จีนใช้มาตรการสนับสนุนเงินกระตุ้นให้พลเมืองซื้อรถ
ตลาดรถยนต์ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างจีนก็ไม่ต่างกับตลาดภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลกที่อุตสาหกรรมรถยนต์ได้รับความเสียอย่างหนักจากการระบาดของโคโรนาไวรัส จนทำให้หลังจากที่สามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดได้แล้วในปัจจุบัน ทางการจีนจึงเริ่มหาวิธีที่จะกระตุ้นให้คนกลับมาซื้อรถยนต์กันอีกครั้ง ซึ่งวิธีที่ทางการจีนเลือกใช้คือการให้เงินสดแก่พลเมืองของตนที่ ซื้อรถ ยนต์
ทางสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นได้รายงานว่าปกติแล้วควรมีรถยนต์ใหม่ถูกขายไปมากกว่า 6 ล้านคันในช่วงเวลาที่ประเทศจีนมีการล็อกดาวน์ทั่วประเทศ แต่กลับมีรถยนต์ที่ถูกส่งมอบไปแล้วในปี 2020 นี้เพียง 3.7 ล้านคัน โดยเดือนกุมภาพันธ์เป็นเดือนที่หนักหนาที่สุดของการค้ารถยนต์ในจีน เพราะมีรถยนต์ถูกขายไปเพียง 310,000 คัน ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้วลดลงถึง 79 เปอร์เซ็นต์ ส่วนเดือนมีนาคมที่ผ่านมายอดขายรถยนต์กระเตื้องขึ้นมาอยู่ที่ 1.43 ล้านคัน แต่ก็ยังเป็นจำนวนที่ต่ำกว่าเดือนมีนาคมปีที่แล้วถึง 43 เปอร์เซ็นต์
เมื่อเดือนที่แล้วรัฐบาลจีนจึงมีการประกาศว่าจะขยายระยะเวลาการอุดหนุนและงดภาษีสำหรับรถยนต์ใช้พลังงานใหม่ต่อไปอีก 2 ปี ซึ่งเป็นการกลับลำหลังจากที่เมื่อปีที่แล้วมีความคิดที่จะยกเลิกการสนับสนุนนี้ เนื่องจากรถใช้พลังงานใหม่ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า รถปลั๊กอินไฮบริด และรถใช้พลังงานไฮโดรเจนล้วนแต่มียอดขายที่ต่ำทั่วประเทศจีน โดยเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาถูกขายไปเพียง 53,000 คัน ซึ่งน้อยกว่าช่วงเวลาเดียวกัน 53 เปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ตามได้มีหลายหน่วยราชการในท้องถิ่นของจีนที่ประกาศมาตรการเพื่อกระตุ้นให้เกิดการซื้อรถยนต์ โดยมีอย่างน้อย 12 เมืองและพื้นที่ที่สนับสนุนให้พลเมืองออกมาซื้อรถยนต์ ด้วยการให้เงินสนับสนุนในการซื้อรถโดยที่มีจำนวนสูงสุดเทียบเท่ากับ 1,400 ดอลล่าร์ต่อรถหนึ่งคัน สำหรับสาเหตุที่รัฐบาลท้องถิ่นต้องออกมาให้เงินเพื่อสนับสนุนการซื้อรถยนต์ เนื่องจากจำเป็นที่จีนจะต้องหนุนหลังอุตสาหกรรมรถยนต์และทำให้เดินหน้าต่อไปได้ เพราะมีผู้คนกว่า 40 ล้านคนในประเทศที่พึ่งพางานในส่วนของรถยนต์ทั้งโดยตรงและทางอ้อม โดยแต่ละปีอุตสาหกรรมยานยนต์ของจีนสามารถสร้างรายได้รวมกันกว่า 1 ล้านล้านดอลล่าร์ หรือประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ของการผลิตในจีน
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th