โต โย ต้า คั ม รี่ นับเป็นรถเก๋งขนาดกลางที่ประสบความสำเร็จด้านการตลาดในรูปแบบหนึ่ง ที่ถือเป็นตำนานของวงการตลาดรถเก๋งในประเทศไทย ที่ทางโตโยต้าภูมิใจเป็นอย่างมากในการผลิตและพัฒนารถในซีรีส์นี้ออกมาและยังคงความโดดเด่นจนมาถึงปัจจุบันนี้ ซึ่งในปัจจุบัน ถ้าคิดถึงรถเก๋งขนาดกลางสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือการจัดหารถประจำตำแหน่งสุดหรู ชื่อของ โต โย ต้า คั ม รี่ จะต้องเป็นตัวเลือกแรก ๆ ที่ใช้ในการพิจารณาอย่างแน่นอน และจนถึงปี 2020 คัมรี่ ก็ยังคงเป็นรถเก๋งที่โดนใจใครหลายคนจนมาถึงยุคปัจจุบัน ถ้าหากคุณยังไม่มั่นใจ สิ่งเดียวเท่านั้นที่จะช่วยให้คุณคลายข้อสงสัย คือ ร่วมสัมผัสประสบการณ์แห่งกับขับขี่ คัมรี่ด้วยตัวคุณเอง และคุณจะมั่นใจว่าสิ่งที่ได้นำเสนอให้ไปนั้น ไม่ได้ว่ากล่าวเกินจริงไปแม้แต่น้อย

การก้าวขึ้นสู่ความยิ่งใหญ่ของรถเก๋งระดับกลางในตระกูล โต โย ต้า คั ม รี่

สำหรับการประดิษฐ์และพัฒนา โต โย ต้า คั ม รี่ เริ่มเข้าสู่สายการผลิตและออกสู่ท้องตลาดนับตั้งแต่ปี 1980 ในฐานะของในฐานะรถสปอร์ตซีดาน ซึ่งในตอนนั้นยังคงใช้ชื่อว่า Celica-Camry ก่อนที่จะมาแตกไลน์การผลิตใหม่ในปี 1982 จึงได้มีสายการผลิตรถในซีรีส์ของ คัมรี่ เป็นไลน์การผลิตเฉพาะ นับได้ว่าเป็นรถที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 35 ปี โดยโจทย์ของการออกแบบคือ รถเก๋งขนาดกลางที่มี ความหรูหรา กว้างขวาง สะดวกสบาย จนถึงปัจจุบัน ได้มีผู้ใช้งาน โต โย ต้า คั ม รี่ มากถึง 20 ล้านคัน ในมากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก

สำหรับการมาของ คัมรี่ ในประเทศไทย เริ่มเข้ามาเป็นที่รู้จักในปี 1993 ซึ่งถือเป็นรถในเจนเนอเรชั่นที่ 4 ของรถรุ่นนี้ และที่สำคัญ ทางโตโยต้าได้ย้ายฐานการผลิตในรุ่น คัมรี่ทั้งหมดมาสู่ประเทศไทย ก่อนทำการปรับเปลี่ยนรูปโฉมอีกครั้งเป็น All-new Camry นับตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมา และครองส่วนแบ่งตลาดรถเก๋งขนาดกลางได้อย่างเต็มภาคภูมิ

มีอะไรใหม่ใน โต โย ต้า คั ม รี่ All-New Series 2.5 G

สำหรับการพัฒนาไลน์การผลิตของ คัมรี่ในปัจจุบัน จะเป็นรุ่น โต โย ต้า คั ม รี่ All-New Series 2.5 G ซึ่งจะมีอยู่ทั้งหมดสองรุ่นได้แก่ รุ่นธรรมดาและรุ่นพรีเมียมที่เพิ่มเติมด้วยการปรับอุปกรณ์ตกแต่งอีกมากมาย แต่ยังคงความเร็วและแรงในรูปแบบของ คัมรี่ โดยความแตกต่างของทั้งสองรุ่นคือ ในส่วนของรุ่น G นั้นจะติดตั้งเครื่องยนต์ธรรมดา ส่วนในรุ่น Premium นั้น จะติดตั้งเครื่องยนต์ Hybrid เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันให้มากขึ้น ซึ่งมีความแตกต่างอยู่ราว 2 แสนบาทเลยทีเดียว

เครื่องยนต์ที่แตกต่าง กับการขับเคลื่อนที่เหนือชั้นของ โต โย ต้า คั ม รี่

สำหรับเครื่องยนต์ที่ถูกนำมาติดตั้งให้กับ โต โย ต้า คั ม รี่ G ซีรีส์ จะเป็นเครื่องยนต์แบบ เบนซิน 4 สูบ รหัส A25A-FKB ขนาด 2.5 ลิตร 2,487 ซีซี. ติดตั้งวาล์วแปรผันอัจฉริยะไฟฟ้า VVT-iE ให้กำลังสูงสุด 209 แรงม้า ซึ่งให้พลังความเร็วได้เต็มพิกัด แต่ด้วยรูปทรงที่ใหญ่และมาด้วยขนาดล้อ 18 นิ้ว อาจทำให้การออกตัวในช่วงแรกดูอืดไปสักนิด แต่เมื่อเขาสู่ความเร็วเดินทางก็แทบจะเรียกได้ว่าไม่ต่างกันเลยแม้แต่นิดเดียว

ส่วนเครื่องยนต์ที่ใช้ติดตั้งในรุ่น Premium นั้น จะเป็นเครื่องยนต์ รุ่น Hybrid ใช้เครื่องยนต์ ขนาด 2,487 cc (2.5 ลิตร) 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว D-4S VVT-iE 178 แรงม้า โดยทำงานร่มกันกับ มอเตอร์ไฟฟ้าชนิดซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร ให้กำลังที่ 88 กิโลวัตต์ โดยเพิ่มประสิทธิภาพได้สูงสุดถึง 211 แรงม้า ซึ่งการขับเคลื่อนนับตั้งแต่ออกตัวจนถึงความเร็วในการเดินทาง ถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียว แต่ปัญหาก็คือ ยังไม่อาจใช้งานได้ด้วยระบบไฟฟ้าแบบเต็มรูปแบบ ซึ่งเมื่อใดก็ตามเมื่อพลังไฟหมด ก็จะต้องขับรถในอัตราความเร็วที่ต่ำมาก ดังนั้นควรขับรถไปด้วยทั้งสองระบบจะทำให้การทำความเร็วและประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนทำได้ดีกว่า

รูปโฉมดีไซน์ของ โต โย ต้า คั ม รี่ ทั้งสองรูปแบบ

ต้องยอมรับความจริงว่า การออกแบบโฉมหน้าของ โต โย ต้า คั ม รี่ ในส่วนของตัว Premium ทำออกมาได้ดูดีกว่ามากทั้งในส่วนของไฟหน้าและดีไซน์ลำตัว แต่ในช่วงท้ายยังคงต้องมอบตำแหน่งความงามให้กับ รุ่น G ที่ทำรูปทรงได้ทันสมัยและดูโฉบเฉี่ยวมากกว่า นอกจากนั้นแล้ว แทบไม่มีความแตกต่างดันใด คงต้องขึ้นอยู่กับผู้ใช้งานแล้วว่า ต้องการรูปลักษณ์แบบไหน และความแรงรวมไปถึงความประหยัดพลังงานในรูปแบบใด จะคุ้มค่ากับเงินที่ต้องจ่ายเพิ่มไปอีก สองแสนบาทหรือไม่ นี่คือสิ่งที่ต้องพิจารณา

โต โย ต้า คั ม รี่ คือรถเก๋งขนาดการที่มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง สมแล้วที่เป็นเจ้าตลาดของรถเก๋งขนาดกลางที่ครองใจคนทั่วไป ด้วยสนนราคาตั้งแต่ 1.5 – 1.7 ล้านบาท เหมาะสมกับการทำงานทั้งในเมือง และการเดินทางระยะไกล ทดลองขับดูให้มั่นใจแล้วเลือกรถคันที่ใช่ในแบบของคุณ ตามความต้องการการใช้งาน กับรถเก๋งขนาดกลางที่มีพื้นที่การใช้งานที่กว้างขวาง และมีระดับอย่างเต็มเปี่ยม

เรื่อง: กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th