหน้า 27 แรงม้า และ 41 นิวตัน-เมตร ในขณะที่การส่งกำลังสู่ล้อเป็นหน้าที่ของเกียร์ดูอัลคลัตช์ DSG 7 สปีด แต่จะมีบางตลาดที่มีเกียร์แมนนวล 6 สปีดเป็นอุปกรณ์มาตรฐานโดยที่มีเกียร์ DSG 7 สปีดเป็นทางเลือก
ไม่ว่าจะใช้ระบบส่งกำลังแบบใด Golf R ทุกคันมาพร้อมกับการเคลื่อนที่ไปด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อพร้อม Torque Vectoring ซึ่งทางผู้ผลิตรถยนต์จากเมืองโวล์ฟสบวกระบุว่าสามารถช่วยลดอาการ Understeer หรือหน้าดื้อโค้งและลดมุมในการเข้าโค้งได้ ซึ่งจะทำให้รถมีความคล่องแคล่วขึ้นอย่างชัดเจน ส่วนตัวเลขด้านสมรรถนะที่ถูกระบุออกมาคือใช้เวลา 4.7 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. อย่างไรก็ตามความเร็วสูงสุดของรถถูกจำกัดไว้ที่ 250 กม./ชม.
Golf R ไม่ได้มีแค่กำลังมากกว่า 300 แรงม้าเท่านั้น แต่ยังมีการปรับในส่วนอื่นเพื่อรองรับกำลังเครื่องยนต์ด้วย อย่างช่วงล่างที่ถูกปรับ Sport-tune พร้อมกับใช้สปริงและบาร์กันโครงที่มีความหนืดขึ้น รวมไปถึงทางวิศวกรยังเพิ่มซับเฟรมอลูมิเนียมน้ำหนักเบา และเพิ่มแคมเบอร์ลบที่ด้านหน้าเพื่อช่วยให้ความนิ่งมากขึ้นเมื่อเข้าโค้งที่ความเร็วสูงขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับลดความสูงลงจากรุ่นมาตรฐาน 20 มม.
ในส่วนของการหยุดรถมีการเพิ่มขนาดทั้งในส่วนของเส้นผ่าศูนย์กลางและความหนาของดิสก์เบรกหน้ามากขึ้นจนมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 358 มม. และหนา 33 มม. พร้อมไปกับการใช้แม่ปั๊มเบรกหน้ารวมทั้ง 2 ลูกสูบของคาลิเปอร์เบรกอลูมิเนียมที่ล้อหน้าใหญ่ขึ้น ส่วนอื่นๆ ที่ถูกใช้เพื่อเพิ่มสมรรถนะการขับของ Golf R มีทั้งการใช้ระบบกันสะเทือนอแดปทีฟ และล็อกเฟืองท้าย Differential อีเล็กทรอนิก
นอกจาก Golf R จะมี 4 โหมดการขับให้เลือกที่มักคุ้นเคยกันในรถสมรรถนะสูงคือ Comfort, Sport, Race และ Individual แล้ว ยังมีอีก 2 การปรับตั้งให้เลือกคือ Special และ Drift ซึ่งโหมด Special จะมีการปรับเพื่อให้รถเหมาะสำหรับสนาม Nordschleife ที่สุดพร้อมกับมีการปรับช่วงล่างให้นุ่มลงกว่าโหมด Race เพื่อรักษาการสัมผัสกับพื้นถนนให้มากที่สุด ในขณะที่โหมด Drift จะมีการเปลี่ยนค่าการทำงานของระบบควบคุมการทรงตัวของรถ และมีการกระจายกำลังไปยังล้อทั้ง 4 ให้มากที่สุด
ในส่วนความดุดันที่ภายนอกของ Golf R จะปรากฏรอบคันตั้งแต่ที่กันชนหน้าซึ่งมีความสปอร์ตขึ้นพร้อมกับช่องดักลมที่ออกแบบโดยเฉพาะและการใช้สีดำมันในการแต่ง รวมไปถึงมีกระจังหน้าเฉพาะพร้อมแถบสีฟ้าและไฟสว่างบนกระจังหน้าเมื่อสตาร์ตเครื่องยนต์ นอกจากนี้ยังเพิ่มความสปอร์ตที่ด้านข้างด้วยสเกิร์ตข้าง ครอบกระจกมองข้างโครเมียมด้าน และล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว ส่วนด้านหลังเปลี่ยนมาใช้กันชนที่สปอร์ตขึ้นกว่ารุ่นมาตรฐานพร้อมกับ Diffuser สีดำมัน และ 4 ปลายท่อไอเสียสปอร์ต
ขณะที่ภายในห้องโดยสารผสานทั้งความหรูและความสปอร์ตด้วยเบาะสปอร์ตหนัง Nappa ที่ใช้สีฟ้าเพิ่มความเด่น และมีตัวหนังสือ R สีฟ้าที่พนักพิงหลัง พร้อมกับใช้คาร์บอนไฟเบอร์ในการแต่ง มีแป้นเหยียบอลูมิเนียมอัลลอย และพวงมาลัยสปอร์ตปรับความอุ่นได้ โดยในส่วนของจอระบบ Infotainment ขนาด 10 นิ้วมีการแสดงหน้าจอ R-Specific โดยเฉพาะ ทาง Volkswagen จะเริ่มขาย Golf R ในช่วงปลายปีนี้ทั้งในยุโรปและสหรัฐอเมริกา ในขณะที่ราคายังไม่มีการเปิดเผยออกมา
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th