ชวนตั้งคำถามจาก ข่าว รถ ยนต์ไฟฟ้าในอนาคตช่วงปี 2035 จะเป็นอย่างไร
หนึ่งในหัวข้อที่ชวนให้หลายคนคิดถึงอนาคตของวงการรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่กำลังถือได้ว่าเป็นช่วงขาขึ้นในช่วงหลังมานี้ ที่ทำให้ผู้คนในวงการต่างพากันจับตามองแต่ละค่ายที่พยายามพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่จะทำให้สามารถใช้ไฟฟ้าได้เต็มที่ 100 % ได้สำเร็จ และใช้งานได้จริงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ข่าว รถ ยนต์ในครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแต่การตั้งคำถาม เพราะนี่เป็นหนึ่งในหัวข้อที่เพิ่งมีการจัดเสวนาหัวข้อ โอกาสของผู้ประกอบการยานยนต์ไทยกับตลาดทุน โดยอดิศักดิ์ พรหมบุญ ผู้อำนวยการ สายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัท หลักทรัพย์กรุงศรี ที่เคยได้พูดทิ้งไว้ในช่วงที่ได้นำเสนอเกี่ยวกับอนาคตของวงการรถยนต์ในไทย
ข่าว รถ ยนต์พลังงานไฟฟ้า ทำไมถึงมาแรงน่าจับตามอง
เนื่องจากประเทศไทยมีการส่งออกรถยนต์ที่มากถึง 12% ของยอดรวมหรือคิดเป็น 6% ของจีดีพี และคาดว่าจะมีอัตราที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากตัวเลขยอดผลิตรถยนต์ปี 2019 ประเทศไทยสามารถที่จะขึ้นไปเป็นอันดับที่ 11 ของโลก มียอดขายอันดับที่ 17 ของโลก ถือได้ว่าเป็นผลลัพธ์ที่น่าสนใจ และชวนให้คิดถึงอนาคตอันใกล้อย่างประเด็นของตลาดการแข่งขันรถยนต์ไฟฟ้า 100 % ที่ ข่าว รถ วงการนี้ที่มีหลายเสียงยืนยันว่า สามารถใช้งานได้ทัดเทียมกับรถยนต์พลังงานปกติได้ดีทีเดียว ตามต้นแบบอย่าง เทสล่า ที่ทำรถยนต์ไฟฟ้าที่มีมูลค่าที่สูงมากเป็นพิเศษได้ เนื่องจากเป็นเจ้าเดียวที่สามารถผลิตรถไฟฟ้าที่มีคุณภาพสูงได้ คำถามเกิดขึ้นว่าแล้วถ้ามีผู้ผลิตที่ทำได้หลายเจ้าในตลาดจะเป็นอย่างไร
บทสัมภาษณ์ คุณ อดิศักดิ์ พรหมบุญ ผู้อำนวยการ สายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์
“Disruption หากย้อนกลับไปดูบริษัทชั้นนำของโลก จะเห็นว่า บริษัทชั้นของโลก จากเดิม 15 แห่ง ปัจจุบันเหลือเพียง 4 แห่ง Microsoft , ExonMobil, Walmart และ Pfiser เพราะเกิดการเปลี่ยนแปลง ยกตัวอย่างให้เห็นชัด Case Study กล้องดิจิตัลที่เข้ามาแทนที่กล้องฟิล์ม จากนั้น Smartphones ก็เข้ามาแทรก ซึ่งทำให้เห็นว่า เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงเร็ว”
เป็นสิ่งที่น่าสนใจที่ถ้าผู้อำนวยการพยายามที่จะชี้ถึงสินค้าที่ในอนาคตอาจจะเป็นที่ต้องการ และชวนตั้งคำถามว่าจะดีกว่าไหมถ้าหากตลาดรถยนต์ในประเทศไทยได้มีการพัฒนา และสามารถทำรถยนต์ที่ใช้พลังงานบริสุทธิ์ และกลายเป็นตลาดหลักในการส่งออกของโลก ถึงแม้อาจจะดูเป็นเรื่องใหญ่ แต่นี่เป็นสิ่งที่ผู้อำนวยการพยายามที่จะเลือกสื่อสารออกมาในการเสวนาครั้งนี้
แน่นอนว่าในทันทีที่ ข่าว รถ ยนต์ไฟฟ้าที่เป็นแผนการสำคัญในการต่อยอดของตลาดรถยนต์ที่จะเริ่มขยับไปใช้พลังงานบริสุทธิ์เป็นหลักได้แพร่ขยายไปในวงกว้าง เหล่าผู้ที่ได้ผลข้างเคียงอย่าง ผู้จัดจำหน่าย และศูนย์บริการ จากเดิมที่ขาย ต่อไปอาจเป็นการให้เช่ารถแทน หรือจากอู่ซ่อม มีการหวั่นเกรงต่อความมั่นคงในหน้าที่การงานของตนเอง ทางการได้แนะนำว่ามีหนทางในปัญหานี้ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต โดยที่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนพลังงานในการขับขี่สามารถที่จะประกอบอาชีพในลักษณะที่สอดคล้องกับความต้องการใหม่นี้ได้โดยมีช่องทาง ดังนี้
- สถานีชาร์จไฟฟ้า (สำหรับการลงทุนสถานีชาร์จในไทย จากข้อมูลปลายปี 2019 มีทั้งหมด 805 แห่ง)
- รถยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง
- Hardware : อุปกรณ์อำนวยความสะดวก
- Software : Application สำหรับรถยนต์
ที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญ ถ้าหากต้องการรอดพ้นจากสถานการณ์ปัญหาโดยตรง หนึ่งในลู่ทางของวิธีเอาตัวรอดในอนาคตที่ทุกคนต้องเผชิญคือ ปรับเปลี่ยนเพื่อความอยู่รอด เพราะถึงแม้ทางภาครัฐอาจจะไม่ผลักดันเพื่อให้เกิดตลาดแรงงานสำหรับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 100 % ก็ตาม แต่ตลาดโลกย่อมเปลี่ยนแปลงไป เพราะด้วยปัญหาโลกร้อน และเทรนด์ของคนที่กำลังใส่ใจธรรมชาติ อีกทั้งต้องการเลือกรถยนต์เพื่อตอบสนองกับความต้องการลดการเกิดภาวะเรือนกระจก ที่จะทำให้หลายค่ายเริ่มผลิตรถยนต์สำหรับการใช้พลังงานไฟฟ้าแบบครบวงจร และถ้าประเทศไทยไม่ปรับตัว จะไม่ได้ส่งผลเสียแค่ภาครายย่อย แต่ประเทศไทยเองจะช้ากว่าทุกประเทศในแถบประเทศเพื่อนบ้าน
ภายในการเสวนาเรื่องอนาคตของวงการรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ยังมีสิ่งที่หลายช่องทาง ข่าว รถ ยนต์พร้อมใจกันนำเสนอคือ หลักทรัพย์กลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วนในตลาดหลักทรัพย์ไทย พบว่า SETAUTO มี 18 หลักทรัพย์ มูลค่าในตลาด 75,000 ล้านบาท จากมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 18 ล้านล้านบาท ดูเป็นจำนวนเงินที่ไหลเวียนค่อนข้างสูง แต่เมื่อได้นำค่าจีดีพีมาประกอบคิดร่วมด้วยจะสังเกตได้ว่าตลาดในส่วนนี้ยังจำเป็นต้องการนายทุนเพื่อให้ตลาดรถยนต์ของประเทศไทยโตได้มากกว่าที่เป็นอยู่
ข้อดี -ข้อเสียในการนำธุรกิจเข้าตลาดหลักทรัพย์
ข้อดี
- มีแหล่งเงินทุนระยะยาว
- การบริหารแบบมืออาชีพ
- ส่งเสริมภาพลักษณ์บริษัท
- สิทธิประโยชน์ทางภาษี
ข้อเสีย
- ความเป็นเจ้าของลดลง
- ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
- เสียอิสระในการทำงาน
รายละเอียดส่วนนี้เป็นการสรุปหัวใจหลักสำคัญในการเสวนาที่เป็นข้อมูลที่น่าสนใจ และเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับการนำชุดข้อมูลเหล่านี้ไปต่อยอด ดังจะเห็นได้ว่าตลาดของรถยนต์ภายในประเทศที่สร้างผลงานได้ดีมาก จนวิ่งเข้าทะลุเป็นที่ 11 ของโลก และการสร้างยอดขายได้สูงอันดับที่ 18 ของโลก แต่กลับไร้ซึ่งนายทุนที่เห็นคุณค่า และยากต่อการโตต่อไปในอนาคต สถานการณ์ในวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ถ้าวงการนี้ยังคงต้องเติบโตด้วยตัวเอง และตลาดโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงเพื่อเข้าสู่วงจรใหม่อย่างการผลิตรถยนต์เพื่อใช้กำลังไฟฟ้าแบบครบวงจร ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ ข่าว รถ ยนต์หลายสำนักให้ความสนใจ และต้องการเตือนใจทั้งเหล่านักพัฒนา พนักงาน และผู้บริโภคที่พวกเราทุกคนจะเป็นคนกำหนดอนาคตของวงการนี้ไปด้วยกัน
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th