Willy CJ-7 Dragster…จี๊ปซิ่ง วิ่งแดร็ก…
Greg Zoetmulder ในอดีตเมื่อวัย 15 ปี เขาคือหนุ่มวัยรุ่นอีกหนึ่งคนผู้ชื่นชอบรถยนต์ และความแรงแห่งเมืองชิคาโก โดยตั้งใจจะซื้อรถ Camaro ปี 1967 จากเพื่อนเพื่อจะนำมาโมดิฟายให้กลายเป็นรถแรงหัวแถวประจำถิ่น แต่แล้วความคิดเขาก็เปลี่ยนไป เมื่อผู้เป็นพ่อได้พาไปพบกับ Jeep CJ-7 ปี 1980 แล้วไอเดียบรรเจิด ก็เกิดขึ้นทันที…
โครงการ “จับจี๊ป มาวิ่งแดร็ก” ของ Zoetmulder ก็ได้เริ่มขึ้นตั้งแต่สมัยเป็นวัยรุ่น กับเครื่องยนต์ V8 บล็อก 350 ซึ่งค่อยๆแต่งทำนู่น เสริมนี่เรื่อยมา จนมีอัตราเร่งควอเตอร์ไมล์อยู่ที่ 12.70 วินาที กับความเร็วที่ปลายเส้นกว่า 105 ไมล์ต่อชั่วโมง ต่อมาในปี 1996 ก็เปลี่ยนมาใช้บล็อกใหญ่ขึ้นเป็น 406 ทำเวลาดีขึ้นเป็น 11 วินาที และไม่ว่ารถจะแรงเร็วแค่ไหน ความปลอดภัยในการขับขี่ก็ต้องมีเช่นกัน จึงได้ติดตั้งโรลบาร์เข้าช่วยเสริมความแข็งแรงของห้องโดยสาร จากนั้นทำการอัพเกรดระบบไนตรัสให้มีขนาดใหญ่ขึ้น โดยนำไปทดสอบที่ Gateway Motorsports Park ในเมืองเซนต์หลุยส์ รัฐมิสซูรี ที่ที่เขาสร้างสถิติทำเวลาได้ 9 วินาทีเป็นครั้งแรก และเมื่อเข้าสู่ปี 2000 Zoetmulder คิดที่จะทำในสิ่งที่แตกต่างไปจากเดิม เขาเปลี่ยนมาใช้เครื่อง 427 Dart Iron Eagle กับการโมดิฟายใส่ของแต่ง เพิ่มแรงม้าอีกมากมาย จนอยากจะรู้ว่าสิ่งที่ทำลงไป จะให้ผลดีมากน้อยเพียงไร จึงได้นำรถเข้าร่วมแข่งในงาน NMCA True Street ในเมือง Cordova ผลที่ได้ออกมาถึงแม้จะไม่ได้เป็นรถที่วิ่งที่เร็วที่สุด แต่ก็อยู่ในจุดที่น่าพอใจ โดยสามารถคว้ารองอันดับหนึ่งมาได้ แต่อีก 3 ปีให้หลัง เขาพาจี๊ปซิ่งลงแข่งอีกครั้งที่ Memphis แล้วก็สอยตำแหน่งแชมป์มาได้อย่างที่ต้องการ…
หลังจากนั้นก็ได้มีการเปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์ AES 406 นำมาลดกำลังอัดเพื่อจัดซุปเปอร์ชาร์จของ F-2 มาช่วยสูดอากาศเข้าคาร์บูเรเตอร์จาก CSU ที่ช่วยให้รถ Jeep คันนี้มีกำลังถึง 800 แรงม้าเลยทีเดียว ความสามารถคงอยู่ในระดับนี้ช่วงระยะหนึ่ง ก่อนที่ Zoetmulder จะตัดสินใจเอารถลงสนามในปี 2007 และกลับมาให้ความสนใจตัวบอร์ดี้รถยนต์ เขาติดตั้งด้านข้างใหม่ quarter ใหม่ เดินสายไฟใหม่ และปรับปรุงช่วงล่างใหม่หมดเป็นแบบ 4 Links ตามสไตล์รถแรง จากนั้นก็เริ่มแต่งบอดี้ด้วยสี Tangerine Orange โดย Brian แห่ง Custom Classics Autobody เมืองไอส์แลนเลค รัฐอิลลินอยส์ เป็นผู้จัดการให้
แล้ว Jeep CJ-7 คันเก๋าก็สามารถทำเวลาอย่างที่ต้องการ แต่ก็คงถึงจุดอิ่มตัว Zoetmulder จึงหยุดพักในปี 2010 เปลี่ยนบรรยากาศหันไปควบสองล้อวีทวินอย่าง Harley Davidson ดูบ้าง หลังจากการพักผ่อน ขี่ช็อปเปอร์รับส่งสาวๆ ไปเรื่อย เขาก็หันกลับสู่ถนนสายสี่ล้อในปี 2014 และจับเครื่องยนต์อีกครั้งในปี 2015 ด้วยการสอยเครื่องยนต์จาก AES มาใหม่และอัพระบบด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และกำลังเป็นที่นิยม
อย่างไรก็ตามสุดท้ายโปรเจคแต่งรถนี้ก็เหมือนกับโปรเจคอื่นๆ คือมันไม่มีวันสิ้นสุด ปัจจุบันเขายังคงพึ่งเครื่องยนต์ 408 ci กับชุดเกียร์ซิ่งเพื่อการแข่งขันจาก DRC Transmissions โดยใช้เสื้อเกียร์ Turbo 400 กับชุดทอร์คคอนเวอร์เตอร์สร้างใหม่ขนาด 10 นิ้ว เพลาหน้าเดิมของ Dana ถูกถอดออกเป็นขับสองล้อหลัง ส่วนเพลาหลังใช้ของฟอร์ดขนาด 9 นิ้ว กับเฟืองท้ายขนาด 3.50:1 กับของแต่งจาก Strange Engineering เมื่อวัดด้วยไดโน่ที่ AMS จะเห็นว่ารถสามารถผลิตกำลังได้สูงถึง 1,480 แรงม้า กับแรงบิด 1,029 ปอนด์-ฟุต ซึ่งไม่ใช่เรื่องธรรมดาสำหรับรถจี๊ปอย่างแน่นอน…
เรียบเรียง : Sliff
แปล : กานดารัตน์ จิตมณี
ขอบคุณภาพ / ข้อมูล : www.hotrod.com
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th