Yamaha Motor และกลุ่มบริษัทในเครือ ร่วมปลูกป่า สู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน
Yamaha Motor และกลุ่มบริษัทในเครือ ร่วมปลูกป่า สู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด นำโดย มร.ทัตสึยะ โนซากิ ประธานกรรมการบริหาร นายพงศธร เอื้อมงคลชัย รองประธานกรรมการบริหาร พร้อมคณะผู้บริหารระดับสูง
และผู้บริหารกลุ่มบริษัทในเครือยามาฮ่ามอเตอร์จำกัด ร่วมกันปลูกต้นไม้จำนวน 160,000 ต้น ภายใต้กิจกรรม “ยามาฮ่า ปลูกป่ามุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ” สร้างผืนป่าบนพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมกว่า 800 ไร่ ณ อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวสร้างอากาศบริสุทธิและลดภาวะโลกร้อน ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์รายแรกของประเทศไทยที่เข้าร่วมโครงการด้วยความสมัครใจ โดยมีเป้าหมายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี พ.ศ.2593 (ค.ศ.2050) Yamaha Motor
โดย ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ มีความมุ่งมั่นในการให้ความสำคัญในการลดภาวะโลกร้อน รวมถึงลดภาระทางสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุดตามนโยบาย SDGs 17 ขององค์การสหประชาชาติ ทั้งยังมีแผนที่จะขยายการสร้างพื้นที่ป่าให้ครบ 1,500 ไร่ ด้วยการส่งเสริมการมีส่วนร่วมกับชุมชนในพื้นที่ และเพิ่มโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนอย่างแท้จริง
สำหรับกิจกรรม “ยามาฮ่า ปลูกป่ามุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ” มีขึ้นในวันที่ 1 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา โดยได้รับความร่วมมือจาก จังหวัดกำแพงเพชร ทั้งภาครัฐ และภาคประชาสังคม กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th
บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด นำโดย มร.ทัตสึยะ โนซากิ ประธานกรรมการบริหาร นายพงศธร เอื้อมงคลชัย รองประธานกรรมการบริหาร พร้อมคณะผู้บริหารระดับสูง และผู้บริหารกลุ่มบริษัทในเครือยามาฮ่ามอเตอร์จำกัด ร่วมกันปลูกต้นไม้จำนวน 160,000 ต้น ภายใต้กิจกรรม “ยามาฮ่า ปลูกป่ามุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ” สร้างผืนป่าบนพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมกว่า 800 ไร่ ณ อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวสร้างอากาศบริสุทธิและลดภาวะโลกร้อน ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์รายแรกของประเทศไทยที่เข้าร่วมโครงการด้วยความสมัครใจ โดยมีเป้าหมายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี พ.ศ.2593 (ค.ศ.2050)
โดย ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ มีความมุ่งมั่นในการให้ความสำคัญในการลดภาวะโลกร้อน รวมถึงลดภาระทางสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุดตามนโยบาย SDGs 17 ขององค์การสหประชาชาติ ทั้งยังมีแผนที่จะขยายการสร้างพื้นที่ป่าให้ครบ 1,500 ไร่ ด้วยการส่งเสริมการมีส่วนร่วมกับชุมชนในพื้นที่ และเพิ่มโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนอย่างแท้จริง
สำหรับกิจกรรม “ยามาฮ่า ปลูกป่ามุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ” มีขึ้นในวันที่ 1 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา โดยได้รับความร่วมมือจาก จังหวัดกำแพงเพชร ทั้งภาครัฐ และภาคประชาสังคม กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด นำโดย มร.ทัตสึยะ โนซากิ ประธานกรรมการบริหาร นายพงศธร เอื้อมงคลชัย รองประธานกรรมการบริหาร พร้อมคณะผู้บริหารระดับสูง และผู้บริหารกลุ่มบริษัทในเครือยามาฮ่ามอเตอร์จำกัด ร่วมกันปลูกต้นไม้จำนวน 160,000 ต้น ภายใต้กิจกรรม “ยามาฮ่า ปลูกป่ามุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ” สร้างผืนป่าบนพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมกว่า 800 ไร่ ณ อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวสร้างอากาศบริสุทธิและลดภาวะโลกร้อน ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์รายแรกของประเทศไทยที่เข้าร่วมโครงการด้วยความสมัครใจ โดยมีเป้าหมายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี พ.ศ.2593 (ค.ศ.2050)
ดย ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ มีความมุ่งมั่นในการให้ความสำคัญในการลดภาวะโลกร้อน รวมถึงลดภาระทางสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุดตามนโยบาย SDGs 17 ขององค์การสหประชาชาติ ทั้งยังมีแผนที่จะขยายการสร้างพื้นที่ป่าให้ครบ 1,500 ไร่ ด้วยการส่งเสริมการมีส่วนร่วมกับชุมชนในพื้นที่ และเพิ่มโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนอย่างแท้จริง
สำหรับกิจกรรม “ยามาฮ่า ปลูกป่ามุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ” มีขึ้นในวันที่ 1 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา โดยได้รับความร่วมมือจาก จังหวัดกำแพงเพชร ทั้งภาครัฐ และภาคประชาสังคม กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
โดย ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ มีความมุ่งมั่นในการให้ความสำคัญในการลดภาวะโลกร้อน รวมถึงลดภาระทางสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุดตามนโยบาย SDGs 17 ขององค์การสหประชาชาติ ทั้งยังมีแผนที่จะขยายการสร้างพื้นที่ป่าให้ครบ 1,500 ไร่ ด้วยการส่งเสริมการมีส่วนร่วมกับชุมชนในพื้นที่ และเพิ่มโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนอย่างแท้จริง
เสื่อมโทรมกว่า 800 ไร่ ณ อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวสร้างอากาศบริสุทธิและลดภาวะโลกร้อน ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์รายแรกของประเทศไทยที่เข้าร่วมโครงการด้วยความสมัครใจ โดยมีเป้าหมายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี พ.ศ.2593 (ค.ศ.2050)