Volvo EX30 Cross Country เสริมรูปลักษณ์และอุปกรณ์เพื่อให้ประสบการณ์มากขึ้น
![](https://www.grandprix.co.th/wp-content/uploads/2025/02/VOlvo_EX30_Cross_Country_1-660x400.jpg)
ในอดีต Volvo เคยใช้ชื่อ Cross Country กับรถแวกอนที่ถูกเพิ่มความสามารถในการลุยมากกว่ารุ่นปกติ เพื่อเป็นทางเลือกอเนกประสงค์แทรกกลางระหว่างรถแวกอนกับรถเอสยูวี ล่าสุดผู้ผลิตรถยนต์จากสวีเดนนำเอาชื่อนี้มาใช้กับ EX30 รถเอสยูวีไฟฟ้าขนาดเล็กที่ถูกเสริมรูปลักษณ์และอุปกรณ์เพื่อให้ความมั่นใจในการลุยมากขึ้น
Volvo EX30 Cross Country ให้ความมั่นใจในการลุยบนเส้นทางวิบากได้มากขึ้นด้วยการมากับล้อขนาดใหญ่ขึ้นพร้อมมีความสูงของใต้ท้องรถจากพื้นมากกว่ารุ่นปกติ พร้อมขับเคลื่อนด้วยทุกล้อของรถเป็นอุปกรณ์มาตรฐานเพื่อรับมือกับเส้นทางที่ขรุขระและลื่น
ด้านรูปลักษณ์ของรถให้ความมั่นใจในการลุยด้วยการป้องกันกระจังหน้า บางส่วนของกันชนหน้าและฝาท้ายที่เป็นสีดำพิเศษ พร้อมให้ความรู้สึกถึงความแข็งแกร่ง แถมยังเพิ่มความพิเศษด้วยลายภูเขา Kebnekaise ซึ่งอยู่ในพื้นที่อาร์กติกของสวีเดนบนกระจังหน้าของรถ นอกจากนี้ยังมีแผงกันกระแทกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง รวมทั้งโป่งซุ้มล้อเพิ่มความกว้างของรถที่ทำให้รถดูแกร่งขึ้น
ห้องโดยสารของรถเน้นการใช้งานด้วยเทคโนโลยี ที่เก็บของ พร้อมดีไซน์จากรถรุ่นปกติ อย่างที่เก็บของขนาดใหญ่ที่ประตูรถ ที่เก็บของพร้อมช่องวางแก้วน้ำระหว่างผู้ขับกับผู้โดยสารด้านหน้า รวมทั้งมีช่องเก็บของที่พื้นระหว่างผู้ขับกับผู้โดยสารด้านหน้า ในขณะที่ผู้โดยสารด้านหลังก็มีกล่องเก็บของให้ใช้ด้วยการเลื่อนด้านล่างของอุโมงกลางออกมา โดยที่สามารถถอดออกและนำไปล้างได้
รถเอสยูวีไฟฟ้ารุ่นแกร่งขึ้นยังคงเหมือนกับรถรุ่นใหม่ๆ จากVolvo ที่มากับ Google Built-in ทำให้มีฟีเจอร์จาก Google ให้ใช้อย่าง Google Maps นอกจากนี้รถยังมีเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยพร้อมใช้เบรกและพวงมาลัยเพื่อช่วยหลีกเลี่ยงการชนรถ คนเดินถนน และคนขี่จักรยาน รวมไปถึงมีเซ็นเซอร์ตรวจจับสมาธิและความอ่อนล้าของผู้ขับ
ด้านระบบขับเคลื่อนทางผู้ขับระบุว่าเดินทางได้สูงสุด 427 กิโลเมตรเมื่อชาร์จไฟเต็มความจุแบตเตอรี และใช้เวลา 26 นาทีเพื่อชาร์จไฟจาก 10-80 เปอร์เซ็นต์ ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้ามาจจากรุ่นสมรรถนะสูงสุดของ EX30ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ให้กำลังรวม 428 แรงม้า โดยทางผู้ผลิตยังมีออปชัน Cross Country Experience ซึ่งป็นแพกเก็จอุปกรณ์เสริมอย่างล้อขนาด 18 นิ้วพร้อมยางออล-เทอร์เรน และที่เก็บสัมภาระบนหลังคารถให้เลือก
รถเอสยูวีไฟฟ้ารุ่นใหม่เริ่มขายแล้วในบางประเทศ โดยจะเริ่มส่งมอบรถในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิ 2025 นี้
อ่านต่อได้ที่นี่: Mercedes-Benz W196R ปี 1954 กลายเป็นรถแข่งกรังด์ปรีซ์ที่ถูกประมูลแพงที่สุดในโลก
บริษัทประมูลชื่อดัง RM Sotheby ได้จัดการประมูล Mercedes-Benz W196R ที่พิพิธภัณฑ์Mercedes-Benz เมืองสตุตการ์ต เยอรมนี ซึ่งเป็นรถที่ถูกบริจาคให้แก่พิพิธภัณฑ์ Indianapolis Motor Speedway ตั้งแต่ปี 1965 โดย Daimler-Benz AG ในตอนนั้น โดยราคาของรถที่ถูกประมูลไปส่งผลให้เป็นรถแข่งกรังด์ปรีซ์ที่ถูกประมูลในราคาสูงที่สุดในโลก
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th