Xiaomi SU7 Series ตั้งเป้าขาย 120,000 คันภายในปี 2567
Xiaomi SU7 Series ส่งมอบถึงมือลูกค้าแล้วเกือบสามหมื่นคัน พร้อมเร่งโรงงานผลิตและขยายศูนย์บริการในจีนหลังจากมีคำสั่งซื้อจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง
เสียวหมี่ คอร์เปอเรชัน บริษัทด้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อผู้บริโภคและอุตสาหกรรมการผลิตอัจฉริยะด้วยการเป็นผู้นำด้านสมาร์ทโฟนและสมาร์ทฮาร์ดแวร์ที่เชื่อมต่อบนแพลตฟอร์ม Internet of Things (IoT) เผยผลการดำเนินงานไม่สอบทานสำหรับสามเดือน สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 (“ไตรมาส 2 ปี 2567” หรือ “ช่วงเวลาดังกล่าว”)
เสียวหมี่รายงานการเติบโตของรายรับเป็นตัวเลขสองหลักจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า (YoY) เป็นไตรมาสที่สามติดต่อกันในไตรมาส 2 ปี 2567 โดยมีรายรับอยู่ที่ 88.9 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 32% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า กำไรสุทธิที่ปรับแล้วอยู่ที่ 6.2 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 20.1% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
โดยเฉพาะรายรับจากธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะและโครงการใหม่ๆ อื่นๆ มีมูลค่ารวม 6.4 พันล้านหยวน ผลงานโดยรวมของกลุ่มธุรกิจเกินความคาดหมาย ถือเป็นก้าวใหม่ของการเติบโตอย่างก้าวกระโดด
ในไตรมาส 2 เงินสดของเสียวหมี่พุ่งสูงถึง 141 พันล้านหยวน ณ วันที่ 30 มิถุนายน ซึ่งถือเป็นรากฐานที่สำคัญสำหรับการพัฒนาธุรกิจหลักและธุรกิจใหม่ๆ อย่างยั่งยืน และช่วยสนับสนุนการเติบโตอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องของบริษัท ซึ่งขับเคลื่อนโดยการลงทุนอย่างต่อเนื่องในเทคโนโลยีหลักพื้นฐาน เทคโนโลยี AI ของเสียวหมี่ช่วยส่งเสริมการพัฒนาธุรกิจของบริษัทอย่างเห็นได้ชัด
โดยช่วยเพิ่มขีดความสามารถของผลิตภัณฑ์และประสบการณ์อัจฉริยะในสมาร์ทโฟนและรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะของเสียวหมี่ ขณะเดียวกันก็เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานของโรงงานอัจฉริยะของเสียวหมี่ การพัฒนาระบบนิเวศอัจฉริยะ “Human x Car x Home” ของเสียวหมี่คาดว่าจะช่วยกระตุ้นธุรกิจของบริษัทและเสริมสร้างความยั่งยืนของการเติบโตในอนาคต
ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะเติบโตเกินคาดด้วยยอดส่งมอบกว่า 27,000 คันในไตรมาส 2
นับตั้งแต่เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะรุ่นแรกของเสียวหมี่ คือ Xiaomi SU7 ผลการตอบรับในท้องตลาดก็เกินความคาดหมายเป็นอย่างมาก ในไตรมาส 2 รายรับจากธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะและโครงการใหม่ๆ อื่นๆ สูงถึง 6.4 พันล้านหยวน กลุ่มธุรกิจเร่งผลิตและส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ Xiaomi SU7 Series อย่างต่อเนื่อง
ในไตรมาส 2 รถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ Xiaomi SU7 ส่งมอบได้ 27,307 คัน โดยมียอดส่งมอบต่อเดือนเกิน 10,000 คันเป็นเวลา 2 เดือนติดต่อกัน การเพิ่มขึ้นของกำลังการผลิตนั้นแซงหน้าคู่แข่ง และแสดงให้เห็นถึงขีดความสามารถทางการแข่งขันที่แข็งแกร่ง
ตั้งแต่เดือนมิถุนายน โรงงานรถยนต์ไฟฟ้าของเสียวหมี่ได้เริ่มดำเนินการแบบสองกะ โดยมีเป้าหมายที่จะบรรลุเป้าหมายของกลุ่มธุรกิจในการส่งมอบรถยนต์ 100,000 คันภายในเดือนพฤศจิกายนก่อนกำหนด
นอกจากนี้ บริษัทยังตั้งเป้าที่จะส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ Xiaomi SU7 จำนวน 120,000 คันภายในปี 2567 อีกด้วย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 เสียวหมี่ได้เปิดศูนย์จำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ 87 แห่งในจีนแผ่นดินใหญ่ เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของคำสั่งซื้ออย่างต่อเนื่อง พร้อมกับมอบการปกป้องรถยนต์ระดับมืออาชีพที่ครบครันให้กับผู้ใช้งาน
เงินสดที่เพียงพอของกลุ่มธุรกิจทำให้ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะของเสียวหมี่สามารถรักษาโฟกัสที่เทคโนโลยีและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ไว้ได้ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงในท้องตลาด สิ่งนี้ช่วยเพิ่มอิทธิพลและความสามารถในการแข่งขันหลักของบริษัท
นอกจากนี้ เสียวหมี่ยังคงเพิ่มพูนความสามารถในการวิจัยด้วยตนเองในเชิงลึกอย่างต่อเนื่อง และบรรลุความก้าวหน้า และการพัฒนาใหม่ๆ ในเทคโนโลยีหลักที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผลิตภัณฑ์ได้อย่างมีนัยสำคัญ ในเดือนกรกฎาคม 2567 กลุ่มธุรกิจได้เปิดตัวต้นแบบ Xiaomi SU7 Ultra และประกาศแผนที่จะทำสถิติเวลาต่อรอบที่โดดเด่นที่สนาม Nürburgring Nordschleife ในเดือนตุลาคม โดยมีเป้าหมายในการเป็นรถยนต์ไฟฟ้าสี่ประตูที่เร็วที่สุดในสนามภายในทศวรรษหน้า
พร้อมเสริมศักยภาพให้กับระบบนิเวศอัจฉริยะ “Human x Car x Home” ของเสียวหมี่อย่างเต็มกำลัง ช่วยขับเคลื่อนให้เกิดการเติบโตของตลาดระดับพรีเมียม
กลุ่มธุรกิจยังคงนำ AI มาใช้เพื่อปรับปรุงระบบนิเวศอัจฉริยะ “Human x Car x Home” ในไตรมาส 2 การลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาของเสียวหมี่ยังคงขยายตัว โดยมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 5.5 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 20.7% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า เทคโนโลยี AI ของเสียวหมี่ได้ช่วยพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะในภาคส่วนรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ เทคโนโลยีนี้ถูกนำไปใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยให้การสนับสนุนทางเทคนิคที่แข็งแกร่งสำหรับระบบ Autopilot ระบบจอดรถอัตโนมัติ และการโต้ตอบด้วยเสียงผ่านผู้ช่วย AI ของเสียวหมี่
เรื่อง : ณัฐพล จีระมงคลกุล
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th
สำหรับผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟน เสียวหมี่ได้ปรับปรุงความสามารถในการจดจำและทำความเข้าใจแบบหลากหลายโหมดของผู้ช่วย AI โดยมอบฟีเจอร์ต่างๆ มากมายให้กับผู้ใช้ อาทิ การวิเคราะห์เอกสารด้วย AI และการสร้างวิดีโอด้วย AI นวัตกรรมเหล่านี้ล้วนช่วยสนับสนุนการเติบโตของเสียวหมี่ในตลาดระดับพรีเมียม
ตามข้อมูลของบุคคลที่สาม ในไตรมาส 2 ปี 2567 สมาร์ทโฟนพรีเมียมของเสียวหมี่รุ่นที่มีราคาตั้งแต่ 3,000 หยวนขึ้นไปมีสัดส่วนคิดเป็น 22.1% ของยอดจัดส่งสมาร์ทโฟนทั้งหมดในจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งเพิ่มขึ้น 2.0 จุดเปอร์เซ็นต์จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า ส่วนแบ่งการตลาดของสมาร์ทโฟนในกลุ่มราคา 3,000 ถึง 4,000 หยวน, 4,000 ถึง 5,000 หยวน และ 5,000 ถึง 6,000 หยวน อยู่ที่ 16.8%, 20.1% และ 8.9% ตามลำดับ ซึ่งทั้งหมดล้วนมีการเติบโตจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า
เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม เสียวหมี่ได้เปิดตัวอุปกรณ์พับได้รุ่นเรือธงรุ่นใหม่ Xiaomi MIX Fold 4 พร้อมด้วยอุปกรณ์พับได้ขนาดกะทัดรัดรุ่นแรก Xiaomi MIX Flip ในจีนแผ่นดินใหญ่ ประสิทธิภาพของสมาร์ทโฟนพับได้ทั้งสองรุ่นนั้นเหนือความคาดหมายเป็นอย่างมาก และช่วยเพิ่มชื่อเสียงของเสียวหมี่ในตลาดพรีเมียม Xiaomi MIX Flip ได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากจากดีไซน์พับได้อันเป็นเอกลักษณ์และนวัตกรรมใหม่ [หน้าจอด้านนอกขนาด 4.01 นิ้วพร้อมความสามารถในการแปลแบบออฟไลน์ด้วย AI]