คาราวานมาสด้าพิชิตแสงเหนือ วันแรกถึงสวีเดน
โปรเจ็กซ์สุดขั๋วกลับมาอีกครั้ง เมื่อ มาสด้า ประเทศไทย ประเทศการเดินทางครั้งใหม่ในปี 2018 สานต่อความสำเร็จจากทริปเมื่อ 2 ปีก่อน ที่พาสื่อไทยไปตะลุยขับไกลข้ามทวีปถึงรัสเซีย ในปีนี้ มาสด้า ตั้งเป้าลุยสแกนดินีเวีย สร้างบันทึกประสบการณ์สุดขั๋วอีกหน กับการขับรถไกลที่สุดเพื่อพิสูจน์สมรรถนะทั้งคนและรถ ในชื่อตอน “สกายแอคทีฟพาไปล่าแสงเหนือ” งานนี้ทีมงานฯ เตรียมงานกันนานนับปี จนประกาศรายชื่อผู้ร่วมเดินทาง และกรังด์ปรีซ์เราก็ไม่พลาดที่จะตามติดรายงานผลกันแบบสดๆ ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน ที่ผ่านมา
- สภาพเส้นทางไม่เหนื่อยมากรอบนี้ แต่ต้องวิ่งตามกฏความเร็วที่กำหนด เหมือนมอเตอร์เวบ้านเรา
การเดินทางในครั้งนี้ แบ่งเป็นสองกลุ่ม เพื่อความคล่องตัว กลุ่มแรกจะเริ่มจากกรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ไปยังกรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน และข้ามเรือเฟอร์รี่ไปยังประเทศฟินแลนด์ และมุ่งหน้าไปบรรจบเส้นทางกับกลุ่มที่สองที่เมืองฮอนนิงสวัก ประเทศนอร์เว โดยใช้รถยนต์ Mazda CX-5 รุ่นดีเซลตลอดทริ๊ปทั้งหมด 9 คัน
- มีแผนที่นำทาง พร้อมบอกระยะจุด POI อย่างแม่นยำล่วงหน้าตั้ง 3 จุด
- ช่วงนี้เหมือนผ่านลำตะคองบ้านเราเป๊ะๆ
ล่าสุดเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 กันยายน ขบวนของ Mazda Passion Drive to the New Horizon ได้มาถึงกรุงสตอกโฮล์มเป็นที่เรียบร้อยนำโดยคุณธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารฝ่ายการตลาด และรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมด้วยสื่อมวลชนกลุ่มแรกบินลัดฟ้าจากไทยมาลงที่กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก โดยใชเวลาบินกว่า 10 ชม. จากนั้นผ่านขั้นตอนผ่านแดน มาพบกับทีมงานมาสด้าที่เตรียมรถมาพร้อมบรรยายสรุปการเดินทางสั้นๆ ด้วยเหตุผลด้านสภาพอากาศทำให้รถที่ขนส่งมาจากไทยทางเรือยังเดินทางมาไม่ได้ตามกำหนดเพราะเรือติดพายุไม่มีกำหนด ทำให้ทีมงานต้องเร่งปรับเปลี่ยนแผน หารถในท้องถิ่นมาใช้แทน ไม่เช่นนั้นงานที่เตรียมมานับปีต้องเลื่อนไปไม่มีกำหนด ซึ่งแน่นอนว่าความไม่ธรรมดาที่ต้องปรับตัวคือรถพวงมาลัยซ้ายนั้นเอง! โดยได้เป็น Mazda CX-5 มาประจำการฝูงบินทั้งหมด ซึ่งมีออปชันต่างจากไทยหลักๆ คือเบาะที่มีฮีทเตอร์ และจากเดิมที่จะมีน้องเล็กอย่าง Mazda2 และพี่ใหญ่ BT-50 Pro มาร่วมเดินทางด้วย ต้องยกเลิกไป แต่สำหรับทีมขับสื่อมวลชนจากไทยไม่มีปัญหาพร้อมท้าทายทุกอุปสรรค
และวันแรกภารกิจได้สำเร็จลุล่วงเป็นที่เรียบร้อย กับระยะทาง 660 กม. ซึ่งต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงเพราะความเร็วตามกฏหมายของสวีเดนกำหนดให้วิ่งได้ไม่เกิน 120 กม./ชม. ในทางระหว่างเมือง และ 60 กม./ชม. ในเมือง โดยบรรยากาศสองข้างทางแทบไม่แตกต่างจากมอเตอร์เวบ้านเรา เดินทางง่ายสะดวก ทิวทัศน์ส่วนใหญ่เป็นไร่นา ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นความเจริญตามหัวเมืองต่างๆ การเดินทางแบบคาราวานมีความสนุกตื่นเต้น ครบรส เรามาติดตามงานนี้ไปพร้อมๆ กันได้ที่ Grand Prix Online
- สภาพนั่ง 4 คนกับสัมภาระเต็มพิกัด ด้วยพื้นที่ความจุไม่ธรรมดา กระเป๋าทั้งหมดไปได้หมดรวมทั้งผู้โดยสาร
- อาหารเช้ามื่อแรกหลังจากลงเครื่องมาตอน 7.oo น. ขับข้ามประเทศจากเดนมาร์กสู่สวีเดนแวะข้างทางเติมพลัง
- หิวเมื่อไรก็แวะมา รถทีมงานสต๊าฟจากทรานเอเซียรอให้บริการเครื่องดื่ม ผ้าเย็น
แน่นอนว่านี่เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้นในวันต่อไปคาราวานจากไทยจะไปต่อ ตั้งเป้าที่ประเทศฟินแลนด์ ซึ่งต้องข้ามเรือจากสวีเดน แต่ก่อนหน้านั้นได้มีโอกาสแวะเก็บภาพเมืองสต๊อกโฮร์ม ในหลายมุมมองมาฝากกันในตอนที 2 ติดตามอ่านกันได้เร็วๆ นี้
เรื่อง ภาพ : ณัฐพล จีระมงคลกุล
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th