หลังจากที่มาสด้าเปิดตัวรถยนต์ CX-3 รถอเนกประสงค์หรือที่มาสด้าเค้าเรียกว่าสปอร์ต คอรสโอเวอร์สร้างกระแสได้ดีพอสมควรเลยทีเดียวกับช่วงโค้งสุดท้ายของปี ล่าสุดได้เชิญสื่อมวลชนเข้าร่วมทดสอบเจ้าน้องใหม่คันนี้กันที่เชียงใหม่-ดอยอินทนนท์ โดยมีทั้งการทดสอบแบบวิ่งในเมือง นอกเมืองและขึ้น-ลงเขา เราไปดูกันว่าเจ้า CX-3 คันนี้ที่ทาง GPI NEWS ได้เข้าร่วมทดลองขับเป็นเจ้า CX-3 2.0 SP  เครื่องยนต์เบนซิน 2,000 ซีซี ซึ่งเป็นรุ่นท็อปสุด ส่วนเจ้าดีเซลต้องรอก่อนปีหน้าน่าจะได้เห็นกัน

รูปลักษณ์ภายนอกคงเอกลักษณ์ของมาสด้าที่เน้นความสปอร์ต โฉบเฉี่ยว กระจังหน้ารูปหกเหลี่ยมขนาดใหญ่และโลโก้ดูโดดเด่นรับกับไฟหน้าแอลอีดีที่ดีไซน์ เฉี่ยบคม เท่ห์และมีสไตล์ดูดุดันไฟเลี้ยวอยู่ด้านล่างของกันชนแนวเดียวกับไฟตัดหมอกLED ด้านข้างเผยเส้นสายแบบแฮทช์แบ็คครอสโอเวอร์ดูบึ­กบึนไม่น้อย พร้อมล้ออัลลอยลายสปอร์ต18 นิ้วทำให้ตัวรถดูสูงและบึกบึน ไฟท้ายทรงเรียวยาวดูลงตัวกับท้ายรถซึ่งเสริมความสปอร์ตและสะดุดตา ตัวถังรถยาว 4,275 มิลลิเมตร กว้าง 1,765 มิลลิเมตร สูง 1,550 มิลลิเมตร และมีฐานล้อกว้างถึง 2,570 มิลลิเมตร ภายนอกโดยรวมดูสวยงามลงตัว

เปิดประตูเข้ามานั่งในห้องโดยสาร แหม!!!! คุ้นตาไม่น้อยเพราะภายในดีไซน์คล้ายกับมาสด้า2 เกือบทั้งหมด ทั้งคอนโซลหน้าแนวยาวแบบทูโทน มาตรวัดวงกลมเดี่ยวขนาบข้างด้วยจอดิจิตอลพร้อมหน้าจอ HUD หน้าจออินโฟเทนเม้นท์ตั้งเดี่ยวเหนือคอนโซลหน้า ปุ่มบังคับบนคอนโซลกลางและเบาะนั่งคู่หน้านั่งได้ดีสบายกระฉับตัว แต่ถ้าคนขับตัวใหญ่เลื่อนเบาะถอยหลังลงไปเยอะบอกได้เลยว่าคนหลังนั่งลำบากครับ ที่นั่งด้านหลังของ CX-3 เหมาะกับผู้ที่มีความสูงไม่เกิน 170 ซม. นั่ง 2 คนได้แต่นั่งสามอึดอัดแน่นอนพนักพิงเบาะหลังตั้งชันไปนิด พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังค่อนข้างจำกัดใส่ของได้ไม่เยอะภายในเล็กพอๆ กับมาสด้า2 เลยครับแต่เจ้า CX-3 มีพื้นที่โดยสารภายในมากว่ามาสด้า2 พอสมควร พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระ 350 ลิตร ภายในห้องโดยสารไม่ใช่จุดเด่นของรถรุ่นนี้ เพราะมาสด้าเน้นไปที่สมรรถนะ ช่วงล่างและออกแบบตัวรถให้ปราดเปรียวลู่ลม ทำให้ห้องโดยสารไม่กว้างขวางแต่เน้นความเงียบด้วยการเพิ่มวัสดุดูดซับเสียง โดยเฉพาะในบริเวณห้องเครื่องและแผงประตูคู่หน้า

เริ่มออกเดินทางในช่วงเช้าขับในเมืองก่อนเลยแน่นอนเจ้าคันนี้ขับใช้งานในเมืองได้คล่องตัวทีเดียว ไม่ว่าจะซอยเล็กซอยน้อยอัตราเร่งที่ดีเร่งได้ทันใจโดยไม่ต้องลากรอบสูงความเร็วเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง แต่ก็ไม่ถึงกับจี๊ดจ๊าดมากนักแต่ก็เพียงพอในการวิ่งซอกแซกไปตามช่องว่างเวลารถติดได้สบาย เพราะด้วยมิติตัวรถที่ไม่ต่างจากมาสด้า2 มากนักทำให้เจ้าCX-3 ขับง่ายสบายยามขับขี่ในเมือง พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้ามีน้ำหนักที่พอเหมาะไม่ถึงกับเบาหวิวแต่ก็ไม่หนักแรงการตอบสนองค่อนข้างฉับไวขับง่ายดีครับ

หลุดออกนอกเมืองการจราจรเริ่มเบาบางรถเริ่มน้อยมาทดลองอัตราเร่งกันหน่อยดีกว่าเครื่องยนต์ SKYACTIV เบนซิน 2,000 ซีซี ตัวเดียวกับมาสด้า3 และ CX-5 แต่มีการปรับแต่งให้เหมาะสมกับตัวรถ 156 แรงม้า ลดลงจาก มาสด้า3 ที่มี 165 แรงม้าแรงบิดของ CX-3 ได้รับการปรับแต่งให้แตกต่างจาก มาสด้า3 โดยเฉพาะในส่วนของแรงบิด เพื่อให้มีแรงบิดสูงสุดในรอบต่ำเหมาะกับวัตถุประสงค์การใช้งานของรถโดย CX-3 มีแรงบิดสูงสุด 20.78 กก.-ม. ที่ 2,800 รอบต่อนาที ลดลงจาก มาสด้า3 ที่มี 21.39 กก.-ม. ที่ 4,000 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ก็มีการปรับเปลี่ยนทั้งในส่วนของอัตราทดเกียร์และซอฟต์แวร์ควบคุมจังหวะการเปลี่ยนเกียร์ มันจะเป็นอย่างไรกดคันเร่งลงไปความเร็วในช่วงต้นอาจจะไม่รวดเร็วทันใจมากนักแต่ช่วงกลางขึ้นไปขับสนุกที่เดียวครับ กดคันเร่งไปเพลินๆ ความเร็วไปแตะ 170 กม./ชม.แบบสบายๆ

การเร่งแซงอาจจะต้องใช้การคิกค์ดาวน์ช่วยเล็กน้อยแต่ก็ไม่มีปัญหาแซงได้แบบไม่ต้องลุ้น ทดลองปรับเป็นโหมดสปอร์ตดูอัตราการเร่ง ซึ่งการเร่งแซงดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดแต่รอบมันลากยาวมากจนสงสารเครื่องยนต์เสียงครางของเครื่องยนต์จะได้ยินชัดเจนมาก ถ้าใช้โหมดสปอร์ตในการขับช่วงขึ้น-ลงเขา สบายหายห่วงครับไม่มีปัญหาเรื่องกำลังเครื่องยนต์เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ทำงานได้อย่างราบรื่นนุ่มนวล ทั้งการเปลี่ยนเกียร์ขึ้นและลงที่รอบสูง ไม่มีอาการกระตุกกระชาก ความเร็วในการเปลี่ยนเกียร์ดูจะเร็วกว่าเกียร์อัตโนมัติพื้นฐานอยู่เล็กน้อย โดยเฉพาะในโหมด +/- ซึ่งในโหมดนี้เกียร์จะไม่เปลี่ยนขึ้นสูงให้พวงมาลัยน้ำหนักดี เฉียบคม ควบคุมง่าย

ช่วงล่างที่เซตมาค่อนข้างสปอร์ตกับตัวรถที่ไม่สูงมากนัก ทำให้แทบไม่มีอาการโยนตัวจึงควบคุมรถได้ง่ายระบบกันสะเทือนหน้าอิสระแม็กเฟอร์สันสตรัตพร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังทอร์ชั่นบีมพื้นฐานเดียวกับมาสด้า2 แต่ใช้ชิ้นส่วนต่างกันไม่สามารถสลับกันได้ ทำหน้าที่ได้ดีที่เดียวดูดซับแรงสั่นสะเทือนของพื้นผิวถนนได้ดีการเค้าโค้งก็ทำได้อย่างมั่นใจไม่มีอาการโยนหรือย้วยให้ได้สัมผัส ทำให้เค้าโค้งได้อย่างมั่นใจที่ความเร็วต่ำได้อย่างนุ่มนวลพอสมควรไม่กระด้างมากนัก ช่วงความเร็วสูงให้ความรู้สึกหนึบแน่นการยุบและยืดตัวของช่วงล่างมีความกระชับไม่ยวบย้วยหรือเด้ง ใช้ความเร็วสูงบนถนนที่เป็นคลื่นลอนและโค้งกว้างๆ ได้อย่างมั่นใจ โดยรวมแล้วมีความนุ่มและความหนึบในสัดส่วนที่พอเหมาะกับการใช้งาน

ระบบความปลอดภัย i-ACTIVESENSE มาอย่างครบครัน เช่น HBC-High Beam Control ปรับไฟหน้าสูงและต่ำอัตโนมัติโดยไม่รบกวนผู้ขับรถคันอื่น, RCTA-Rear Cross Traffic Alert เตือนขณะถอยหลังออกจากช่องจอด, SCBS-Smart City Brake Support ช่วยเบรกที่ความเร็วต่ำ และ 2 ระบบที่ได้ใช้ในระหว่างการขับคือ LDWS-Lane Departure Warning System เตือนเมื่อเปลี่ยนเลนโดยไม่ตั้งใจ ระบบจะส่งเสียงเตือนผ่านลำโพงฝั่งที่ขับคร่อมเลนโดยไม่ตั้งใจ (ไม่เปิดไฟเลี้ยว) พร้อมภาพกราฟิกเตือนบนจอ Active Driving Display เหนือชุดมาตรวัด สามารถปรับเปลี่ยนเสียงเตือนได้ และระบบ ABSM-Advanced Blind Spot Monitoring เตือนรถในจุดบอดด้านข้าง ช่วยเพิ่มความมั่นใจเมื่อเปลี่ยนเลน

มาสด้า CX-3 ถือว่าเป็นรถยนต์ที่น่าสนใจอีกหนึ่งรุ่นครับ ถ้าคุณชอบรถยนต์ที่มีรูปร่างหน้าตาโฉบเฉี่ยวทันสมัย ขับสนุก ช่วงล่างแน่น หนึบ และไม่สนถึงความกว้างขวางภายใน แต่ถ้าคุณต้องการความอเนกประสงค์ พื้นที่ใช้สอยเยอะผมว่าคันนี้คงไม่เหมาะกับคุณ เพราะ CX-3เน้นความสนุกในการขับ ช่วงล่างหนึบแน่นมั่นใจ เครื่องยนต์ตอบสนองดีและต่อเนื่อง ไม่เน้นความกว้างขวางของห้องโดยสารและห้องเก็บสัมภาระด้านท้าย เป็นรถที่ออกแบบมาให้ขับสนุก ใช้งาน 2 คนเป็นหลักกับราคาเริ่มต้นที่ 835,000 – 1,155,000 บาท ลองดูว่าเหมาะกับคุณมั้ย

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย กรังด์ปรีซ์ออนไลน์ GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th