Volvo ซึ่งมีการลงทุนในหลายบริษัทพัฒนาเทคโนโลยีขนาดเล็กมาตั้งแต่ปี 2018 เพื่อหวังนำเอาเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนามาใช้กับรถของตน ได้ประกาศถึงการลงทุนและร่วมมือกับ Breath Battery Technologies เพื่อพัฒนาซอฟต์แวร์ซึ่งสามารถทำให้ชาร์จไฟให้กับรถไฟฟ้าได้เร็วขึ้น

บริษัท Breath Battery Technologies ที่ทาง Volvo เข้าไปลงทุนและร่วมมือด้วยเป็นบริษัทเทคโนโลยีในสหราชอาณาจักรที่ใช้อัลกอริธึมเพื่อบริหารจัดการกระบวนการชาร์จไฟ เพื่อทำให้สามารถควบคุมการไหลผ่านของพลังงานแบบเรียลไทม์ จากที่โดยทั่วไปจะใช้โปรแกรมการชาร์จซึ่งคาดการณ์การชาร์จไฟล่วงหน้าเพื่อทำให้เกิดความปลอดภัยในการชาร์จ

ทาง Ann-Sofie Ekberg ซีอีโอ Volvo Cars Tech Fund ได้บอกถึงการลงทุนใน Breath Battery Technologies ว่า “การลงทุนและร่วมมือทางการค้ากับ Breath จะช่วยเราในส่วนที่เป็นข้อติของลูกค้ารถไฟฟ้า และทำให้การชาร์จไฟของเราเป็นสิ่งที่ใช้ในการแข่งขันได้มากขึ้น เวลาการชาร์จไฟที่เร็วสำหรับระยะการเดินทางที่ลูกค้ามักชาร์จไฟแบบเร็วจะเป็นก้าวสำคัญ ในขณะที่เราพัฒนาการเดินทางด้วยไฟฟ้าและทำให้ผู้คนเข้าถึงได้มากขึ้น”

ทาง Volvoยังระบุว่าเทคโนโลยีที่พัฒนาไม่เพียงแค่เพิ่มความเร็วในกระบวนการชาร์จไฟได้อย่างชัดเจน จากการลดระยะเวลาในการชาร์เร็วลงถึง 30 เปอร์เซ็นต์เพื่อชาร์จไฟให้กับแบตเตอรีจาก 10-80 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น แต่ด้วยการควบคุมแบบไดนามิกยังทำให้เจ้าของรถได้รับประโยชน์ตั้งแต่เวลาชาร์จไฟที่ดีขึ้นไปจนถึงอายุของรถด้วย เพราะจะส่งผลให้มีการใช้งานที่นานขึ้น โดยทางผู้ผลิตรถยนต์จากสวีเดนอ้างว่าเทคโนโลยีจะทำงานโดยไม่สร้างความเสียหายให้กับแบตเตอรี จากการที่ซอฟต์แวร์ตรวจจับสุขภาพของแบตเตอรีเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายของลิเธียมซึ่งทำให้อายุการเก็บพลังงานสั้นลง

ผู้ผลิตรถยนต์จากสวีเดนยังบอกว่าตนเป็นบริษัทรถยนต์แรกที่ใช้เทคโนโลยีของ Breath โดยจะนำมาใช้กับรถไฟฟ้าในอนาคตเมื่อเทคโนโลยีถูกนำออกมาใช้งานจริง

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th