Jeep Wrangler ปรับโฉมเปลี่ยนกระจังหน้าและจอในห้องโดยสาร
Jeep ทำการปรับโฉมให้กับ Wrangler เจเนเรชันที่ 4 หรือรุ่น JL หลังจากที่รถออฟโรดรุ่นนี้ขายมา 5 ปีนับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2017 โดยมีทั้งการปรับที่ภายนอกรถเปลี่ยนกระจังหน้าใหม่ และเพิ่มความทันสมัยขึ้นในห้องโดยสารด้วยจอทัชสกรีนขนาดใหญ่ขึ้น
ภายนอกของ Jeep Wrangler รุ่นปรับโฉมมีการเปลี่ยนกระจังหน้า 7 ช่องซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ใหม่ โดยมีขนาดเล็กลงกว่าเดิม และมีเฉพาะขอบรอบกระจังหน้าที่เป็นสีเดียวกับตัวรถในขณะที่ช่องกระจังหน้าเป็นสีดำ ซึ่งทางผู้ผลิตรถออฟโรดอเมริกันบอกว่ากระจังหน้าใหม่ไม่ได้แค่ทำให้รถดูสดใหม่ขึ้นเท่านั้นแต่ยังช่วยนำอากาศเย็นเข้าสู่เครื่องยนต์ได้ดีขึ้นด้วย โดยหากเป็นรุ่น Rubicon ยังเลือกติดวินซ์ 8,000 ปอนด์จาก Warn มาพร้อมกับรถจากโรงงานได้
นอกจากเปลี่ยนกระจังหน้าใหม่แล้วรถออฟโรดรุ่นใหม่ยังมีทางทางเลือกของล้อขนาดตั้งแต่ 17 ถึง 20 นิ้ว และยางขนาด 32 ถึง 35 นิ้วขึ้นอยู่กับแพกเก็จแต่งที่เลือก นอกจากนี้ยังมีออฟชันหลังคาใหม่ทั้งหลังคาแข็งและหลังคาอ่อน โดยที่หากเป็นรุ่นแต่ง High Altitude จะมีหลังคาไฟฟ้า Sky One-Touch เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และรถรุ่นใหม่ยังถูกเสริมแอโรไดนามิกด้วยเสาอากาศที่อยู่รวมกับกระจกหน้าของรถแทนเสาอากาศแบบเดิม
ส่วนห้องโดยสารจะพบความเปลี่ยนแปลงได้จากจอทัชสกรีนตรงกลางใหม่ขนาด 12.3 นิ้วซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถทั้งหมด โดยการมีจอขนาดใหญ่ขึ้นทำให้ต้องมีการย้ายตำแหน่งและออกแบบช่องระบบปรับอากาศตรงกลางตามไปด้วย ขณะที่ส่วนอื่นๆ ในห้องโดยสารยังคงเหมือนเดิม
อย่างไรก็ตามรถออฟโรดรุ่นใหม่มาพร้อมกับไกด์ดิจิตอล Trails Offroad ซึ่งมีเส้นทางออฟโรดที่โด่งดังมาพร้อมกับระบบ Infotainment Uconnect 5 ของรถ โดยจะแสดงเส้นทางออฟโรดบนจอและแสดงข้อมูลสำคัญของเส้นทางอย่างจุดที่น่าสนใจ ความยากของเส้นทาง แต่หากจ่ายเงินใช้บริการ Premium Subscription ก็จะมีข้อมูลเส้นทางให้ดูเพิ่มขึ้นมากกว่า 3,000 เส้นทาง
Wranglerใหม่ยังมีเกรดแต่งใหม่ในรถรุ่นต่างๆ เข้ามาให้เลือกอย่าง Sport S 4xe ซึ่งเป็นเกรดที่ลดสเปกแต่งลงของรุ่นปลั๊กอินไฮบริด หรือ Rubicon X ที่เพิ่มทั้งอุปกรณ์และความสามารถในการลุยมากขึ้นอย่างยางขนาด 35 นิ้ว กันชนเหล็กกล้า เบาะหน้าปรับไฟฟ้า 12 ทิศทาง เบาะหนัง Nappa และระบบเสียงสเตริโอพร้อมลำโพง 9 ตัวจาก Alpine อย่างไรก็ตามรุ่น Rubicon ทั้งหมดจะมีเพลาหลัง Dana 44 HD Full Float มาพร้อมกับรถ
ด้านระบบขับเคลื่อนยังคงไม่เปลี่ยนไปจากก่อนปรับโฉมที่มีทั้งเครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบ เครื่องยนต์ V6 3.6 ลิตร เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบพร้อมระบบปลักอินไฮบริด รวมทั้งเครื่องยนต์ Hemi V8 6.4 ลิตรใน Rubicon 392 โดยทุกเครื่องยนต์มาพร้อมกับระบบส่งกำลังอัตโนมัติ 8 สปีด แต่เครื่องยนต์ 4 สูบและ V8 จะมีระบบส่งกำลังแมนนวล 6 สปีดให้เลือกด้วย
ทาง Jeepนำ Wranglerใหม่ไปโชว์ให้ดูในงานนิวยอร์กออโตโชว์ 2023 ตั้งแต่วันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมาแล้ว แต่ยังไม่เปิดเผยราคาออกมา
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th