งานเข้า !! รถโดนยึดไม่อะไหล่หายก็นำออกมาขี่เล่น
อันตรายกว่าจอดริมถนนก็ที่เก็บรถของพี่ตำรวจนี่ละครับ กลับมาเป็นข่าวอีกครั้งที่พี่ตำรวจยึดรถไปเก็บไว้เป็นในคอกเก็บที่โรงพัก พอเจ้าของจะไปเอาออกกลับมีอะไหล่แต่งโดนขโมยหายไปทั้งที่อยู่ในความรับผิดชอบของตำรวจ หรือไม่ก็โดนตำรวจ หรือคนที่ตำรวจรู้จักนำออกไปใช้โดยพละการ เป็นข่าวที่เราเห็นกันอยู่เป็นประจำไม่ยอมแก้ไขซะที่ วันนี้เรามาดูกันว่าตำรวจมีอำนาจในการเอารถของกลางออกมาขี่ หรือให้คนอื่นยืมได้หรือไม่ แล้วถ้ารถของกลางสูญหาย หรือมีอะไหล่หายไปจะมีใครรับผิดชอบมั้ยเรามาดูกันครับ
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ค Chidchai Sampannung Zille ได้ขี่มอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์คู่ใจ ล้มเกิดอุบัติเหตุ เจ้าหน้าที่เอารถไปจอดไว้ที่สถานีตำรวจ กลับเกิดเรื่องไม่คาดคิด อะไหล่ราคาเเพงหายเรียบ ไร้ร่องรอย มูลค่าของที่หายกว่า 1 แสนบาท จับมือใครดมไม่ได้ หลังจากออกจากโรงพยาบาลเจ้าของรถก็รีบไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับคำชี้แจงกับทางเจ้าหน้าที่แม้แต่อย่างใด ว่าชิ้นส่วนต่างๆนั้นได้หายไปได้อย่างไร ทั้งๆที่อยู่ในสน. ถึงแม้ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ที่เก็บรถของกลางก็ตาม แต่ก็น่าจะปลอดภัยเนื่องจากเป็นสถานที่ราชการเพื่อให้บริการประชาชน
อีกรายไปพบรถมอเตอร์ไซด์ของตนเองที่ตำรวจทำการยึดไว้เป็นของกลางโดนบังเอิญ มีกลุ่มวัยรุ่นนำมาขี่เล่นสงกรานต์หน้าตาเฉย พอเจ้าของตัวจริงเข้าไปสอบถามกลับได้คำตอบว่ายืมมาขับเล่นน้ำสงกรานต์เฉยๆขออนุญาติพี่เค้าแล้ว งง ไปดิครับ แบบนี้ก็มีด้วยตำรวจไทย ปล่อยให้รถของกลางหลุดออกมาให้ใครก็ไม่รู้ไปขับเล่นได้อย่างสบาย ทั้งที่เจ้าของตัวจริงไม่ได้รับรู้เรื่อง คิดว่ารถของตนอยู่ในที่เก็บของกลางในโรงพัก แบบนี้ผมว่ามันไม่น่าจะทำได้นะครับ เพราะรถของกลางนั้นจะไม่สามารถนำออกมาขับขี่ได้ไม่ว่าจะเหตุผลใดๆทั้งสิ้น จนกว่าจะจบคดีความ
ในกรณีนี้ทางตำรวจหงายการ์ดออกมาให้ข่าวว่า รถคันดังกล่าวเป็นรถที่ถูกยึดจากคดีแข่งรถ ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของคนดูแลคอกรถเอกชน ซึ่งตำรวจจ้างให้มาดูแลรถชน รถที่ถูกยึด รถของกลาง ฯลฯ ซึ่งคนดุแลดังกล่าวเอาไปขี่โดยพละการไม่ได้แจ้งเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด ซึ่งตามกฎก็ห้ามอยู่แล้วว่า รถที่ถูกดำเนินคดีไม่สามารถนำออกไปขี่ได้ แต่คนดูแลดังกล่าวก็นำออกไปใช้เที่ยวสงกรานต์กับเพื่อนๆ อย่างไรก็ตามขณะนี้ คนดูแลรถได้นำรถไปเก็บไว้ในคอกเรียบร้อยแล้ว ซึ่งหลังจากนี้ทางจะมีการตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบอีกครั้งหนึ่งเพื่อดำเนินการต่อไป
ทั้งสองกรณีนี้พี่ตำรวจหงายการ์ดอะไรมาก็ผิดครับต้องหาคนกระทำผิดมารับผิดชอบเพราะกฎหมายมีอยู่ว่า ในกรณีรถยนต์ของกลางซึ่งอยู่ในการครอบครองดูแล ของพนักงานสอบสวน หรือ เจ้าพนักงานตำรวจที่เก็บรักษาของกลาง ในระหว่างการพิจารณาคดี ว่าของกลางเหล่านี้ศาลจะมีคำสั่งประการใดพนักงานสอบสวน หรือ เจ้าพนักงานผู้ดูแลรับผิดชอบของกลางในคดีต้องเก็บรักษาไว้ มิให้สูญหาย เสื่อมค่า หรือบุบสลายไป จนกว่าคดีจะถึงที่สุด หากในระหว่างการพิจารณาคดี มีตำรวจ หรือ บุคคลใด แอบนำของกลางไปใช้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของทรัพย์สิน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรถที่ถูกยึดมามีคนบางกลุ่มสามารถนำไปใช้โดยพละการหากต่อมาของกลางสูญหาย หรือ เสียหาย พนักงานสอบสวน หรือ ผู้เก็บรักษาของกลาง ต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ มาตรา 158 ซึ่งบัญญัติว่า
มาตรา 158 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ #ซึ่งทรัพย์หรือเอกสารใดอันเป็นหน้าที่ของตนที่จะปกครองหรือรักษาไว้ หรือ ยินยอมให้ผู้อื่นกระทำเช่นนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 14,000 บาท และผิดฐานยักยอกทรัพย์ที่ตนเองมีหน้าที่รักษาทรัพย์ หรือยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นไปโดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่ 5 ปี ถึง 20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต..(ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147)
กรณีนี้ พนักงานสอบสวน หรือ พนักงานตำรวจผู้เก็บรักษาของกลาง ต้องรับผิด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147 ,157,และมาตรา 158 ครับ ดังนั้นไม่ว่าจะอ้างอะไร ใครเป็นคนเอาออกมา หรือนำไปใช้ในราชกร ก็ฟังไม่ขึ้นครับ เพราะไม่มีอำนาจตามกฎหมาย สิ่งสุดท้าย คือ คุกๆ ครับผม ส่วนค่าเสียหาย ต้องฟ้อง สตช. เป็นจำเลย ให้ชดใช้ค่าสินใหมทดแทนครับ
เรื่อง: ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th