Volvo EX90 รถเอสยูวีไฟฟ้าเรือธงรุ่นใหม่เผยโฉมอย่างเป็นทางการ
หลังจากที่ทาง Volvo ปล่อยทีเซอร์ของ EX90 รถเอสยูวีไฟฟ้าเรือธงรุ่นใหม่ของตนออกมาหลายครั้ง ล่าสุด EX90 ได้ถูกเผยโฉมออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว โดยทางผู้ผลิตได้ระบุว่าเป็นรถที่เพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยรวมทั้งวิถีชีวิตที่ยั่งยืนมากขึ้น และเป็นการเริ่มยุคสมัยใหม่ของ Volvo ซึ่งหลังจากนี้จะมีการเปิดตัวรถไฟฟ้ารุ่นใหม่หนึ่งรุ่นในแต่ละปีเพื่อเดินหน้าสู่การขายเฉพาะรถไฟฟ้าในปี 2030
Volvo EX90 ถูกระบุว่าได้รับการออกแบบตามหลักการ Form Following Function จึงทำให้รถมีทั้งความอเนกประสงค์ เป็นรถครอบครัวที่มีสไตล์พร้อมด้วยรูปทรงที่ทันสมัย ร่วมกับการมีเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเป็นแกนกลางในการประมวลผล เชื่อมต่อ และการใช้พลังงานไฟฟ้า โดยการออกแบบภายนอกของ EX90 ยังคงสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของ Volvo อย่างไฟ Daytime Running Light ทรงค้อนธอร์รวมทั้งไฟท้ายรูปตัวซีเอาไว้ พร้อมกับเส้นสายที่เรียบง่ายและพื้นผิวภายนอกของรถที่โล่งสะอาดตา
EX90 ซึ่งตัวรถมีความยาว 5,037 มม. กว้าง 1,964 มม. สูง 1,747 มม. โดยที่มีระยะฐานล้อยาว 2,985 มม. ถูกระบุว่ามาพร้อมกับการใช้วัสดุเพื่อความยั่งยืนด้วยการที่รถหนึ่งคันมีการใช้เหล็กกล้ารีไซเคิล 15 เปอร์เซ็นต์ ใช้อลูมิเนียมรีไซเคิล 25 เปอร์เซ็นต์ ใช้พลาสติกรีไซเคิลรวมทั้งวัสดุที่มีพื้นฐานทางชีวภาพรวม 48 กิโลกรัม ซึ่งเท่ากับปริมาณพลาสติกประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์จากพลาสติกรวมทั้งหมดที่ใช้ใน EX90
Volvo ระบุว่า EX90 มีมาตรฐานความปลอดภัยสูงกว่าที่เคยมีมาในรถของตน มีการออกแบบระบบความปลอดภัยให้เข้าใจทั้งผู้อยู่ในรถและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพื่อทำให้คนที่อยู่ในรถและผู้อื่นที่ใช้ถนนร่วมด้วยมีความปลอดภัย รวมทั้งเมื่อเวลาผ่านไประบบความปลอดภัยในรถยังฉลาดขึ้นและปลอดภัยขึ้นได้ด้วยการเรียนรู้จากข้อมูลใหม่และการอัพเดต โดยรถมาพร้อมกับเทคโนโลยีการรับรู้ล่าสุด ที่มีการใช้เซ็นเซอร์ที่ล้ำหน้าอย่างกล้อง เรดาร์ และ Lidar เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์กลางประสิทธิภาพสูงซึ่งมี NVIDIA DRIVE รับหน้าที่ควบคุมการทำงานซอฟต์แวร์ที่ทาง Volvo พัฒนาเองภายในสำหรับสร้างการมองเห็นแบบเรียลไทม์ 360 องศา
ทาง Volvo ยังระบุว่าเซ็นเซอรืใน EX90 ได้ถูกปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวมสำหรับช่วยในการทำงานต่างๆ อย่าง Pilot Assist ที่มาพร้อมกับการช่วยควบคุมพวงมาลัยเมื่อเปลี่ยนเลน ขณะที่ Lidar ซึ่งมาจาก Luminar จะสามารถรู้สึกถึงถนนข้างหน้าได้ไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืนรวมทั้งเมื่อขับโดยความเร็วบนไฮเวย์ โดยสามารถมองเห็นวัตถุขนาดเล็กที่อยู่หลายร้อยเมตรข้างหน้าได้ ส่วนในห้องโดยสารของรถก็มีเทคโนโลยีที่ใช้ทั้งเซ็นเซอร์และกล้องเพื่อตรวจจับสมาธิและอาการง่วงหรืออาการที่ไม่สนใจการขับรถอื่นๆ ของผู้ขับ โดยจะมีการแจ้งเตือนผู้ขับ หรือแม้แต่หยุดรถและแจ้งขอความช่วยเหลือหากจำเป็น
นอกจากความปลอดภัยแล้ว Volvo ยังเน้นเทคโนโลยีในห้องโดยสาร ด้วยการใช้แพลตฟอร์ม NVIDIA DRIVE AI, Snapdragon Cockpit Platforms จาก Qualcomm Technologies และซอฟต์แวร์ที่พัฒนาเองเป็นระบบแกนหลัก เพื่อให้มีการตอบสนองมากขึ้นและมีคามเพลิดเพลินมากขึ้นในห้องโดยสาร โดยจอตรงกลางขนาด 14.5 นิ้วในห้องโดยสารมาพร้อมกับ Google Built-in ทำให้มีบริการและแอปป์ของ Google อย่าง Google Assistant และ Google Map รวมไปถึงแอปป์อื่นๆ ใน Google Play มาพร้อมกับรถ นอกจากนี้ยังรองรับ Apple CarPlay ไร้สาย มีการเชื่อมต่อ 5G เป็นอุปกรณ์มาตรฐานเพื่อให้ติดตั้งแอปป์บนหน้าจอได้งาย หรือแม้แต่การสตรีมเพลงได้อย่างไหลลื่นสำหรับการฟังผ่านระบบเสียงคุณภาพ Reference-Quality จาก Bowers & Wilkins ที่มีระบบเสียง Dolby Atmos และลำโพงที่พนักพิงศรีษะของเบาะ
EX90 ถูกเปิดตัวออกมาพร้อมกับการขับเคลื่อนทุกล้อโดยมี 2 มอเตอร์แยกอยู่ด้านหน้าและด้านหลังของรถ และแบตเตอรี 111 kWh สำหรับให้พลังงาน แต่มี 2 ระดับกำลังขับเคลื่อนให้เลือกระหว่างรุ่น Twin Motor ที่มีกำลัง 408 แรงม้า มีแรงบิดสูงสุด 770 นิวตัน-เมตร ใช้เวลา 5.9 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. เดินทางได้ 600 กิโลเมตรต่อการชาร์จ และรุ่น Twin Motor Performance ที่มีกำลังขับเคลื่อนมากขึ้นเป็น 517 แรงม้า มีแรงบิดสูงสุด 910 นิวตัน-เมตร ใช้เวลา 4.9 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. และใช้เวลา 4.9 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. และมีระยะการเดินทางต่อการชาร์จ 590 กิโลเมตร แต่ EX90 ทั้ง 2 รุ่นจะมีความเร็วสูงสุดเท่ากันที่ 180 กม./ชม.
แม้จะมาพร้อมกับมอเตอร์คู่ แต่เมื่อรถออกตัวจากหยุดนิ่งโดยที่มีการเร่งความเร็วไม่มากมอเตอร์หน้าจะรับหน้าที่ขับเคลื่อน และเมื่อมีการเร่งมากขึ้นทั้ง 2 มอเตอร์ของรถจะทำงานร่วมกัน อย่างไรก็ตามผู้ขับสามารถเลือกให้เป็นการขับเคลื่อนด้วยทุกล้อของรถได้ทันทีที่ต้องการ โดยที่มอเตอร์หลังของ EX90 ยังมาพร้อมกับชุด Torque Vectoring/Declutch เพื่อตัดการทำงานจากมอเตอร์ในขณะที่รถกำลังไหลเคลื่อนที่เพื่อลดการใช้พลังงาน นอกจากนี้ EX90 ยังมีเทคโนโลยี One Pedal Drive ที่มีการเก็บพลังงานจากการเบรกสำหรับชาร์จไฟเข้าสู่แบตเตอรี
ด้านการชาร์จไฟให้กับแบตเตอรี EX90 รองรับการชาร์จเร็วด้วยไฟกระแสตรง 250 kW ทำให้สามารถชาร์จไฟจาก 0-80 เปอร์เซ็นต์ด้วยเวลา 30 นาที โดยที่สามารถเดินทางได้เพิ่มขึ้น 180 กิโลเมตรเมื่อชาร์จแบบเร็ว 10 นาที นอกจากนี้รถยังมาพร้อมกับระบบ Bi-direction Charging และ Vehicle-to-grid ทำให้สามารถใช้เป็นแหล่งพลังงานไฟฟ้าสำหรับบ้าน ชาร์จอุปกรณ์อีเล็กทรอนิก หรือรถไฟฟ้าคันอื่นได้
Volvo ยังไม่ได้ระบุราคาของ EX90 ออกมา ส่วนการขายน่าจะเริ่มในปีหน้า เพราะทางผู้ผลิตรถยนต์จากสวีเดนบอกว่าจะเริ่มการผลิต EX90 ในช่วงต้นปีหน้าที่สหรัฐอเมริกา แล้วหลังจากนั้นก็จะมีการผลิตในจีน
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th