แม้ตอนนี้ Volkswagen จะยังไม่มีรถพลังงานไฟฟ้าล้วนในสายการผลิตสำหรับจำหน่าย แต่อีกไม่นานอาจจะได้เห็นรถพลังงานไฟฟ้าจากผู้ผลิตรถยนต์เยอรมันรายนี้ เพราะได้มีการเปิดตัวแชสซีส์ที่ถูกพัฒนาสำหรับรถพลังงานไฟฟ้าโดยเฉพาะขึ้นมาเพื่อเป็นพื้นฐานสำหรับแผน Electric for All ของตน

แชสซีส์ที่ Volkswagen พัฒนาขึ้นถูกเรียกว่า ID. ซึ่งทาง Volkswagen ระบุว่ามีความแตกต่างจากแชสซีส์ของผู้ผลิตรายอื่นที่ปรับรูปแบบมาจากแชสซีส์สำหรับรถยนต์ใช้น้ำมัน แต่แชสซีส์ iD. เป็นการออกแบบมาเพื่อรถพลังงานไฟฟ้าตั้งแต่เริ่มต้นจึงทำให้สามารถติดตั้งเทคโนโลยีต่างๆ เข้าไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ด้วยแชสซีส์ที่พัฒนาขึ้นมาให้ยังทำให้มีความยืดหยุ่นในการออกแบบกว่าแชสซีส์ที่เคยทำมาเพราะสามารถปรับใช้ได้ตั้งแต่รถขนาดคอมแพกต์ไปถึงรถเอสยูวีและรถแวน รวมทั้งด้วยขนาดภายในและความยืดหยุ่นของแชสซีส์ ID. ยังทำให้ขยายข้อจำกัดในด้านขนาดรถได้เพื่อให้มีพื้นที่สำหรับความสบายของผู้ขับและผู้โดยสารมากขึ้นจนเทียบได้กับรถที่อยู่ในตลาสสูงกว่าด้วยการทำให้มีระยะฐานล้อที่ยาวและ Overhang ที่สั้นเนื่องจากไม่มีเครื่องยนต์

ด้วยการใช้แชสซีส์ ID. มอเตอร์จะถูกติดตั้งอยู่ที่เพลาหลังและแบตเตอรี่อยู่ที่พื้นรถ โดยกำลังจากมอเตอร์จะถูกถ่ายทอดสู่เพลาหลังด้วยเกียร์เดียว และรถรุ่นใช้แชสซีส์ ID. จะสามารถแล่นได้ระยะทาง 330 ถึง 550 กิโลเมตร โดยที่มีระบบชาร์จพลังงานแบบเร็วกับแบตเตอรี่ 125 kWh ซึ่งชาร์จจากไม่มีพลังงานในแบตเตอรี่เลยจนถึง 80 เปอร์เซ็นต์ได้ภายใน 30 นาที

นอกจากนี้อีกส่วนที่สำคัญคือ Modular Electric Drive Matrix (MEB) ซึ่งเป็นของแชสซีส์ ID. จะถูกใช้ในรถไฟฟ้าอีกสี่แบรนด์ในเครือ Volkswagen ทั้ง Audi, Seat,  Skoda และ Volkswagen Commercial

อย่างไรก็ตามแม้จะมีการพัฒนาแชสซีส์แล้ว แต่รถพลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกที่ใช้แชสซีส์ ID. จะต้องรอถึงปี 2020

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th