ดูแลรถมอเตอร์ไซค์ง่ายๆ ช่วงหน้าฝน มีอะไรบ้างมาดูกัน
หลายเดือนมานี้ฟ้าฝนเมืองไทยเอาแน่เอานอนไม่ค่อยได้ จะตกก็ตก จะหยุดก็หยุด ซึ่งคนที่เกิดปัญหามากที่สุด ก็เห็นจะเป็นกลุ่มคนใช้รถมอเตอร์ไซค์ เพราะนอกจากจะเปียกฝนแล้ว ยังต้องเจอกับสภาวะน้ำท่วมอีกด้วย แล้วจะทำอย่างไรดีถ้าต้องขี่รถมอเตอร์ไซค์ลุยฝน เพื่อเป็นการดูแลรักษาที่ถูกต้องเรามาดูวิธีการดูแลรถมอเตอร์ไซค์ในช่วงหน้าฝนกันดีกว่าว่าต้องทำอย่างไรบ้าง
ยาง
เช็กดอกยาง และความแข็งของเนื้อยาง โดยใช้เล็บจิ๊ก เพื่อดูประสิทธิภาพในการช่วยรีดน้ำ และช่วยยึดเกาะถนน ถ้าดอกยางใกล้หมดหรือเนื้อยางแข็งควรรีบเปลี่ยน
เบรก
ตรวจสอบผ้าเบรก จานเบรกว่ามีรอยสึกหรือคราบสกปรกหรือไม่ ถ้าสกปรกควรทำความสะอาดก่อนการใช้งาน น้ำมันเบรกว่าอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานสียังใส ไม่ขุ่นคล้ำ เพื่อความปลอดภัยและมั่นใจทุกครั้งที่เบรก
น้ำมันเครื่อง
เช็กระดับน้ำมันเครื่องโดยเทียบระดับจากก้านวัด ต้องอยู่ระดับที่กำหนดถ้าเห็นน้ำมันเครื่องมีสีขาวขุ่น จากการขับรถลุยน้ำ ต้องรีบเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องใหม่ทันที
ระบบไฟ
อย่าลืมเช็กระบบไฟรอบคันว่าทำงานปกติหรือไม่ ไฟคือตัวช่วยการมองเห็นเส้นทางข้างหน้าได้อย่างชัดเจน แถมยังเป็นการช่วยเพื่อนร่วมทางให้เห็นรถของเราได้ชัดเจนและปลอดภัย
อุปกรณ์ป้องกัน
อย่างหมวกกันน็อก อาจจะเกิดฝ้าได้ ควรมีน้ำยาเช็ดกันฝ้าหรือพินล็อกกันฝ้า และควรซื้อเสื้อกันฝนคุณภาพดีเพื่อป้องกันการบาดเจ็บจากการสะบัดขณะขับขี่ช่วงหน้าฝน
แล้วถ้าจำเป็นต้องขี่รถลุยน้ำล่ะ…ต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง
ความสูงของระดับน้ำ
รถมอเตอร์ไซค์สามารถลุยน้ำได้ ในระดับปริมาณน้ำไม่เกิน 1 ฟุตจากพื้น หรือห้ามท่วมถึงคาบูเรเตอร์เด็ดขาด(รถรุ่นเก่า) ส่วนรถรุ่นใหม่ที่ใช้หัวฉีดก็อย่างให้น้ำเข้ากรองอากาศ มิเช่นนั้นจะทำเกิดความเสียหายต่อรถมอเตอร์ไซค์ของคุณได้
ความเร็วที่ใช้
ไม่ควรขับในความเร็วสูง ควรขับในควรเร็วที่พอดีๆ และสามารถมองเห็นพื้นถนนได้ เพราะพื้นถนนไม่ได้เรียบเสมอ อาจเจอหลุมหรือบ่อได้ ซึ่งจะทำให้เกิดอุบัติเหตุต่อผู้ขับขี่ และรถมอเตอร์ไซค์ของท่านได้
ระบบเบรก
ในการขี่รถลุยน้ำ เราควรใช้งานเบรกเป็นระยะๆ เพื่อป้องกันการลื่นของเบรกที่เกิดจากความชื้นที่มากับน้ำ ดังนั้นในการป้องกันเราควรใช้งานเบรกบ้างไม่เช่นนั้นผ้าเบรกกับจานเบรกจะไม่จับกันอย่างเต็มที่
ดับกลางคันเวลาลุยน้ำ
หากขับลุยน้ำแล้วเครื่องยนต์ดับ ห้ามสตาร์ทรถโดยเด็ดขาด ให้รีบเข็นรถไปไว้ในที่แห้ง แล้วตรวจเช็คท่อไอเสียว่ามีน้ำเข้าท่อหรือไม่ ถ้ามีควรรีบหาทางระบายน้ำออกโดยเร็ว แล้วสตาร์ทเครื่องด้วยเท้าหากมี จากนั้นเร่งเครื่องไว้สัก 3-5 นาที ให้เครื่องยนต์เกิดความร้อน แล้วจึงขับต่อได้
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th