การขับรถในบางครั้ง เกิดการ “เหยียบคันเร่งสุด” ในขณะแซง หรือ ต้องการกำลังสูงสุด แล้วเกิด “คันเร่งค้าง” อาจจะติด “พรมหรือผ้ายางปูพื้น” ยกเท้าขึ้นมาแล้ว แต่รถก็ยังพุ่งไปอย่างต่อเนื่อง ก็จะเกิดอาการ “ลนลาน” ตกใจ และพาลจะทำให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรงได้ แล้วถ้าเกิดเคสนี้ เรา “ต้องทำอย่างไร” ถึงจะรอดพ้นจากสถานการณ์ตรงนี้ได้…

ตั้งสติ ใส่เกียร์ว่าง

ผมเชื่อเลยครับ ว่าถ้าคนที่ไม่เคยเจอคันเร่งค้าง ส่วนมากก็จะตกใจลนลาน ทำอะไรไม่ถูก ก่อนอื่นให้ตั้งสติก่อน แล้ว “ใส่เกียร์ว่าง” ตำแหน่ง N อย่าลนลานยัดเกียร์ซี้ซั้วนะครับ เท่านี้ ก็เป็นการตัดกำลังจากเครื่องยนต์แล้ว หรือ เกียร์ธรรมดา ก็ “เหยียบคลัตช์” ก่อนอื่น แล้วค่อยใส่เกียร์ว่าง แต่สำหรับรถยุคใหม่ ก็จะมีฟังก์ชัน Safety ในกรณีนี้อยู่แล้ว ก็คือ เมื่อมีการเหยียบคันเร่งพร้อมกับการเบรก ระบบจะตัดการทำงานจากเครื่องยนต์ทันที เป็นการป้องกันเหตุนี้เอง…

อย่าดับเครื่อง จะกลายเป็นดับชีวิต

สิ่งที่เป็นปกติของสัญชาตญาณมนุษย์ เมื่อเราใส่เกียร์ว่าง เครื่องยนต์จะเร่งตัวเปล่าจนถึงรอบสูงสุด ซึ่งเป็นเสียงที่ชวนตกใจ แต่ในรถสมัยนี้ ถ้าเกียร์ว่าง กล่องจะสั่งตัดรอบไม่สามารถเร่งถึงรอบสูงสุดได้ ก็จะคลายความน่ากลัวลงไปหน่อย ซึ่งหลายคนก็พยายามจะ “ดับเครื่องยนต์” ด้วยความตกใจและมือพาไป แต่อย่างไรก็ตาม “ห้ามดับเครื่องเด็ดขาด” จำไว้เลยนะจ๊ะ !!! เพราะเหตุใดกัน…

ถ้าคุณดับเครื่อง สิ่งที่จะตามมาหลายประการ ก็คือ “พวงมาลัยและเบรกจะแข็ง” เนื่องจากระบบเพาเวอร์พวงมาลัย และ หม้อลมเบรก ไม่ทำงาน จะยิ่งทำให้ควบคุมรถไม่ได้ เบรกก็ไม่ได้ เลี้ยวก็หนัก ก็ได้ “ตำแหลก” แน่นอน ให้ตั้งสติ ทวนอีกครั้ง ใส่เกียร์ว่างก่อน เครื่องจะเร่งเสียงดังอะไรก็ปล่อยมัน มันไม่พังหรอกครับ เพราะกล่องมันตัดรอบอยู่ หน้าที่ของคุณ คือ “ควบคุมรถเข้าจอดในที่ปลอดภัย” เป็นหลัก เท่านั้นพอ…

ป้องกันเหตุคันเร่งค้างดีกว่า

สาเหตุที่ทำให้เกิดคันเร่งค้าง ก็มีหลายอย่าง เช่น…

• สายคันเร่งเก่า ฝืด ขัด : ก็จะเป็นกับรถรุ่นเก่าหน่อย ที่ใช้คันเร่งแบบ “สายเคเบิล” ดึง พอเก่าๆ ไปก็จะเกิดการ ฝืด รู้สึกขัดๆ อันนี้ “เปลี่ยนของใหม่โดยด่วน” เพราะนอกจากจะทำให้ “หนักเท้า” ขับยาก อันตราย เพราะถ้ากดเบารถก็เร่งไม่ไป พอกดแรงมันก็จะพรวดพราดเลย และเสี่ยงกับคันเร่งค้างได้ง่าย สายคันเร่งไม่แพงใช่ไหม ถ้าเทียบกับรถและชีวิตคุณ…
• ใส่พรมหรือผ้ายางปูพื้นที่หนาเกินไป : เจอประจำครับ บางคันใส่หนามากๆ ก็ไม่รู้ทำไม พอหนาเกินไปแล้วเหยียบคันเร่งจม ตอนยกขึ้นมาก็จะติดแป้นคันเร่งแบบนี้แหละ หรือบางที “วางตำแหน่งไม่เข้าที่” มันก็จะไปเกยๆ ย่นๆ เป็นเรื่องได้เช่นกัน เพราะฉะนั้น ควรใช้ของที่มีความหนาเท่ากับของเดิม และ จัดตำแหน่งให้ถูกต้อง รถสมัยใหม่ก็จะมี “หมุดยึด” ตัวผ้ายางปูพื้นเพื่อกันมันเลื่อน เราต้องใส่ให้ถูกต้องครับ…
• วางของเกะกะพื้น : เยอะแยะเลย รองเท้า ขวดหรือกระป๋องน้ำ กินไม่ทิ้งไม่พอ ดันเอาไปวางไว้ที่พื้นคนขับ พอมันกลิ้งไปกลิ้งมา ก็ไปขัดกับคันเร่ง หรือไม่ก็ “ขัดใต้แป้นเบรก” ก็เกิดเหตุกันมาเยอะแยะ ให้จำไว้ว่า ตรงพื้นวางเท้าคนขับ ห้ามวางของใดๆ ทั้งสิ้น หรือแม้แต่พื้นด้านหลังคนขับก็ห้าม เพราะมีโอกาสที่มันจะกลิ้งลอดใต้เบาะมาด้านหน้าได้เช่นกัน…

เรื่อง คันเร่งค้าง เกิดขึ้นได้เสมอ ไม่เลือกว่ารถเก่าหรือใหม่ แพงหรือถูก มันก็เกิดจากสาเหตุที่เราอาจจะไม่คาดคิดขึ้นมาก่อน และถ้า “สติแตก” ก็จะยิ่งทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงถึงชีวิตได้ เราควรจะ “กันไว้ดีกว่าแก้” คอยหมั่นสังเกตว่ามีอะไรที่จะไปขัดกับคันเร่งหรือเบรกไหม พยายามเคลียร์บริเวณผู้ขับให้โล่ง ไม่ให้มีวัตถุใดๆ ไปขัดกับคันเร่งได้ แล้วคุณจะปลอดภัยครับ…

เรื่อง : อินทรภูมิ์ แสงดี

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th