Wey Lanshan DHT-PHEV รถเอสยูวีปลั๊กอินไฮบริดดีไซน์ทันสมัยจาก GWM เตรียมลุยตลาดปีนี้
Wey ซึ่งเป็นแบรนด์รถเอสยูวีอีกแบรนด์ของ Great Wall Motor เป็นอีกรายที่มีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ออกมาในช่วงส่งท้ายปี 2022 โดยเป็นรถเอสยูวีรุ่นเรือธง 3 แถว 6 ที่นั่งในชื่อ Lanshan DHT-PHEV ที่มาพร้อมกับดีไซน์ทันสมัยและการขับเคลื่อนด้วยระบบปลั๊กอินไฮบริด
Wey Lanshan DHT-PHEV ถูกระบุว่าสร้างขึ้นจากการร่วมสร้างสรรค์ระหว่าง Wey และผู้ใช้รถเพื่อให้เป็นรถที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้และเป็นทางเลือกที่มาจากการฟังเสียงของผู้ใช้รถ โดยใช้ระยะเวลา 2 เดือนในการสำรวจความคิดเห็นจากเกือบ 160,000 คนและทำให้เกิดเกือบ 200 งานออกแบบ ส่งผลให้เกิดเป็นรถเอสยูวีที่ถูกตั้งชื่อภาษาจีนตามชื่อกาแฟ Blue Mountain ซึ่งเป็นกาแฟที่ได้รับความนิยมมากที่สุดชนิดหนึ่งของโลก
ตัวรถมีความยาว 5,156 มม. กว้าง 1,980 มม. สูง 1,805 มม. โดยมีระยฐานล้อยาว 3,050 มม. อยู่บนแพลตฟอร์มการขับ Coffee Intelligent Driving ของ Wey ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการขับที่มีพื้นฐานบนปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ที่รวมระบบค็อกพิตอินเตอร์แอคทีฟ พร้อมกับการขับแบบไฮบริด และการเชื่อมต่ออัจฉริยะเข้าด้วยกัน ขณะที่การออกแบบภายนอกของรถ ที่ด้านหน้ามาพร้อมความทันสมัยโฉบเฉี่ยวด้วยไฟหน้าแบบแยกโดยมีไฟแถบ Daytime Running Light ที่ขอบฝากระโปรงหน้า และกระจังหน้าแบบปิดที่มีโลโก้ของแบรนด์อยู่ตรงกลาง โดยที่กันชนหน้าของรถมาพร้อมกับช่องดักอากาศขนาดใหญ่
ส่วนด้านข้างของรถมาพร้อมกับความสมัยด้วยที่เปิดประตูแบบป็อป-อัพเรียบไปกับตัวรถ ตามสไตล์รุ่นรุ่นใหม่ๆ จากจีน เส้นสายที่เฉียบคมชัดเจน และล้อทูโทนลาย 5 แฉกขนาดใหญ่ที่ถูกออกแบบให้ลดแรงต้านอากาศ ในขณะที่ด้านหลังของรถมีไฟท้ายรูปตัววายพร้อมมีแถบไฟยาวเชื่อมต่อไฟท้ายทั้ง 2 ฝั่ง โดยมีสปอยเลอร์และไฟเบรกที่ปลายหลังคาของรถ
การขับเคลื่อนเป็นหน้าที่ของเครื่องยนต์ 1.5T ที่มีกำลัง 152 แรงม้า มอเตอร์ไฟฟ้า และแบตเตอรี 44.5 kWh ที่ให้กำลังขับเคลื่อนรวมเครื่องยนต์กับมอเตอร์ไฟฟ้า 510 แรงม้า ให้แรงบิดสูงสุด 953 นิวตัน-เมตร ใช้เวลา 4.9 วินาทีในการทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. โดยมีสื่อรถยนต์จีนรายงานว่ารถเอสยูวีปลั๊กอินไฮบริดรุ่นเรือธงของ Wey สามารถเดินทางโดยใช้เฉพาะพลังงานไฟฟ้าได้ไกลถึง 180 กิโลเมตร ขณะที่การเดินทางในแบบไฮบริดไปได้ไกลถึง 1,200 กิโลเมตร
แม้ทาง Wey ยังไม่เปิดเผยภาพห้องโดยสารออกมา แต่ถูกคาดการว่าน่าจะเริ่มทำตลาดในไตรมาสแรกของปี 2023 นี้ โดยมีราคาระหว่าง 350,000-400,000 หยวนหรือประมาณ 1,754,000-2,000,000 บาท
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th