VOLVO มอบอากาศบริสุทธิ์ตลอดการเดินทาง ด้วยเทคโนโลยี Advanced filter
VOLVO มอบสัมผัสอากาศบริสุทธิ์ตลอดการเดินทาง ด้วยเทคโนโลยี Advanced filter ช่วยฟอกอากาศขั้นสูงในรถยนต์วอลโว่
ปัญหาฝุ่นควัน มลพิษทางอากาศ และ PM2.5 ร้ายแรงกว่าที่คิด และส่งผลกระทบต่อผู้คนหลายร้อยล้านคนทั่วโลก โดยก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพทั้งในระยะสั้นและในระยะยาวต่อระบบทางเดินหายใจ ปอด หัวใจ สมอง ผิวหนัง อีกทั้งยังมีผลต่อพัฒนาการทางด้านสติปัญญาและร่างกายของเด็ก โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้กำหนดค่ามาตรฐานความปลอดภัยเฉลี่ยรายปีของฝุ่น PM2.5 ให้อยู่ที่ไม่เกิน 5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ในขณะที่ค่าฝุ่นเฉลี่ยรายปีของประเทศไทยอยู่ที่ 18.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร[1] ซึ่งนับว่าสูงกว่าค่ามาตรฐานและเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
ฝุ่นและมลภาวะทางอากาศส่งผลให้เครื่องฟอกอากาศเป็นอุปกรณ์จำเป็นที่หลาย ๆ บ้านเลือกใช้เพื่อกรองฝุ่นควันและมลภาวะภายในที่อยู่อาศัย อย่างไรก็ตามการดำเนินชีวิตภายนอกอาคารเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และนั่นคือเหตุผลที่วอลโว่ได้ดำเนินการพัฒนาเทคโนโลยีฟอกอากาศในรถยนต์เพื่อมอบคุณภาพอากาศที่สะอาดขึ้นให้แก่คุณและครอบครัวขณะเดินทาง เพื่อให้คุณและครอบครัวสามารถใช้เวลาในรถยนต์วอลโว่ได้อย่างปลอดภัย ไร้กังวลจากมลภาวะภายนอก
สัมผัสอากาศบริสุทธิ์แม้ในขณะเดินทางด้วยเทคโนโลยีฟอกอากาศขั้นสูงในรถยนต์วอลโว่ทุกรุ่น อุ่นใจด้วยระบบเซ็นเซอร์ที่สามารถตรวจวัดระดับ PM2.5 ภายในห้องโดยสารได้อย่างต่อเนื่องและแสดงผลบนจอแสดงผลส่วนกลาง อีกทั้งยังสามารถเปรียบเทียบกับระดับ PM2.5 ภายนอกรถได้อีกด้วย
[1]อ้างอิงข้อมูลจาก https://www.iqair.com/world-most-polluted-countries
เทคโนโลยี Advanced Filter ใน Volvo ซีรีย์ 40
ปลอดภัยจากมลภาวะทางอากาศแม้ในขณะเดินทางด้วยเทคโนโลยี Advanced filter ที่สามารถกรองอนุภาคฝุ่นละอองขนาดเล็กผ่านเทคโนโลยีตัวกรองระดับนาโนที่สามารถป้องกันฝุ่น PM2.5 ไม่ให้เข้าสู่ห้องโดยสารได้มากถึง 80% นอกจากนี้ตัวกรองยังสามารถช่วยกรองละอองเกสรเกือบทั้งหมดไว้ด้านนอกห้องโดยสาร จึงช่วยลดปัจจัยการเกิดอาการภูมิแพ้ได้เป็นอย่างดี
เทคโนโลยี Advanced Air Cleaner ใน Volvo ซีรีย์ 60 และ ซีรีย์ 90
สัมผัสอากาศที่สะอาดขึ้นกับอานุภาพการกรองอากาศด้วยตัวกรองเส้นใยสังเคราะห์และกระบวนการไอออไนเซชั่นในเทคโนโลยีฟอกอากาศขั้นสูง ทำให้สามารถกรองอนุภาค PM2.5 ได้มากถึง 95% นอกจากนี้แผ่นกรองยังช่วยกรองละอองเกสรเกือบทั้งหมดไว้ด้านนอกห้องโดยสาร ซึ่งช่วยบรรเทาอาการภูมิแพ้ได้เป็นอย่างดี
มร. คริส เวลส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า
“ความปลอดภัยของผู้ใช้คือสิ่งที่วอลโว่ให้ความสำคัญเสมอมา เราจึงใส่ใจในทุก ๆ รายละเอียดเพื่อให้มั่นใจว่าทุกนาทีที่คุณและครอบครัวใช้ในรถวอลโว่นั้นปลอดภัยที่สุด ไม่เว้นแม้แต่คุณภาพอากาศภายในรถ เพราะเราเชื่อว่าอากาศบริสุทธิ์มีความสำคัญต่อคุณภาพชีวิตของผู้คน ไม่ว่าจะเป็นการลดความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับมลภาวะทางอากาศ สารก่อภูมิแพ้ และฝุ่นละอองขนาดเล็ก นอกจากนี้การได้รับอากาศที่สะอาดยังช่วยเพิ่มสมาธิในการขับขี่ ดังนั้นเราจึงไม่เคยหยุดที่จะคิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีภายในรถยนต์วอลโว่ เพื่อส่งมอบประสบการณ์การเดินทางที่ ปลอดภัย ยั่งยืน และสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นอยู่เสมอ”
เทคโนโลยี Advanced Air Cleaner ยังได้รับการรับรอง Allergy Standards Limited (ASL) ว่าเป็นมิตรต่อผู้ที่เป็นโรคหอบหืดและภูมิแพ้ โดยเทคโนโลยีนี้สามารถกรองสารก่อภูมิแพ้จากหญ้า ต้นไม้ และละอองเกสรต่าง ๆ ในอากาศที่จะเข้าสู่ห้องโดยสารได้มากถึง 99.9%
นอกจากนี้วอลโว่ยังได้เลือกใช้วัสดุที่ลดผลกระทบต่อสุขภาพของผู้โดยสารและสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นการลดการใช้วัสดุที่อาจก่อให้เกิดการแพ้ หรือแม้แต่การคำนึงถึงกลิ่นภายในห้องโดยสาร เพื่อให้มั่นใจว่ารถของวอลโว่นั้นปลอดภัยที่สุดสำหรับทุกคน
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม รวมถึงข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับวอลโว่ได้ที่เว็บไซต์ www.volvocars.com/th และ http://www.facebook.com/volvocarsth หรือเยี่ยมชม Volvo Studio Bangkok ได้ที่ชั้น 3 ห้างสรรพสินค้าไอคอนสยาม เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวอลโว่
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ได้ที่ www.grandprix.co.th
ปัญหาฝุ่นควัน มลพิษทางอากาศ และ PM2.5 ร้ายแรงกว่าที่คิด และส่งผลกระทบต่อผู้คนหลายร้อยล้านคนทั่วโลก โดยก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพทั้งในระยะสั้นและในระยะยาวต่อระบบทางเดินหายใจ ปอด หัวใจ สมอง ผิวหนัง อีกทั้งยังมีผลต่อพัฒนาการทางด้านสติปัญญาและร่างกายของเด็ก โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้กำหนดค่ามาตรฐานความปลอดภัยเฉลี่ยรายปีของฝุ่น PM2.5 ให้อยู่ที่ไม่เกิน 5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ในขณะที่ค่าฝุ่นเฉลี่ยรายปีของประเทศไทยอยู่ที่ 18.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร[1] ซึ่งนับว่าสูงกว่าค่ามาตรฐานและเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
ฝุ่นและมลภาวะทางอากาศส่งผลให้เครื่องฟอกอากาศเป็นอุปกรณ์จำเป็นที่หลาย ๆ บ้านเลือกใช้เพื่อกรองฝุ่นควันและมลภาวะภายในที่อยู่อาศัย อย่างไรก็ตามการดำเนินชีวิตภายนอกอาคารเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และนั่นคือเหตุผลที่วอลโว่ได้ดำเนินการพัฒนาเทคโนโลยีฟอกอากาศในรถยนต์เพื่อมอบคุณภาพอากาศที่สะอาดขึ้นให้แก่คุณและครอบครัวขณะเดินทาง เพื่อให้คุณและครอบครัวสามารถใช้เวลาในรถยนต์วอลโว่ได้อย่างปลอดภัย ไร้กังวลจากมลภาวะภายนอก
สัมผัสอากาศบริสุทธิ์แม้ในขณะเดินทางด้วยเทคโนโลยีฟอกอากาศขั้นสูงในรถยนต์วอลโว่ทุกรุ่น อุ่นใจด้วยระบบเซ็นเซอร์ที่สามารถตรวจวัดระดับ PM2.5 ภายในห้องโดยสารได้อย่างต่อเนื่องและแสดงผลบนจอแสดงผลส่วนกลาง อีกทั้งยังสามารถเปรียบเทียบกับระดับ PM2.5 ภายนอกรถได้อีกด้วย
ปัญหาฝุ่นควัน มลพิษทางอากาศ และ PM2.5 ร้ายแรงกว่าที่คิด และส่งผลกระทบต่อผู้คนหลายร้อยล้านคนทั่วโลก โดยก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพทั้งในระยะสั้นและในระยะยาวต่อระบบทางเดินหายใจ ปอด หัวใจ สมอง ผิวหนัง อีกทั้งยังมีผลต่อพัฒนาการทางด้านสติปัญญาและร่างกายของเด็ก โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้กำหนดค่ามาตรฐานความปลอดภัยเฉลี่ยรายปีของฝุ่น PM2.5 ให้อยู่ที่ไม่เกิน 5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ในขณะที่ค่าฝุ่นเฉลี่ยรายปีของประเทศไทยอยู่ที่ 18.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร[1] ซึ่งนับว่าสูงกว่าค่ามาตรฐานและเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
ฝุ่นและมลภาวะทางอากาศส่งผลให้เครื่องฟอกอากาศเป็นอุปกรณ์จำเป็นที่หลาย ๆ บ้านเลือกใช้เพื่อกรองฝุ่นควันและมลภาวะภายในที่อยู่อาศัย อย่างไรก็ตามการดำเนินชีวิตภายนอกอาคารเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และนั่นคือเหตุผลที่วอลโว่ได้ดำเนินการพัฒนาเทคโนโลยีฟอกอากาศในรถยนต์เพื่อมอบคุณภาพอากาศที่สะอาดขึ้นให้แก่คุณและครอบครัวขณะเดินทาง เพื่อให้คุณและครอบครัวสามารถใช้เวลาในรถยนต์วอลโว่ได้อย่างปลอดภัย ไร้กังวลจากมลภาวะภายนอก
สัมผัสอากาศบริสุทธิ์แม้ในขณะเดินทางด้วยเทคโนโลยีฟอกอากาศขั้นสูงในรถยนต์วอลโว่ทุกรุ่น อุ่นใจด้วยระบบเซ็นเซอร์ที่สามารถตรวจวัดระดับ PM2.5 ภายในห้องโดยสารได้อย่างต่อเนื่องและแสดงผลบนจอแสดงผลส่วนกลาง อีกทั้งยังสามารถเปรียบเทียบกับระดับ PM2.5 ภายนอกรถได้อีกด้วย